ชนาธิป ซ้อนขำ : จากนักสร้างความสำเร็จเบื้องหน้าสู่เบื้องหลัง

ถือเป็นนักเทควันโดหนึ่งเดียวที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาครองได้สำเร็จสำหรับ "เล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ จอมเตะรุ่น 49 กิโลกรัม ที่ภายหลังกลายมาเป็นต้นแบบให้กับนักเทควันโดหญิงไทยหลาย ๆ คน

"เล็ก" ชนาธิป เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2534 จังหวัดพัทลุง เป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายคำนึง และนางณัฐชยา ซ้อนขำ จากบรรดาพี่น้องทั้งหมด 3 คน จุดเริ่มต้นในการเล่นเทควันโดของ ชนาธิป ต้องบอกว่าคล้ายกับนักเทควันโดคนอื่นๆทั่วไปคืออยากจะลองใส่ยูนิฟอร์มเท่ๆดูสักครั้ง จนช่วงปิดเทอมมัธยมศึกษาปีที่ 1 กำลังจะขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชนาธิป ก็ตัดสินใจฝึกซ้อมเทควันโดอย่างจริงจัง

"ตอนใส่ชุดเทควันโดครั้งแรกมันเท่มาก บอกตรงๆว่าใส่เดินกลับบ้านอวดคนทั้งตลาดเลย ก็คิดว่านี่แหละคือทางของเรา" 

"เล็ก" ซ้อมเทควันโดอยู่ราว 2-3 เดือน ชานนท์ แซ่โค้ว โค้ชผู้ฝึกสอนที่อยู่กับเธอมาตลอดก็ทาบทามให้ลองลงแข่งขันในรายการของหอการค้าไทย ในกทม. ซึ่งผลการแข่งขันตอนนั้นก็เป็นไปตามคาดคือตกรอบแรก แต่เธอก็ยังกลับไปซ้อมหนักเรื่อยๆ จนได้มีโอกาสไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ รวมถึงโคเรีย โอเพ่น ทำให้ฝีเท้าที่มีไปสะดุดตาโค้ชเช ยอง ซอก จึงถูกเรียกตัวเข้าสู่รั้วทีมชาติในที่สุด

"หลังจากแพ้ที่กรุงเทพก็กลับมาซ้อมหนักมาก บอกตรงๆว่าท้อทุกวันแต่พอเราได้ไปแข่งขันในที่ต่างๆแล้วมันมีค่าตอบแทนกลับมา ก็ทำให้รู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่เราสามารถแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้ เลยอยากจะใช้ทางนี้ในการหาเลี้ยงชีพ"

ชนาธิป ในวัย 17 ปี ติดทีมชาติครั้งแรกในรายการเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจอร์แดน ปี ค.ศ.2007 ซึ่งตอนนั้นเธอก็คว้าเหรียญทองกลับมาได้สำเร็จ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของเธอในนามทีมชาติ

จอมเตะจากพัทลุง ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของเทควันโดทีมชาติไทยในเวลาต่อมา ทุกครั้งที่ไปแข่งขันเธอมักจะมีเหรียญรางวัลติดมือกลับมาตลอดไม่ว่าจะเป็น เหรียญเงินเทควันโดเยาวชนชิงแชมป์โลก ที่ตุรกี ค.ศ. 2008, เหรียญทองแดง กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่เซอร์เบีย ปี 2009, เหรียญทองแดง เทควันโดชิงแชมป์เอเชีย ที่คาซัคสถาน ปี 2010 และเหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2010 ที่กว่างโจว ประเทศจีน

"เวลาไปต่างประเทศ เล็ก เป็นคนที่ไม่รู้จักคู่แข่งเลยว่าใครเก่งยังไง มีดีกรีขนาดไหนเรารู้สึกว่าเราก็เตะไปตามที่เราฝึกซ้อมมาทำไปตามที่โค้ชบอก ช่วงที่ก้าวมาติดทีมชาติใหม่ๆ พี่ๆนักข่าว หรือพี่ๆในทีมชาติก็จะมาแซวว่าเราเป็นม้ามืดอะไรแบบนี้ แต่ เล็ก ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเราไม่ค่อยรู้จักใครอยู่แล้ว"

