เทวินทร์ หาญปราบ : จอมเตะชายคนแรกในประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิก

เทควันโด คือหนึ่งในกีฬาความหวังคว้าเหรียญของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์แทบจะทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วชื่อของคนที่ได้เหรียญกลับมานั้น จะเป็นนักกีฬาหญิงเสียส่วนใหญ่ จนเมื่อโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ในที่สุดก็มีนักกีฬาเทควันโดชาย ได้ถูกจารึกว่าเป็นคนแรกของชาติคว้าเหรียญเงินในศึกครั้งนั้นได้สำเร็จ ชื่อของเขาคือ "เทม" เทวินทร์ หาญปราบ

เทวินทร์ เกิดวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เกิดที่จังหวัดปทุมธานี ย่านคลอง 7 จุดเริ่มต้นของเขาเกิดจากทางบ้านกลัวว่า เทม จะกลายเป็นเด็กติดเกมเหมือนคนอื่นๆ และต้องการให้ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ทำให้ตอนเด็กๆนั้น "เทม" กลายเป็นคนที่เล่นกีฬาหลายชนิดทั้ง แบดมินตัน เทนนิส และฟุตบอล แต่แล้ววันหนึ่งเกิดไปสะดุดตาชุดเทควันโดเข้า เลยอยากลองใส่และเล่นกีฬาชนิดนี้ดูจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่เหรียญโอลิมปิก

"เทม" เข้าฝึกฝนเพื่อเป็นจอมเตะ ณ ยิมทวีศิลป์ ย่านคลอง 7 ใกล้บ้าน จนมีโอกาสได้ลงแข่งขันตามการแข่งขันที่มีขึ้นภายในประเทศ ซึ่งเพียงศึกแรกเท่านั้น "เทม" ก็คว้าแชมป์มาครองได้แล้ว ด้วยวัยเพียง 7 ขวบ

"ตอนนั้นไปแข่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยอมรับเลยว่าก็เตะมั่วๆไปงั้นๆ ไม่มีชั้นเชิงอะไร คิดแต่เพียงว่าต้องเตะเขาให้มากที่สุด สุดท้ายแล้วก็ชนะมาได้จากนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เราอยากเอาดีทางด้านนี้ อยากคว้าแชมป์หรือเหรียญรางวัลระดับนานาชาติให้ได้"

เทวินทร์ ขัดเกลาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องแม้จะมีช่วงที่เปลี่ยนไปทางร่ายรำบ้าง แต่ก็กลับมาเดินต่อในประเภทต่อสู้จนคว้าแชมป์ประเทศไทยรวมถึงกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ทำให้ โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ ไม่พลาดที่จะดึงเขาเข้าสู่รั้วทีมชาติ แต่หลังจากนั้นมันก็ได้เปลี่ยนโลกและทัศนคติในการฝึกซ้อมของ "เทม" ไปเลย 

"ตอนแรกไม่คิดว่าจะต้องซ้อมหนักขนาดนี้ในทีมชาติเขาซ้อมกันดุมาก ไปเห็นรุ่นพี่แต่ละคนเอาจริงเอาจังเตะกันแรงๆ ตอนเราซ้อมก็ต้องโดนรุ่นพี่เข้ามารุมเตะ เป็นอะไรที่ทั้งกลัวและท้อมาก แต่ก็พยายามทำใจสู้บวกกับที่ครอบครัวให้กำลังใจ ก็เริ่มปรับทัศนคติตัวเองว่านี่แหละคือระดับทีมชาติ ที่ที่เราตั้งใจว่าจะมาถึงให้ได้"

จอมเตะจากปทุมธานีพยายามอย่างหนักก่อนจะติดทีมชาติไปลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2013 ที่อินโดนีเซีย ในวัย 15 ปี แต่ในศึกครั้งนั้นเขาต้องหยุดอยู่ที่รอบ 8 คนเท่านั้น

"ช่วงติดทีมชาติแรกๆ ผมแพ้ตลอดบอกเลยว่าท้อมากเพราะตอนแข่งในประเทศหรือระดับเยาวชนเราชนะมาโดยตลอด เราชอบคิดว่าตัวเองสูญเสียชีวิตช่วงวัยรุ่นไปเพื่ออะไร ในขณะที่เพื่อนได้ไปนู่นไปนี่แต่ตัวเองต้องมาฝึกซ้อม แต่สุดท้ายเราก็ปรับความคิดและก็มีครอบครัวให้กำลังใจมันทำให้เรากลับมาฮึดต่อ"

