stadium

5 แรงขับเคลื่อน “เทนนิส” พาณิภัค สู่บทสรุปการเดินทางที่มากกว่าฝัน

16 กันยายน 2567

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่บางครั้งก็เริ่มต้นจากความต้องการเล็ก ๆ ของวัยเด็กเพียงเท่านั้น เช่นเดียวกับความสำเร็จของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ก้าวแรกของเธอเริ่มขึ้นเพียงเพราะอยากไปเล่นน้ำทะเลกับผองเพื่อน เป็นเหตุต้องแลกมากับการเป็นนักกีฬาเทควันโด นำไปสู่เป้าหมายใหม่ ๆ ตามขั้นบันได เกิดเป็นแรงขับเคลื่อนต่าง ๆ สู่บทสรุปของการเดินทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่นักกีฬาคนหนึ่งจะไขว่คว้าได้

 

 

แรงขับเคลื่อน เพื่อความฝันในวัยเด็ก 

 

“เทนนิส” เริ่มเล่นเทควันโดตั้งแต่ 7 ขวบ จุดเปลี่ยนชีวิตเกิดขึ้นในอีก 2 ปีต่อมา จากความต้องการเล่นน้ำทะเลกับเพื่อน ๆ เพื่อเติมเต็มความฝันของเด็กต่างจังหวัดที่หาโอกาสได้ยาก เธอตัดสินใจหลอกล่อให้คุณพ่อพาเธอไปเชียร์เพื่อนแข่งเทควันโด แต่กลับถูกหลอกล่อกลับให้ลงแข่งขันด้วยถึงจะพาไป 

 

เธอตอบรับ แม้ว่าผลการแข่งขันในวันนั้นเทนนิสจะแพ้ยับเยินตั้งแต่รอบแรก แต่แลกมาซึ่งความฝัน นอกจากจะได้เล่นน้ำทะเลสมใจแล้ว ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น ยังได้จุดประกายความฝันและเกิดเป็นแรงผลักดันให้เธอมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมเทควันโดอย่างจริงจังเพื่อเป้าหมายเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติ

 

 

แรงขับเคลื่อนเพื่อความฝันครอบครัว

 

ครอบครัววงศ์พัฒนกิจเป็นคอกีฬาตัวยง ยืนยันได้จากการตั้งชื่อเล่นลูก ๆ ด้วยชื่อชนิดกีฬาทั้งหมด “โบว์ลิ่ง-เบสบอล-เทนนิส” ทั้ง 3 คนยังผ่านการเป็นนักกีฬามาแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเก่งหรือเอาดีจนถึงขั้นเลี้ยงชีพด้วยกีฬาก็ตาม แต่คงจะดีไม่น้อย ถ้าหากมีใครสักคนใน 3 คนนี้กลายเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยได้ในอนาคต

 

“เทนนิส” รับรู้ได้ถึงแรงสนับสนุนจากคนในครอบครัว นอกจากจะคอยไปรับไปส่งแล้ว คุณพ่อรวมถึงพี่สาวและพี่ชาย ยังช่วยกันส่งเสริมน้องเล็กคนนี้จนก้าวไปปลายทางของความฝัน เป็นทั้งกำลังใจและคอยปลูกฝังทัศนคติอันยอดเยี่ยม ส่งต่อความมุ่งมั่นและความเข้มแข็งทางจิตใจ เกิดเป็นแรงผลักดันให้เธออยากจะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ก่อนจะทำสำเร็จและเติมเต็มความฝันให้กับครอบครัววงศ์พัฒนกิจ ด้วยการติดทีมชาติตั้งแต่อายุ 13 ปี

 

 

แรงขับเคลื่อนเพื่อก้าวข้ามความผิดหวัง

 

สัจธรรมของเกมกีฬา เมื่อมีผู้แพ้ก็ต้องมีผู้ชนะ แต่ก็ไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะตลอดไป ไม่ว่านักกีฬาคนนั้นจะประสบความสำเร็จมามากขนาดไหน ล้วนเคยเผชิญหน้ากับความผิดหวังด้วยกันทั้งหมด แต่การจะไปให้ถึงจุดสูงสุด จำเป็นต้องก้าวข้ามความผิดหวังต่าง ๆ ให้ได้

 

“เทนนิส” พาณิภัค เคยเสียน้ำตาเพราะความผิดพลาดของตัวเองมาแล้ว 2 ครั้งใหญ่ ๆ ที่จำเป็นบทเรียนมาจนถึงวันสุดท้ายของการเป็นนักกีฬา ความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศซีเกมส์ 2013 ต่อนักกีฬาเจ้าภาพ รวมถึง 7 วินาทีชีวิตที่พลิกแพ้เกาหลีใต้ในรอบ 8 คนโอลิมปิก 2016 สอนให้เธอได้รู้จักความไม่ประมาท ต้องเต็มที่จนวินาทีสุดท้าย 