เมื่อเข้าสู่ศึกสำคัญ ชนาธิป สามารถคว้าตั๋วเข้าไปสู่โอลิมปิกเกมส์ 2012 ได้ตามคาด โดยรอบแรกเธอผ่านคู่แข่งมาได้ไม่ยาก ด้วยการไล่ต้อนเอาชนะ คริสติน่า คิม จากรัสเซีย รองแชมป์ยุโรปปี 2012 ไปแบบขาดลอย 13-1 จากนั้น ชนาธิป ยังฟอร์มแรงต่อเนื่องในรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการเอาชนะ หยาง ซู เฉิน ตัวเต็งจากไต้หวันไปแบบขาดลอย 6-0 แต่ทว่าในรอบรองชนะเลิศ "เล็ก" มาพลาดในช่วงปลายยกสุดท้าย พ่ายต่อ ยาเก้ เอ็นริเก้ บริกิตเต้ สาวจากสเปนไปแบบระทึก 9-10 ทำได้เพียงเข้าไปชิงเหรียญทองแดง

"ช่วงเวลานั้นอารมณ์มันตีกันอย่างบอกไม่ถูก ทั้งดีใจ และก็เสียใจในเวลาเดียวกัน เสียใจที่เราดันพลาดในช่วงสุดท้าย แต่ก็ต้องตั้งสติกลับมาเพื่อมีสมาธิในการแข่งขันชิงเหรียญทองแดง บอกตัวเองว่าอย่าทำให้ตัวเองผิดหวัง อย่าทำให้คนอื่นผิดหวัง ที่สำคัญเลยถ้าเราเอาเหรียญกลับไปบ้านได้ ก็จะแบ่งเบาภาระทางบ้านได้เยอะมาก"

ในรอบชิงเหรียญทองแดง ชนาธิป ที่เรียกสติกลับมาไม่ทำให้ชาวไทยผิดหวัง เธอแก้ตัวด้วยการเอาชนะ ซาโมร่า กอร์ดิลโล่ จอมเตะสาวจากกัวเตมาลา ไปแบบสบายๆ 8-0 คะแนน คว้าเหรียญทองแดง จารึกชื่อเป็นหนึ่งในฮีโร่โอลิมปิกได้สำเร็จ หลังจากนั้น ชนาธิป ยังคงเป็นตัวหลักของทัพเทควันโดไทย สร้างความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเหรียญทองชิงแชมป์โลก ปี 2013, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014, เหรียญทองซีเกมส์ 2015, เหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก ปี 2015 เรียกได้ว่าเกือบคว้าทุกความสำเร็จมาเชยชมเหลือเพียงโอลิมปิกเกมส์ เท่านั้นที่เธอยังไม่เคยไปถึงจุดสูงสุด ทำให้ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ชนาธิป หมายมั่นปั้นมืออย่างเต็มที่ในการมาเก็บความสำเร็จชิ้นสุดท้าย

แต่แล้วทุกอย่างกับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจเมื่อช่วงเวลาเดียวกันนั้น วงการเทควันโดไทย มีดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นในรุ่นเดียวกัน ก่อนที่สุดท้ายแล้ว โค้ชเช ยอง ซอก และ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโด จะตัดสินใจเลือกให้ “น้องเทนนิส” เป็นผู้ใช้โควตารุ่น 49 กิโลกรัมไปลุยโอลิมปิกเกมส์ 2016

“ตอนนั้นยอมรับว่าเศร้าและเสียใจมาก แต่ผู้ใหญ่ก็ให้เหตุผลที่ต้องเลือกน้องเทนนิส ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ สรีระร่างกายและอนาคต ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่เรายอมรับได้ เข้าใจได้ ประกอบกับตอนนั้นเลยจุดสูงสุดของตัวเองมาแล้ว จึงถือโอกาสอำลาทีมชาติเพื่อเปิดโอกาสให้น้องได้ก้าวขึ้นมา หากย้อนไปวันนั้นคิดว่าตัวเองเลือกถูกแล้วที่ถอยออกมาเพื่อส่งไม้ต่อให้กับน้องเทนนิส ดีใจกับน้องด้วยที่วันนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก”

ปัจจุบัน “เล็ก” ชนาธิป รับราชการทหารบกพร้อมทั้งยังกลับมาเป็นโค้ชให้กับเทควันโดไทย คอยขัดเกลาและถ่ายทอดประสบการณ์ให้รุ่นน้องในทีมชาติ ไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน ชนาธิป ยังคงเป็นบุคคลที่วงการเทควันโดจะขาดไม่ได้