เปิดเงื่อนไข ทำอย่างไรถึงได้แข่งใน แอลพีจีเอ ทัวร์

แอลพีจีเอ ทัวร์ คือการแข่งขันกอล์ฟหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากเต็มไปด้วยนักกอล์ฟชั้นนำ และมีเงินรางวัลมากมาย ดังนั้นการจะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้ก้านเหล็กสาวที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ไขว่คว้าโอกาสเข้าไปร่วมการแข่งขัน โดยแบ่งเป็นหัวข้อหลัก ๆ 2 แบบคือ การได้ลงแข่งเฉพาะรายการ และการคว้าทัวร์การ์ดเข้าร่วมการแข่งแบบเต็มฤดูกาล ซึ่งแต่ละแบบมีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ที่นี่

1.สิทธิ์ลงแข่งเฉพาะรายการ

หัวข้อนี้แบ่งออกเป็น สิทธิ์เชิญหรือไวลด์การ์ดจากสปอนเซอร์หรือฝ่ายจัดการแข่งขัน และสิทธิ์ที่ได้จากการลงแข่งรอบคัดเลือกของรายการนั้น ๆ ซึ่งอย่างแรกคงไม่ต้องอธิบายกันมากนักเพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้สนับสนุนการแข่งขันในแต่ละรายการที่สามารถเชิญนักกอล์ฟมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นเข้าร่วมการแข่งขันก็ได้

ส่วนสิทธิ์ที่ได้จากการแข่งขันรอบคัดเลือก เงื่อนไขในการเข้าร่วมและจำนวนโควต้าขึ้นอยู่กับฝ่ายจัดการแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่นรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2022 รอบคัดเลือก เปิดรับสมัครนักกอล์ฟหญิงมืออาชีพและสมัครเล่นจำนวน 90 คนซึ่งต้องมีแฮนดิแคปหรือแต้มต่อที่ได้รับการรับรองที่ 2.0 หรือน้อยกว่า ลงชิงชัยกัน 2 วัน คัดผู้ชนะเพียง 1 คนเข้าร่วมการแข่งขัน

สำหรับรายการควอลิฟายที่แข่งในสหรัฐฯ แอลพีจีเอ ทัวร์ จะควบคุมดูแลทั้งหมดในมาตรฐานเดียวกัน โดยจัดแข่ง 18 หลุมคัดเอา 2 คนที่ทำผลงานดีที่สุดเข้าร่วมการแข่งขันแต่ละรายการ ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์ลงสมัครนั้นมาจาก สมาชิก แอลพีจีเอ ทัวร์, ซีเมทรา ทัวร์, แอลพีจีเอ โปรเฟสชันแนล คลาส เอ หรือ คลาส บี, สิทธิ์รับเชิญจากผู้สนับสนุนการแข่งขัน, สมาชิกสมาคมกอล์ฟอาชีพสหรัฐฯ หรือ พีจีเอ และนักกอล์ฟหญิงอาชีพ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้หัวข้อนี้จะได้สิทธิ์ลงเล่นเพียงรายการเดียว แต่ถ้าหากคว้าแชมป์ได้สำเร็จก็จะต่อยอดได้รับ ทัวร์ การ์ด ลงแข่งฤดูกาลถัดไปทันที

2.ทัวร์การ์ด ลงแข่งเต็มฤดูกาล

2.1 ผ่านคิวสคูล ระบบการคัดเลือกที่ครอบคลุมของ แอลพีจีเอ ทัวร์

การคว้าทัวร์การ์ดของ แอลพีจีเอ ทัวร์ มีหลายวิธี ซึ่งวิธีหลัก ๆ คือผ่านการแข่งขันคิวสคูลที่มี 3 ระดับไล่ตั้งแต่สเตจ 1, สเตจ 2 และสเตจสุดท้ายคือคิวซีรี่ส์ โดยนักกอล์ฟต้องทำผลงานผ่าน 2 สเตจแรกเพื่อไปลุย คิวซีรี่ส์ ที่ทำการแข่งขัน 8 รอบ 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง ลุ้นทำอันดับติด 45 คนแรกเพื่อคว้าทัวร์การ์ดลุย แอลพีจีเอ ทัวร์ แต่หากพลาดอันดับ ยังมี ซีเมทรา ทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์รองของ แอลพีจีเอ ทัวร์ รองรับ 

