ชี้เป้า 5 ชนิดกีฬาไฮไลต์ในโอลิมปิก 2024

ความสนุกของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์นั้นคือการชิงความเป็นสุดยอดในทุก ๆ 4 ปี ซึ่งนอกจากอีเวนต์ที่นักกีฬาไทยลงแข่งขันจะได้รับความสนใจจากคนไทยแล้ว ยังมีอีกหลายชนิดกีฬาที่การขับเคี่ยวแย่งชิงความเป็นที่หนึ่งอัดแน่นไปด้วยความสนุกและคุณภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการชิงสุดยอดความเร็วอย่าง กรีฑา หรือ ว่ายน้ำ รวมไปถึงต่อสู้เพื่อเป็นที่หนึ่งในประเภททีม ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล หรือการต่อสู้เพื่อความสำเร็จส่วนบุคคล กอล์ฟ เทนนิส ซึ่งกีฬาเหล่านี้ถูกยกให้เป็นไฮไลต์ประจำทัวร์นาเมนต์ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว ความน่าสนใจทั้งหมดจะเป็นอย่างไร แล้วแต่ละอีเวนต์แข่งขันกันวันไหนตามเวลาประเทศไทย ติดตามรายละเอียดพร้อมกันได้ที่นี่

กรีฑา

ทุกครั้งที่ถึงเวลาของมหกรรมกีฬา กรีฑาจะได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก ด้วยเสน่ห์ของการแข่งที่ช่วงชิงความเร็วกันตั้งแต่ออกสตาร์ท ทุกเสี้ยววินาที ทุกมิลลิเมตร นักกีฬาจากทุกลู่จะไล่กวดกันแบบลืมหายใจ มีเท่าไหร่ต้องใส่ให้หมดตั้งแต่วินาทีแรก และสุดท้ายจะมีใครสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์และบันทึกสถิติใหม่ได้หรือไม่ 

อีเวนต์ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษนั่นก็คือ วิ่ง 100 ม. รวมถึงผลัด 4x100 ม. ทั้งชายและหญิง ซึ่งในฝ่ายชายนั้นโอลิมปิกครั้งนี้เหล่ายอดลมกรดระดับโลก นำโดย 2 นักวิ่งจากสหรัฐ ฯ โนอาห์ ไลล์ส เจ้าของ 3 เหรียญทองชิงแชมป์โลก 2023 กับ คริสเตียน โคลแมน นอกจากนั้นยังมี มาร์เซล จาค็อบส์ ลมกรดอิตาลี แชมป์จากโอลิมปิก 2020, เลตซิเล เตโบโก รองแชมป์โลกวัย 21 จากบอตสวานา, เฟอร์ดินานด์ โอมานยาลา จากเคนยา และดาวรุ่งพุ่งแรงสุด ๆ คิเชน ทอมป์สัน นักวิ่งวัย 22 ปี จากจาเมกา ผู้ที่มีสถิติเร็วสุดในการควอลิฟายโอลิมปิกหนนี้ 9.77 วินาที ซึ่งทำได้ก่อนหมดเวลาควอลิฟายเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งจะถูกจับตามองในครั้งนี้

ส่วนฝ่ายหญิง เชอรี่ แอน เฟรเซอร์ ไพรซ์ วัย 37 ปี รองแชมป์เก่าและคว้าเหรียญทองโอลิมปิกไปแล้ว 3 เหรียญ (2008, 2012, 2020) กับ เชอริคกา แจ็คสัน อันดับ 3 จากโตเกียว 2020 ยอดนักวิ่งทั้ง 2 จากจาเมกา จะมาขับเคี่ยวแย่งเหรียญทองในปีนี้กับ ชาคาร์รี่ ริชาร์ดสัน เจ้าของแชมป์โลกจากสหรัฐ ฯ

ส่วนวิ่งบนถนนอย่างมาราธอนเป็นอีกอีเวนต์ที่คนไทยให้ความสนใจ ฝ่ายชายแชมป์ในปีนี้จะเป็นของใคร แล้ว เอเลียด คิปโชเก้ สุดยอดนักวิ่งปอดเหล็กวัย 39 ปี แชมป์เก่าจากเคนยา จะคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันหรือไม่ หรือจะมีใครทำลายสถิติโลก 2:00:35 ชม. ของเคลวิน คิปทุม ยอดนักวิ่งผู้ล่วงลับจากเคนยาได้หรือเปล่า ก็น่าติดตามไม่แพ้กัน

โปรแกรมกรีฑาที่น่าสนใจ

วิ่ง 100 ม.หญิง รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 4 สิงหาคม เวลา 02.20 น.

