13 มิถุนายน 2567
การคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ว่ายากแล้ว แต่การเอาเหรียญที่นักกีฬาทั่วโลกอยากได้มาคล้องคอถึง 2 สมัยติดกันนั้นยากกว่า สาวหล่อที่ชื่อ "แต้ว" พิมศิริ ศิริแก้ว ทำได้ และยังเป็นเหรียญเงินทั้งสองสมัยอีกด้วย
"แต้ว" พิมศิริ อีกหนึ่งฮีโร่ที่นำความสำเร็จและความภาคภูมิใจมาสู่ชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2533 พื้นเพอยู่ที่ อ.มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น แรกเริ่มเดิมทีนั้นแต้ว ออกสตาร์ตการเล่นกีฬาด้วยการเป็นนักวิ่งประจำโรงเรียน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นผู้ที่ยืนหนึ่งในการวิ่งระยะสั้น แต่หลังจากที่ได้เข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ช่วงมัธยมศึกษา ทั้งคู่แข่งและขีดจำกัดทางร่างกายที่สูงไม่มาก ก็ทำให้เธอเริ่มจะรู้ตัวว่าบางทีเส้นทางนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับเธอ ประจวบเหมาะกับ ครูผู้สอนชักนำให้มาลองยกน้ำหนัก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานฮีโร่เหรียญโอลิมปิก
สาวหล่อจากมัญจาคีรี ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองจนก้าวเป็นตัวแทนของโรงเรียน และเริ่มต้นด้วยการเข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติในนามจังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะเข้าสู่รั้วทีมชาติ ปี พ.ศ. 2549 และได้เดบิวต์ศึกแรกกับนานาชาติ ปี พ.ศ. 2551 ในรายการเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก รุ่น 58 กิโลกรัม ก่อนจะสามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ จากนั้น "แต้ว" ยังคงสร้างความสำเร็จให้กับทัพยกเหล็กไทยอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2552 คว้าเหรียญเงิน ซีเกมส์ ที่ประเทศลาว ต่อด้วย เหรียญทอง ซีเกมส์ ที่อินโดนีเซีย รุ่น 63 กิโลกรัมในอีก 2 ปีต่อมา เข้าสู่ปี พ.ศ. 2555 พิมศิริ ได้รับโอกาสสำคัญ เมื่อสามารถคว้าตั๋วไปล่าเหรียญรางวัลในมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ "โอลิมปิกเกมส์" ซึ่งตอนนั้น "แต้ว" ยอมรับตรงๆว่าไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้
"สมัยเด็กๆช่วงที่ยังเป็นนักกีฬาใหม่ แต้วไม่เคยรู้จักโอลิมปิกเกมส์เลย ไม่รู้เลยว่ามันมีความสำคัญอย่างไร รู้แค่เพียงว่าเล่นกีฬามันสนุก ติดทีมชาติได้เงินอะไรแบบนี้ แต่พอเราได้เข้ามาเป็นนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติ เรามีรุ่นพี่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีอย่าง พี่ไก่ (ปวีณา ทองสุก) ทำให้เราอยากจะทำให้ได้อย่างพี่เขาบ้าง มันค่อยๆซึมซับจนเกิดเป็นเป้าหมายของตัวเองว่าสักวันหนึ่งเราต้องไปคว้าเหรียญที่โอลิมปิกเกมส์ ให้ได้"