สำหรับสเตจ 1 ของคิวสคูลนั้นรับนักกอล์ฟอาชีพหรือสมัครเล่่นอายุ 17 ปีขึ้นไป ที่มีแฮนดิแคปหรือแต้มต่อ 4.0 และมีระยะตีเฉลี่ยรวม 6,200 หลาต่อสนาม คัดเอา 60 อันดับแรกหรือเทียบเท่าผ่านเข้าไปแข่งในสเตจที่ 2 เพื่อคัดเอา 30 อันดับแรกหรือเทียบเท่าไปแข่งคิวซีรี่ส์หา 45 อันดับแรกหรือเทียบเท่าคว้าทัวร์การ์ดลุยแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาลถัดไป โดยแต่ละสเตจของคิวสคูลจะมีนักกอล์ฟจากซีเมทรา ทัวร์ หรือจากเงื่อนไขอื่น ๆ เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่นในฤดูกาล 2021 "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล คว้าตำแหน่งมือ 1 ของ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ทำให้ได้สิทธิ์ลงแข่งคิวสคูลสเตจสุดท้ายคือคิวซีรี่ส์ โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องลงแข่ง 2 สเตจแรกนั่นเอง

2.2 ผ่านการลงเล่นทัวร์นาเมนต์อื่น หรือเงื่อนไขอื่น ๆ

มีเพียงการลงแข่งใน ซีเมทรา ทัวร์ ที่เป็นช่องทางให้คว้าทัวร์การ์ดของ แอลพีจีเอ ทัวร์ โดยตรง ซึ่งต้องทำผลงานติด 10 อันดับแรกของเงินรางวัลสะสม เหมือนอย่างที่ โปรเหมียว หรือแพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ คว้าอันดับ 2 ในฤดูกาล 2019 ทำให้ได้ทัวร์การ์ดลงแข่งฤดูกาล 2020-21 (ได้สิทธิ์แข่ง 2 ฤดูกาลเนื่องจากสถานการณ์โควิด) ขณะที่ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ มีเพียงสิทธิ์ที่มอบให้ 5 อันดับแรกไปแข่งในคิวซีรี่ส์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามการลงแข่ง เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ยังทำให้นักกอล์ฟมีลุ้นคว้าทัวร์การ์ดอัตโนมัติเช่นกัน เนื่องจากมีทัวร์นาเมนต์โคแซงชันหรือทัวร์ผสมที่จัดกับ แอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งหากคว้าแชมป์ได้สำเร็จจะทำให้เข้าเงื่อนไขคว้าทัวร์การ์ดทันที ซึ่งในฤดูกาล 2021 มี 4 รายการรวมทั้งศึกเมเจอร์คือ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ และวีเม่นส์ บริติช โอเพ่น

อีกเงื่อนไขหนึ่งซึ่งเป็นไปได้ยากคือหากนักกอล์ฟได้สิทธิ์ลงแข่งในรายการของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ไม่ว่าจะจากการผ่านรอบคัดเลือก, สิทธิ์ไวลด์การ์ด หรือทัวร์นาเมนต์โคแซงชันแล้วทำผลงานได้ดีทำคะแนน เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ เท่ากับคนที่อยู่ใน 40 อันดับแรกของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ก็จะทำให้ได้ทัวร์การ์ดเช่นกัน แต่ด้วยความที่มีโอกาสลงเล่นไม่มีรายการ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะทำคะแนนสะสมได้มากพอจะผ่านเงื่อนไขนี้

ทั้งหมดนี้คือเงื่อนไขในการได้ลงเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ แต่ยังมีกรณีเงื่อนไขการรักษาทัวร์การ์ดของนักกอล์ฟที่ลงเล่นในทัวร์อยู่แล้ว ซึ่งคงได้นำมากล่าวถึงในโอกาสต่อไป