5 กุมภาพันธ์ 2564
อยากไปวิ่งไม่เห็นยาก แค่แต่งตัว สวมรองเท้า วอร์มอัพนิดหน่อย เช่น ยืดแขน ยืดขา ก้มแตะนิ้วเท้าแล้วออกตัววิ่งเลย เป็นสิ่งที่นักวิ่งหลายคนเชื่อ แต่ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำผิดมาโดยตลอด เพราะสุดท้ายจะเกิดคำถามว่าทำไมวิ่งไม่ค่อยออก เหนื่อยง่าย แถมอาการบาดเจ็บถามหา
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายขึ้นเหมือนกับเวลาเราขับรถยนต์แล้วติดไฟแดง ถ้าดับเครื่องรอ พอไฟเขียวรีบสตาร์ทแล้วพุ่งออกไป ใช้ทั้งเวลาและพลังงานมากกว่าการสตาร์ทรถรอจังหวะไฟเขียวติด รถจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วและพร้อมจะออกตัว ไม่มีกระชาก ไม่มีกระตุก แถมไหลลื่นไปตามถนน
การวิ่งก็ไม่ต่างกับการขับรถยนต์ ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เพื่อผลักดันตัวเองไปข้างหน้า คุณต้องให้เวลาให้ร่างกาย กล้ามเนื้อ ข้อต่อ ประสาท ของคุณพร้อมก่อนออกกำลังกาย การวิ่งโดยที่เครื่องดับสนิท มีแต่สร้างผลเสีย ทั้งเหนื่อยง่าย วิ่งได้ไม่ดี แขนขาตึง ที่ร้ายคืออาจเกิดอาการบาดเจ็บได้
แค่ยืดแขน เหยียดขาดันศอก ไม่พอเหรอ?
ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า “ไม่” (ฮา) เพราะการยืดเหยียดโดยยืนอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว คือการยืดเหยียดแบบอยู่นิ่งกับที่ (Static Stretching) ที่เป็นการคลายกล้ามเนื้อ ลดการดึงตัว ซึ่งเหมาะสำหรับการคูลดาวน์ให้เครื่องหายร้อน มากกว่าการเพิ่มความร้อนให้เครื่องยนต์ โดยผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Scandinavian Journal of Medicine & Science in Sports พบว่าการทำ static stretching ก่อนวิ่งหรือออกกำลังกายทำให้ประสิทธิภาพ พละกำลัง ของกล้ามเนื้อลดลง เราจะไม่สามารถระเบิดพลังได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งวิธีการที่ดีคือการยืดเหยียดแบบเคลื่อนไหว
Dynamic Stretching คืออะไร?
เป็นการยืดเหยียดที่ใช้การเคลื่อนไหว (movement) เข้ามาช่วย ประโยชน์คือทำให้กล้ามเนื้อของคุณเตรียมพร้อมสำหรับการวิ่ง เมื่อร่างกายเคลื่อนไหวต่อเนื่อง อุหณภูมิในร่างกายจะเพิ่มขึ้น เหมือนกับสตาร์ทรถยนต์รอพร้อมออกตัว หัวใจเต้นเร็ว เลือดสูบฉีดและไหลเวียนไปทั่วร่างกายและกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อได้รับอ๊อกซิเจน อีกทั้งกระตุ้นระบบประสาทให้เริ่มทำงาน อวัยวะทุกส่วนทำงานสอดประสานกันจากการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง เช่น ข้อต่อ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ข้อเท้า สะโพก ขา กระดูกสันหลัง ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บและเมื่อยล้าเร็วเกินไป ยิ่งใครที่วิ่งตอนเช้าต้องวอร์มอัพให้เยอะกว่าปกติ เพราะอุณหภูมิในร่างกายจะต่ำในช่วงเช้า
คุณสามารถใช้เวลาตั้งแต่ 5-20 นาทีในการวอร์มอัพร่างกายก่อนวิ่งหรือแข่งขัน โดยอาจเริ่มจาก Dynamic Stretching ต่อด้วยจ๊อกอีก 15 นาที (โดยเฉพาะในวันที่แข่งขันหรือใช้ความเร็ว) วันนี้มีท่าวอร์มอัพง่ายๆ 10 ท่าเบื้องต้นมาแนะนำ รับรองเลยว่าหัวใจเต้นแรงแน่นอน
Toy Soldier
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), กล้ามเนื้อที่ใช้งอสะโพก (Hip Flexors) ,แกนกลางลำตัว (core muscle), แขน, หัวไหล่
วิธีทำ:
High Knees
กล้ามเนื้อที่ได้: แกนกลางลำตัว, ขา, น่อง, กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring)
วิธีทำ:
Side Step / Lateral Shuffle
กล้ามเนื้อที่ได้: น่อง, กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อสะโพกที่ใช้งอสะโพก (Hip Flexors), ก้น
วิธีทำ:
Leg Sweeps
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อสะโพกที่ใช้งอสะโพก (Hip Flexors), ก้น, น่อง
วิธีทำ:
Leg Swings
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อสะโพกที่ใช้งอสะโพก (Hip Flexors), ก้น
วิธีทำ:
Lateral Lunges
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), ก้น, กล้ามเนื้อต้นขาด้านใน (adductor muscles)
วิธีทำ:
Walking Lunges
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), ก้น, น่อง, กล้ามเนื้อสะโพก, แกนกลางลำตัว
วิธีทำ:
Butt Kicks
กล้ามเนื้อที่ได้: กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง (hamstring), กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps), ก้น, กล้ามเนื้อที่ใช้งอสะโพก (Hip Flexors)
วิธีทำ:
Balance Arm Swing
กล้ามเนื้อที่ได้: หัวไหล่, กล้ามเนื้อ Lat (Latissimus Dorsi), แขน, ข้อต่อแขน, หน้าอก
วิธีทำ:
Arm Circles
กล้ามเนื้อที่ได้: หัวไหล่, กล้ามแขนส่วนหลัง (triceps), กล้ามแขนส่วนหน้า (biceps)
วิธีทำ:
การวิ่งเป็นกีฬาที่ง่าย ใครๆ ก็วิ่งได้ แต่การเตรียมความพร้อมอย่างถูกวิธี และเหมาะสม ให้เวลากับมัน จะทำให้คุณสนุก และมีความสุขกับการวิ่ง อีกทั้งลดความเบื่อหน่ายจากการเจ็บซ้ำซากแน่นอน
เรื่องน่ารู้สำหรับนักวิ่งมือใหม่
TAG ที่เกี่ยวข้อง