"เวลาไปแข่งที่ไหน แม่ก็ไปด้วยคอยดูแลตลอด ทุกๆวันตี 5 ครึ่ง ผมจะออกไปวิ่งในหมู่บ้านก่อนไปโรงเรียน แม่ก็คอยให้กำลังใจ บอกว่าถึงเราแพ้ เราก็ยังมีแมตช์หน้าให้ชนะอยู่นะ ทำให้ผมรู้ว่ามีคนคอยสนับสนุนเราอยู่ อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไปต่อได้คือ ผมเชื่อว่าคนเรามันผิดหวังไม่ได้ตลอดหรอก มันยังมีความสำเร็จที่รอเราอยู่”

"เทม" ที่กลับมามีกำลังใจได้พยายามจนพาตัวเองเข้าร่วม ยูธโอลิมปิก 2014 ที่หนานจิง ประเทศจีนได้สำเร็จ ถึงสุดท้ายแม้เขาก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน เพราะหนุ่มน้อยคนนี้รู้อยู่แล้วว่ารอบตัวเขามีคนที่ยังคอยสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สต๊าฟโค้ช และบรรดารุ่นพี่ในรั้วทีมชาติ จนกระทั่งโอกาสครั้งใหม่ผ่านเข้ามาถึงอีกครั้ง เมื่อ โค้ชเช ยอง ซอก เลือกให้เขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่จะเดินทางไปชิงโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

“ผมดีใจมากเพราะเราเพิ่งขึ้นมาในรุ่นประชาชนตอนนั้น แต่โค้ชเขาก็เลือกให้เราไป ตอนนั้นเป้าหมายของผมขอแค่ได้ไปเหยียบบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิกก็พอ ผมไม่ได้สนว่าตัวเองจะแพ้หรือชนะ ได้เหรียญหรือไม่ได้เหรียญ แค่ได้ไปสัมผัสก็คือที่สุดของชีวิตแล้ว”

ด้วยความที่ครั้งนี้เขาไม่ได้คาดหวัง และกดดันตัวเองว่าจะต้องชนะคว้าเหรียญให้ได้ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ "เทม" ในวัย 18 ปี ผู้ผ่านความล้มเหลวและผิดหวังมาอย่างโชกโชน คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ได้สำเร็จ แม้รอบแรกจะต้องของแข็งอย่าง คิม แต ฮุน จอมเตะชื่อดังจากเกาหลีใต้ที่ไม่เคยมีนักเทควันโดไทยคนไหนเอาชนะได้มาก่อน แต่ "เทม" ที่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมก็จัดการช็อกโลก ด้วยการเอาเตะล้มคู่ต่อสู้คนนี้ลงด้วยสกอร์ 12-10 ก่อนจะฟอร์มดีต่อเนื่องชนะอีก 2 แมตช์ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เทวินทร์ ต้องพบกับ เจา ฉ่วย จอมเตะจากจีน แม้สุดท้าย "เทม" จะไม่ได้ขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของโพเดี้ยม เพราะพ่ายให้กับคู่ต่อสู้รายนี้ไป 4-6 คะแนน แต่ "เทม" ก็กลายเป็นชายไทยคนแรกที่คว้าเหรียญเงิน เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ รุ่น 58 กิโลกรัม

“ทุกอย่างสำคัญมาก ถ้าไม่ได้องค์ประกอบจากคนรอบข้างสนับสนุน ผมอาจไปไม่ถึงฝัน นักกีฬาต้องการคนสนับสนุน เพราะแค่กำลังของนักกีฬาเองคนเดียวอาจไปไม่ถึงฝัน แต่ถ้ามีหลายๆคน ที่มาคอยสนับสนุนหรือผลักดัน เราก็มีโอกาสจะไปถึงได้ วันนี้ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผมประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตแล้ว ผมเดินทางมาเกินฝันที่ผมตั้งใจไว้แล้ว”