stadium

เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล กับความสำเร็จที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่าอีกครั้ง

19 กุมภาพันธ์ 2563

ฝ่ามรสุมชีวิตมายาวนานกว่าจะขึ้นทำเนียบเกียรติยศเป็นนักกีฬาเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ สำหรับ “เอ” เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล จอมพลังสาวไทยสู้ชีวิตอีกคนหนึ่ง จนกระทั่งถูกเลื่อนจากอันดับ 5 มาเป็นอันดับ 3 พร้อมคว้าเหรียญทองแดง รุ่น 48 กก.หญิง ย้อนหลังจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน 

จากจุดเริ่มต้น เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2527 ในชื่อเดิมว่า เพ็ญศิริ แซ่เล้า เป็นชาวทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เธอเป็นน้องสาวคนเล็กที่สุดจากพี่น้องทั้งหมด 4 คน อยู่ในครอบครัวที่ทั้งคุณพ่อ และคุณแม่เป็นครูอัตราจ้างสอนอยู่โรงเรียนกีฬาทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่เธอกลับเลือกเส้นทางในการเล่นกีฬายกน้ำหนัก

 

 

เพ็ญศิริ อาศัยความมุ่งมั่นอดทนจนก้าวขึ้นมาสร้างชื่อในการเป็นนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย และผ่านการคว้าเหรียญเงินในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2006 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ และคว้าเหรียญทองแดงจากศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2007 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง เพ็ญศิริ นับเป็นอีกหนึ่งความหวังสำคัญของทัพยกเหล็กไทยในศึกโอลิมปิก 2008 แต่ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนั้น น้องเอ พลาดท่าทำผลงานจบเพียงอันดับ 5 ในกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 48 กก.หญิง ชวดคว้าเหรียญรางวัลไป พร้อมกับได้เพียงแค่เหลือบตามองเพื่อนร่วมทีมชาติรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง “เก๋” ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ไปครองได้สำเร็จ

 

“ตอนนั้นเสียดายมากค่ะ เพราะว่าในการแข่งขันวันนั้นตั้งใจแบบมากๆ และเป็นนักกีฬายกน้ำหนักไทยคนแรกที่ลงแข่งขันด้วย ซึ่งก็อยากได้เหรียญมากเลยในตอนนั้น” เพ็ญศิริกล่าว

 

และไม่รู้ว่าเป็นเคราะห์หรือเวรกรรมอันใดที่มันยังไม่สาแก่ใจกับกับจอมพลังสาวไทยคนนี้ เพราะหลังจากกลับมาจากโอลิมปิกเกมส์ไม่นาน เพ็ญศิริ ก็โชคร้ายประสบเหตุไฟไหม้ห้องพักในพื้นที่ของกองกำลังทหารพัฒนาที่ 3 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้เธอต้องเสียสุนัชชิสุ 2 ตัว รวมถึงทรัพย์สินที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรง

 

“เพ็ญศิริ” ต้องกล้ำกลืนและเกลียดชังกับโชคชะตาที่เล่นตลกกับเธอเรื่อยมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป 9 ปี คำว่า “ฟ้าหลังฝน” ก็เกิดขึ้นกับเธอจนได้ความมุ่งมั่นพยายามที่ เพ็ญศิริ เคยทำไว้ได้กลับคืนมาตอบสนองให้เธอได้กรี๊ดอย่างสุดเสียงเหมือนอย่างคนอื่นเขาบ้าง เมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ปรับอันดับให้ เพ็ญศิริ ขยับจากอันดับ 5 ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 พร้อมคว้าเหรียญทองแดง เนื่องจากตรวจพบสารต้องห้ามในนักกีฬายกน้ำหนักจากจีน และนักกีฬายกน้ำหนักตุรกี

 

 

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ส่งมอบเหรียญทองแดง พร้อมกับเข็มเชิดชูเกียรติ มาให้กับ เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2560 ทำให้เธอได้สมหวังตามความฝันกับการเป็นนักกีฬาเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์หลังจากใช้เวลารอคอยมานานกว่า 9 ปี และไม่คาดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวดีตามมาเป็นสองเด้งเมื่อลูกคนที่สองลืมตาขึ้นมาทันดูความสำเร็จของคุณแม่ที่ได้ทุ่มเทความพยายามสร้างขึ้นมา โดยที่คุณแม่เพ็ญศิริ ได้นำเงินรางวัลที่ได้ย้อนหลังให้กับครอบครับทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมทั้งเป็นทุนการศึกษา และเลี้ยงดูลูกๆ ทั้งสองคนของเธออีกด้วย

 

“ความรู้สึกจากวันนั้นและวันนี้มันแตกต่างกันแบบเหมือนว่าวันนั้นมีแต่สิ่งที่เลวร้าย ทั้งไม่ได้เหรียญรางวัลและไฟไหม้ห้องพัก ที่จังหวัดเชียงใหม่ มันก็เหมือนสองเด้งไปเลย แต่วันนี้พอได้เหรียญก็เหมือนเป็น 9 ปีที่รอคอย ซึ่งเงินรางวัลที่ได้มาจากการคว้าเหรียญทองแดงก็คงจะต้องให้พ่อกับแม่ก่อน และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นทุนการศึกษาของลูกค่ะ”

 

เรื่องราวของ “เอ” เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล จอมพลังสาวไทยรายนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับใครหลายคนที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ นานาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต ซึ่งสักวันหนึ่งข้างหน้าเราจะก้าวผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปด้วยคราบน้ำตา และหันกลับมามองมันด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ...

 


stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

100 day to go olympic 2024
stadium olympic