วิ่ง 100 ม.ชาย รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 5 สิงหาคม เวลา 02.55 น.

วิ่งผลัด 4x100 ม.หญิง รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 10 สิงหาคม เวลา 00.45 น.

วิ่งผลัด 4x100 ม.ชาย รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 11 สิงหาคม เวลา 00.30 น.

วิ่งมาราธอน ชาย : วันที่ 10 สิงหาคม เวลา 13.00 น. 

วิ่งมาราธอน หญิง : วันที่ 11 สิงหาคม เวลา 13.00 น.

บาสเกตบอล

บาสเกตบอลชายในโอลิมปิกเกมส์ปีนี้บอกเลยว่าเดือดสุด ๆ เมื่อสหรัฐอเมริกาเจ้าของแชมป์ 16 จาก 20 สมัย ปีนี้พวกเขาขนซูเปอร์สตาร์จากเอ็นบีเอมาแบบเต็มสูบ นำโดย เควิน ดูแรนต์ ผู้ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้ว 3 สมัย, เลบรอน เจมส์ 2 เหรียญทองโอลิมปิก ผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดตลอดกาลในเอ็นบีเอ, สตีเฟ่น​ เคอร์รี ผู้เล่นดีกรี NBA Final MVP 2022 ที่ทุกคนยอมรับก็จะลงแข่งโอลิมปิกครั้งแรก รวมถึง เจย์สัน เทย์ทัม แชมป์ฤดูกาลล่าสุด เป็นต้น

เห็นขุมกำลังสหรัฐ ฯ จัดเต็มแบบนี้แทบจะอดใจรอชมลีลาเหล่าผู้เล่นมากดีกรีเลยว่าจะน่าทึ่งขนาดไปน ขณะเดียวกันถือเป็นงานยากของเหล่าทีมคู่แข่งอย่าง ฝรั่งเศส สเปน เซอร์เบีย สโลวีเนีย และทีมอื่น ๆ งานนี้พวกเขาจำเป็นงัดทุกกลยุทธ์เพื่อมาหยุดไม่ให้สหรัฐ ฯ คว้าแชมป์ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 

โปรแกรมบาสเกตบอลที่น่าสนใจ

ประเภททีมชาย รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 11 สิงหาคม เวลา 02.30 น.

ว่ายน้ำ

ว่ายน้ำอีกหนึ่งกีฬาที่ตัดสินกันด้วยความสนุก เข้มข้น และเร้าใจไม่แพ้กรีฑา และถ้าหากจะหากนักว่ายน้ำเร็วที่สุดในโอลิมปิกครั้งนี้ก็ต้องมาดูกันที่ท่าฟรีสไตล์ โดยเฉพาะระยะสั้น 50 ม. และ 100 ม. เป็นระยะที่นักกีฬาจะไม่มีการออมแรงวัดกันตั้งแต่กระโดดจากขอบสระ

ในฝั่งนักกีฬาชาย เคเล็บ เดรสเซล ฉลามหนุ่มวัย 27 ปีจากสหรัฐฯ โดดเด่นสุด ๆ จากโตเกียว 2020 ด้วยผลงาน 5 เหรียญทอง และเป็นแชมป์เก่ารวมถึงเจ้าของสถิติโอลิมปิกในรายการ ฟรีสไตล์ 50 ม. และ 100 ม. หลังประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่น เดรสเซล ประกาศอำลาสระแบบกระทันหันเมื่อปี 2022 ก่อนตัดสินใจกลับมาลงสระแข่งอีกครั้ง โดยในปีนี้เขาจะลงป้องกันแชมป์ในฟรีสไตล์ 50 ม. 