จากเด็กที่ไม่เคยรู้จักว่าโอลิมปิกเกมส์คืออะไร ตอนนั้นโอลิมปิกเกมส์ได้ทำให้สาวหล่อจากมัญจาคีรีได้รู้ซึ้งถึงคำว่าฝันเป็นจริง เมื่อเธอสามารถยกท่าสแนตช์ และคลีนแอนด์เจิร์ก รวมกันที่ 236 กิโลกรัม ซิวเหรียญเงิน รุ่น 58 กิโลกรัมหญิง โอลิมปิกเกมส์ 2012 "ลอนดอนเกมส์" สร้างความภาคภูมิใจต่อคนไทยทั้งประเทศ
ตำนานฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ ชื่อ "แต้ว" ไม่จบเพียงเท่านี้
พิมศิริ ยังคงลงแข่งขันในนามทีมชาติไทย อีกหลายต่อหลายรายการทั้ง กีฬามหาวิทยาลัยโลก, ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, ชิงแชมป์โลก เพื่อรอให้ศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ เวียนวนมาอีกครั้ง เมื่อเวลาเดินทางมาถึงปี 2016 พิมศิริ กลับมายังเวทีที่รอคอย ในประเทศบราซิล เพียงแต่ครั้งนี้เธอไม่ใช่นักกีฬาโนเนมอีกต่อไป หากแต่พกดีกรีเจ้าของเหรียญเงินครั้งก่อนมาด้วย
ศึกครั้งนี้ นอกจากจะต้องคว้าเหรียญให้ได้แล้ว "แต้ว" ยังได้รับมอบหมายหน้าที่อันสำคัญอีกหนึ่งอย่างนั่นคือการเรียกน้ำหนักกดดัน กั้ว ซิง ชุน จอมพลังสาวจากไต้หวัน และปล่อยให้ "น้องฝ้าย" สุกัญญา ศรีสุราช ทำน้ำหนักของตัวเองแบบที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ด้วยประสบการณ์และความใจกว้างของ "แต้ว" เธอทำหน้าที่และเป้าหมายที่ได้รับมาอย่างดีเยี่ยม ทำน้ำหนักรวม 232 กิโลกรัม คว้าเหรียญเงินมาครองอีกสมัย โดยเฉือนชนะจอมพลังไต้หวัน ที่ทำได้ 231 กิโลกรัม นอกจากนั้น "แต้ว" ยังทิ้งโอกาสคว้าเหรียญทอง ไม่ขอขึ้นลองยกน้ำหนักครั้งสุดท้ายเพื่อหลีกทางให้ "น้องฝ้าย" รุ่นน้องที่ขณะนั้นทำน้ำหนักรวมอยู่ที่ 240 คว้าเหรียญทองไปครอง
"ตัวแต้วเองรู้จุดอ่อนของนักกีฬาไต้หวันคนนี้เป็นอย่างดี เรารู้ว่าเขาเสียสมาธิได้ง่าย ตอนอยู่ในห้องเตรียมตัวก็มีหลายครั้งที่ แต้ว ตะโกนเรียกพลังดังๆเพื่อให้เขาไม่มีสมาธิ แล้วมันก็ได้ผล สำหรับกีฬายกน้ำหนักอาจจะเป็นกีฬาประเภทบุคคลแข่งขันคนเดียว แต่อยากจะบอกว่าหลังฉากเราทำงานร่วมกันเป็นทีม ทั้งนักกีฬา สตาฟฟ์โค้ช และผู้บริหารสมาคมฯ ไม่เสียใจเลยที่ทิ้งโอกาสการลุ้นเหรียญทองไป เพราะทั้งแต้วและน้องฝ้าย ก็บรรลุเป้าหมายสำคัญแล้วคือการเอาเหรียญทอง และเหรียญเงินอันนี้ไปฝากคนไทยทั้งประเทศ"
แม้ว่าเหตุผลที่ "แต้ว" ไม่ขอยกในการเรียกน้ำหนักครั้งสุดท้ายนั้น จะเป็นเรื่องของน้ำหนัก "น้องฝ้าย" ที่ทิ้งห่างไปไกลหรือเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ แต่รับรองได้ว่าหากเป็นคนอื่นคงไม่ยอมทิ้งโอกาสการลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ไปง่ายๆ นี่จึงทำให้ "แต้ว" ถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่ ผู้เสียสละอย่างแท้จริง
TAG ที่เกี่ยวข้อง