stadium

เยาวภา บุรพลชัย : ความสำเร็จที่ทำให้คนไทยหันมาเล่นเทควันโดทั้งประเทศ

19 กุมภาพันธ์ 2563

สาวน้อยที่ทำให้กีฬาเทควันโดอยู่ในสังคมไทยจนถึงทุกวันนี้ “วิว” เยาวภา บุรพลชัย จอมเตะสาวในวัย 20 ปี เธอก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่หญิงอีกคนจากโอลิมปิกเกมส์ในกีฬาที่ยังไม่เป็นที่คุ้นหูของคนไทยด้วยซ้ำ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรีของ ร้อยตรีธำรง นักกีฬาเพาะกายตัวยง และนางสมศรี บุรพลชัย แม่ค้าขายปาท่องโก๋ในเวลานั้น

 

เธอเล่นกีฬาหลายชนิด เนื่องจากบ้านพักของครอบครัวอยู่ในค่ายทหาร ทั้งบาสเกตบอล, แบดมินตัน และ วิ่งระยะไกล กับพ่อที่เป็นนักกล้าม ทำให้เธอมีพื้นฐานร่างกายที่ยอดเยี่ยมเป็นทุนอยู่แล้ว กระทั่งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่เข้ามาเติมเชื้อไฟให้ “วิว” เยาวภา ต้องการที่จะเป็น “ทีมชาติ” แต่กีฬาทีจุดประกายให้ วิว กลับกลายเป็น มวยสากลสมัครเล่น ที่หนนั้นคว้าไปถึง 5 เหรียญทอง 3 เหรียญทองแดง

 

 

แต่อีกมุมหนึ่งของเอเชียนเกมส์ครั้งนั้น เทควันโดไทยที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก มี 3 เหรียญเงินติดมือ “วิว” เยาวภา เดินหน้าไล่ล่าความฝัน จนมาพบรักกับกีฬาเทควันโด ที่โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี แม้ฐานะทางบ้านไม่ได้สู้ดีนักผิดกับนักกีฬาเทควันโดคนอื่นๆ 

 

แต่พ่อแม่ของ เยาวภา หนุนลูกเต็มที่ แม่ไปตระเวณหาเสื้อเทควันโดมือสองจากคลองถม ส่วนพ่อก็เทียวรับเทียวส่ง เนื่องจากต้องเดินทางไปซ้อมที่ ม.เกษตรศาสตร์ หรือ ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น สลับกัน ฝึกซ้อมได้เพียงแค่เดือนเดียว เยาวภาก็แผลงฤทธิ์ตั้งแต่รายการแรกด้วยเหรียญทอง จากนั้นเดินหน้ากวาดเรียบทุกสถาบันในประเทศก่อนจะกวาดแชมป์ในประเทศแทบทุกสถาบัน จนเป็นนักเทควันโดดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคเมื่อกวาดเหรียญในประเทศเกือบหมด 

 

ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ประเทศไทย 2 สมัย(2542-2543) เหรียญทองสโมสรนานาชาติ 2543,  แชมป์กรุงเทพมหานคร 2543, แชมป์เทควันโดเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย  2 สมัย 2542-2543  แชมป์กรมพละ 2 สมัย 2542-2543 จนถูกเรียกติดทีมชาติในนามเยาวชนทีมชาติ เข้าแคมป์และแข่งขันระดับเยาวชนได้ 1 ปีก็ก้าวขึ้นมาเป็นทีมชาติชุดใหญ่ ในช่วงเวลาเดียวกับที่สมาคมเทควันโด เพิ่งจะดึง “เช ยอง ซอก” เฮดโค้ชหนุ่มจากเกาหลีใต้เข้ามา

 

จากวันนั้น เยาวภา ที่เก่งอยู่แล้ว ยิ่งเหมือนพยัคฆ์ติดปีก เช ยอง ซอก เปลี่ยน เยาวภา เป็นจอมเตะระดับโลกในเวลาไม่นาน จนเธอได้โอกาสเล่นในทัวร์นาเมนต์ในฝันของเธอเองคือ เอเชียนเกมส์ในปี 2002 ที่ปูซาน และจบผลงานด้วยเหรียญเงิน ในพิกัด ฟลายเวต 51 ก.ก. ชนิดแพ้คะแนนดิบให้ ลิม ซู จอง จอมเตะเจ้าภาพที่ต่อมาเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ในรอบชิงฯ ไม่เพียงแค่ทัวร์นาเมนต์ในฝันจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เยาวภาพ ยังเอาเงินรางวัลทั้งหมดจากเอเชียนเกมส์ ปลดหนี้ให้ครอบครัวได้ลืมตาอ้าปากเสียที 