 

บทเรียนจากทั้ง 2 เหตุการณ์นั้น นอกจากจะเรียนรู้และไม่เคยผิดพลาดแบบเดิมซ้ำสองแล้ว ยังเปลี่ยนเธอให้เป็นนักกีฬาที่ดีขึ้น ก้าวข้ามทุกความผิดหวังและประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติมาแล้วมากกว่า 50 รายการ

 

 

แรงขับเคลื่อนเพื่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

 

ตลอด 13 ปีในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย “เทนนิส” พาณิภัค คว้าแชมป์มาหมดแล้วในทุกระดับ เป็นทั้งแชมป์โลก, มือ 1 ของโลก, แชมป์เอเชีย, แชมป์เอเชียนเกมส์, แชมป์ยูธโอลิมปิก และซีเกมส์ ฯลฯ และจากความสำเร็จทั้งหมดนั้นคงไม่มีรายการไหนมีความหมายไปกว่า 2 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์อีกแล้ว

 

เหรียญทองโอลิมปิก 2020 กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าเธอจะมาในฐานะตัวเต็ง แต่ต้องแบกรับความหวังจากหลายฝ่าย ความคาดหวังจากสมาคมเทควันโดที่อยากปลดล็อกเหรียญทองแรก, ความหวังเหรียญทองเดียวในครั้งนั้นจากภาครัฐ รวมไปถึงสื่อมวลชนและแฟนกีฬา ทั้งหมดกลายเป็นแรงกดดัน บวกกับฝันร้ายจากริโอ 2016 ทำให้ความสำเร็จในครั้งนี้มีความหมายอย่างมาก 

 

นอกจากจะเป็นความสำเร็จที่เติมเต็มความฝันของตัวเองแล้ว ยังช่วยปลดล็อกเหรียญทองแรกให้กับกีฬาเทควันโดไทยในโอลิมปิก หลังจากพยายามมา 12 ปีเต็ม และยังเป็นทองเหรียญเดียวของไทยในโอลิมปิกครั้งนั้น

 

ส่วนโอลิมปิก 2024 แม้ว่าก่อนแข่งเธอแบกรับทุกอย่างเหมือนครั้งก่อน แต่หนนี้มาพร้อมสภาพร่างกายที่บอบช้ำกว่าเก่า “เทนนิส” ยอมอดทนกับความเจ็บปวดเพื่อจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง วันนี้เธอคว้าเหรียญทองมาได้อีกครั้ง เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ 2 สมัย และคว้าเหรียญโอลิมปิก 3 ครั้ง (ทองแดง 2016) เป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับวงการกีฬาไทยมาก่อนและเป็นความสำเร็จที่มากกว่าความฝันของเธอไปแล้ว

 

 

แรงขับเคลื่อนเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจ

 

คงไม่มีการอำลาใดสวยงามเท่าเหรียญทองโอลิมปิกอีกแล้ว หลังจากนี้เธอตัดสินใจยุติบทบาทนักกีฬา สิ้นสุดการเดินทาง 17 ปี ที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับสิ่งที่เธอรักไปจนหมดแล้ว ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดนั้น ต้องแลกมากับความเจ็บปวดทางด้านร่างกาย ความบอบช้ำที่ได้รับจากการฝึกซ้อม เสียสละชีวิตในวัยเด็กเพื่อทุ่มเทให้กับกีฬาเพียงอย่างเดียว

 

การคว้าแชมป์มากกว่า 50 รายการยังสะท้อนให้เห็นถึงการตั้งมั่นอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด ทั้งการกิน การพักผ่อน และการฝึกซ้อม ต้องควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์รวมไปถึงการรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงมาตลอดเกือบ 2 ทศวรรษ ซึ่งน้อยคนนักจะปฏิบัติได้แบบนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเธอขาดความรับผิดชอบ

ขณะเดียวกันเราเชื่อว่าทุกเรื่องราวและความสำเร็จของ “เทนนิส” พาณิภัค จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายให้เยาวชนอีกนับล้านมีความฝันอยากจะเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ โดยมีเธอเป็นต้นแบบ และสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวและความสำเร็จใหม่ ๆ ให้กับวงการกีฬาไทยต่อในอนาคต


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

Hatari
stadium olympic