stadium

แก้ว พงษ์ประยูร : ชัยชนะของผู้แพ้บนเวทีมวยโอลิมปิก 2012

14 มิถุนายน 2567

“แม่ครับผมทำได้แล้ว ผมเอาเหรียญโอลิมปิกกลับไปฝากแม่ได้แล้ว” แก้ว พงษ์ประยูร กล่าวด้วยความดีใจหลังจากลงเวทีในรอบ 8 คนสุดท้าย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศมวยสากลสมัครเล่นโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้สำเร็จ

 

 

แก้ว พงษ์ประยูร เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2523 บ้านเกิดอยู่ที่ ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่ง แก้ว พงษ์ประยูร เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน เริ่มต้นจากสังเวียนมวยไทย ตั้งแต่อายุ 12 โดยใช้ชื่อว่า เกตุแก้ว ว.ถิ่นทัพไทย ผ่านการชกมากกว่า 100 ไฟต์ จนอายุได้ 17 ปี อาจารย์ กามนิต นารีรักษ์ โค้ชมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยในขณะนั้นเห็นแวว เลยทาบทามให้มาชกมวยสากลสมัครเล่น ก่อนจะใช้เวลา 3 ปี ติดทีมชาติไทย ไปคว้าความสำเร็จมากมายหลายรายการ โดยเฉพาะในศึกซีเกมส์ ลงชกทั้งหมด 6 สมัย คว้าเหรียญทองได้ 4 ครั้ง เหรียญเงิน 1 ครั้ง และเหรียญทองแดง 1 ครั้ง

 

เห็นวาดลวดลายในอาเซียนขนาดนี้ แต่ในระดับทวีป แก้ว พงษ์ประยูร ดูเหมือนจะยังไม่สามารถก้าวขึ้นไปพิสูจน์ฝีมือในระดับทวีปหรือระดับโลกได้ โดยในการแข่งขันคัดเลือกมวยเพื่อไปเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กวางโจว ประเทศจีน แก้ว ต้องพ่ายคะแนนให้กับเพื่อนร่วมแคมป์ทีมชาติอย่าง อำนาจ รื่นเริง ทำให้เจ้าตัวรับไม่ได้กับความผิดหวังนี้ ก่อนจะประกาศอย่างแน่วแน่ว่าจะอำลาวงการ พร้อมเก็บข้าวของออกจากแคมป์ทีมชาติ ตรงกลับไปยังที่พึ่งที่สบายใจที่สุดที่เรียกว่าบ้านเกิด

 

"ทุกคนในบ้านทราบข่าวของผม แต่ทุกคนไม่ถามอะไรเลยกับต้อนรับผมเป็นอย่างดี พอสบายใจแล้วแม่ก็เข้ามาพูดกับผมว่าให้ใจเย็นๆ แล้วลองทบทวนอีกครั้งว่าที่ตัดสินใจไปถูกหรือไม่"

คำพูดของแม่ในตอนนั้นเป็นสิ่งที่ฉุด แก้ว ให้กลับมาอยู่ในเส้นทางความฝันของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับให้สัญญากับแม่และครอบครัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องไปให้ถึงโอลิมปิกเกมส์และคว้าเหรียญรางวัลมาเชยชมให้ได้

 

 

แก้ว เดินทางเข้ากรุงและเก็บตัวฝึกซ้อมอีกครั้งโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ โอลิมปิกเกมส์ 2012 และเขาก็สามารถคว้าตั๋วไปวาดลวดลายในกรุงลอนดอนได้จริงๆ ด้วยวัย 32 ปีในขณะนั้นทำให้โอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของนักชกกำแพงเพชรรายนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะเสีย แก้ว เดินหน้าโชว์ฟอร์มชนะใจคนดู โค่นคู่แข่งคนแล้วคนเล่าจนเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ พบกับ ซู ชิ หมิง แชมป์เก่าจากจีน 

 

ก่อนการชกนั้น แก้ว พงษ์ประยูร นักชกโนเนมจากไทย (ในสายตาคนทั้งโลก) ถือว่าเป็นรองยอดนักชกจากจีนหลายขุม แต่เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น แก้ว ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าเขานี่แหละคือคนที่จะมาล้มแชมป์ และกลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ แต่นอกจากฝีมือที่แก้วมี คงยังไม่เพียงพอเพราะการตัดสินของกรรมการดูจะไม่เข้าทางนักชกขวัญใจชาวไทยรายนี้สักเท่าไหร่ ในวันนั้น แก้ว ชกดีจริง แต่ขณะเดียวกันก็โดนเตือนโดนตัดแต้มเป็นว่าเล่นก่อนที่ครบ 3 ยก ผลที่ออกมาจะค้านสายตาแฟนมวย  กรรมการชูมือให้ ซู ชิ หมิง ชนะ แก้ว ไปด้วยคะแนน 13-10 ทำเอา แก้ว ถึงกับเข่าอ่อนและร้องให้ออกมาด้วยความเจ็บใจ

 

“เสียใจมากครับคำตัดสิน ยก 5 มาตัดคะแนนผม แต่ผมไม่ได้ทำความผิดอะไรตัดผมทำไม แล้วก้มต่ำกดผมตลอดแต่เขาไม่เคยผิดไม่เคยว่าตุกติกเยอะมาก กรรมการช่วยทุกอย่าง ทุกคนก็เห็นอยู่ว่าผมแพ้หรือชนะ ฝากขอบคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนด้วย ผมเอาเหรียญทองกลับไปให้พี่น้องชาวไทยไม่ได้ ผมพยายามสุดความสามารถของผมแล้ว กราบขอบพระคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนผม ผมขอโทษด้วยครับ

วันนั้น แก้ว ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นาทีนั้นแฟนมวยชาวไทยรวมถึงทั่วโลกคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดของ แก้ว พงษ์ประยูร ที่จะเรียกได้ว่าถูกปล้นชัยชนะก็คงไม่ผิดนัก เชื่อว่า แก้ว คงไม่มีวันลืมความผิดหวังและความเจ็บใจกับผลการตัดสินครั้งนั้นเป็นแน่ ขณะที่แฟนกีฬาชาวไทยรวมถึงทั่วโลก ก็จะไม่ลืมเช่นกัน ว่าแท้ที่จริงแล้ว เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 49 กิโลกรัม โอลิมปิกเกมส์ 2012 คือนักมวยที่ชื่อ แก้ว พงษ์ประยูร


stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

stadium olympic