 

 

เยาวภา ยังคงแรงต่อเนื่อง คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2004 ได้ตามคาดและเดินทางไปแข่งขันแบบมีความหวังในพิกัด 49 ก.ก. เอาชนะ บริกิต ยากู จากสเปนในรอบแรก 9-5 รอบสอง พลาดท่าพ่าย ยาเนลิส ลาบาดา จากคิวบา 1-3 ต้องลุ้นให้สาวคิวบาเข้าถึงรอบชิงฯ เพื่อจะได้โอกาสเล่นในรอบแก้ตัว และ เธอมีโอกาสอีกครั้ง เอาชนะ อีเวนต์ กอนดา จากแคนาดา 2 ต่อ -1  และรอบชิงฯทองแดง ชนะกลาดี มอร่า จาก โคลอมเบีย 2-1 เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาในฐานะนักกีฬาคนแรกที่ได้เหรียญจากกีฬาอื่นนอกเหนือจากมวยและยกน้ำหนัก

 

“วิวฟีเวอร์” เกิดขึ้นหลัง เธอกลับถึงเมืองไทย วิว กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นในฐานะเซเลปแห่งวงการกีฬา โด่งดังพอๆกับนักกีฬาคนอื่นๆที่ได้เหรียญทองด้วยซ้ำ สอดรับกับกระแส เคป็อบ ที่เดินหน้าเข้าไทย จน เธอมี หนังสือการ์ตูน พ็อกเกตบุค และ คิวสัมภาษณ์ยาวเหยียด แสงสปอตไลต์ไม่ได้ทำให้ วิว ไขว้เขว เยาวภา กลับเข้าแคมป์ทีมชาติ และยังคง เก็บเหรียญรางวัลต่อเนื่องทั้ง เหรียญเงินกีฬามหาวิทยาลัยโลก ปี 2548 ที่ประเทศตุรกี รวมทั้งแชมป์เทควันโดเอเซียปี 2006, เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่โดฮา ประเทศกาตาร์ และพลาดท่าได้แค่เหรียญเงินในกีฬามหาวิทยาลัยโลก ปี 2550 ที่ประเทศไทย รายการดังกล่าวถือเป็นรายการสุดท้ายอย่างเป็นทางการในนามทีมชาติเนื่องจาก เธอ มีอาการบาดเจ็บต้องฝืนเล่น และพลาดท่าพ่ายอย่างเจ็บปวด หลังจากนั้น เยาวภา ตัดสินใจพบแพทย์เพื่อเช็กอาการและพบว่าเอ็นข้อเท้าซ้ายขาด 3 เส้น ต้องผ่าและตัดสินใจเลิกเล่นทิ้งโอกาสการคัดตัวไปโอลิมปิกเกมส์ 2008 ลง

 

จากนั้น ชีวิตของเยาวภา ยังคงปรากฏอยู่ตามสื่อเป็นระยะๆ ทั้งเรื่องคู่ครอง ที่เข้าพิธีสมรสกับ แฟนหนุ่ม เกรียงไกร เพิ่มทวี มีลูกแล้ว 3 คน รวมถึงเรื่องของกีฬาที่เธอยังคงไม่ได้ทิ้งวงการไป ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของสมาคมเทควันโด, เป็นผู้จัดการแข่งขันเทควันโด ลีก แถมยังเคยเอาดีในการเล่นกีฬาฟันดาบจนเกือบติดทีมชาติไทย และปัจจุบันหันไปเล่นกีฬายูยิตซู และได้รองแชมป์ประเทศไทยเสียอีก รวมทั้งอีกเส้นทางที่ “วิว” เยาวภา จริงจังคืองานด้านการเมือง เยาวภา เข้าพรรคชาติพัฒนา ลงสมัครชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเขตบางแค บ้านเกิดมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามการหันหลังให้วงการของวิวในปี 2007 ก็นำมาซึ่งจอมเตะสาวที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในวงการเทควันโดและฉายแววในโอลิมปิกเกมส์ 2008 ต่อมา


stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

stadium olympic