ส่วนระยะ 100 ม. เดรสเซล ไม่ได้ลงแข่ง ทำให้เรามีโอกาสจะได้เห็นแชมป์หน้าใหม่ โดยเฉพาะตัวเต็งอย่าง Pan Zhanle ฉลามหนุ่มวัย 19 ปีจากจีน ซึ่งเจ้าของแชมป์โลกและสถิติโลกคนปัจจุบัน 

ส่วนฝ่ายหญิง ซาร่า โยสตรอม เงือกสาวจากสวีเดน แม้จะไม่เคยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในท่าฟรีสไตล์ แต่เจ้าของ 14 เหรียญทองชิงแชมป์โลกนั้นเป็นเจ้าของสถิติโลกทั้งสองระยะ โดยหนนี้เธอหมายมั่นที่จะคว้าแชมป์ในระยะ 50 ม. ให้ได้ หลังจากเมื่อ 3 ปีก่อนพ่ายให้กับ เอ็มม่า แมคคีออน จากออสเตรเลียไปแบบน่าเจ็บปวด 

สำหรับ ซาร่า โยสตรอม จะมีอายุครบ 31 ปีในเดือนสิงหารม แต่เธอยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นเบอร์ 1 ในระยะ 50 เมตรมาตลอด ตอกย้ำด้วยผลงานการเป็นแชมป์ระยะในศึกชิงแชมป์โลกมา 3 ครั้งล่าสุด ส่วนในระยะ 100 ม. ตัวเต็งนั้นเป็น มาร์ริท สตีนเบอร์เกน แชมป์โลกจากเนเธอร์แลนด์ แต่อาจจะต้องขับเคี่ยวกับ เคท ดักลาส จากสหรัฐฯ, เชย์น่า​ แจ็ค ออสเตรเลีย, ซิโอบัน ฮอว์กีย์ ซึ่งเป็นรองแชมป์เก่าและรองแชมป์โลก 2024 จากฮ่องกง

โปรแกรมว่ายน้ำที่น่าสนใจ

ฟรีสไตล์ 100 ม.หญิง รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 1 สิงหาคม เวลา 01.30 น.

ฟรีสไตล์ 100 ม.ชาย รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 1 สิงหาคม เวลา 03.15 น.

ฟรีสไตล์ 50 ม.ชาย รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 3 สิงหาคม เวลา 01.30 น.

ฟรีสไตล์ 50 ม.หญิง รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 4 สิงหาคม เวลา 23.30 น. 

วอลเลย์บอล

นอกจากจะเป็นกีฬามหาชนของคนไทย แล้วยังเป็นกีฬาที่ดูสนุก ตื่นเต้น ลุ้นกันแต้มต่อแต้ม โดยเฉพาะ 12 ทีมที่ผ่านเข้ามาถึงโอลิมปิก รอบสุดท้าย ได้นั้นการันตีคุณภาพทำให้เกิดบิ๊กแมตช์ขึ้นตั้งแต่รอบแรก

เริ่มกันที่ทีมชาย ฝรั่งเศสเจ้าภาพและเป็นแชมป์เก่าพวกเขาคาดหวังที่จะคว้าแชมป์ในอีเว้นท์นี้ต่อหน้ากองเชียร์ให้ได้ ขณะที่ทีมฟอร์มแรงอย่างญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ปีนี้พวกเขาเองก็คาดหวังที่จะเหรียญโอลิมปิกมาให้ได้อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 52 ปี นอกจากนี้สหรัฐอเมริกากับบราซิลสองชาติมหาอำนาจที่คว้าแชมป์กันไปคนละ 3 สมัย รวมถึงโปแลนด์ทีมอันดับ 1 ของโลก ต่างก็ต้องการเหรียญทองในครั้งนี้หลังห่างหายจากความสำเร็จกันไปนาน

ขณะที่ทีมหญิงการอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันตั้งแต่รอบแรกของ 3 ทีมดีกรีแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกอย่าง จีน, สหรัฐ ฯ และเซอร์เบีย ทำให้เราจะได้ชมบิ๊กแมตช์กันตั้งแต่รอบแรก รวมถึงการปะทะกันในกลุ่มบีของ บราซิล, ญี่ปุ่นและโปแลนด์ เช่นเดียวกับกลุ่มซีที่มีทั้ง เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, โดมินิกันและตุรกี ด้วยชื่อชั้นและผลงานในช่วงหลังทำให้ในแต่ละกลุ่มแต่ละเกมนั้นกลายเป็นบิ๊กแมตช์ทั้งหมด

โปรแกรมวอลเลย์บอลแข่งขันระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม

ประเภททีมชาย รอบชิงชนะเลิศ​ : วันที่​ 10 สิงหาคม เวลา 18.00 น.

ประเภทีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ​ : วันที่​ 11 สิงหาคม เวลา 18.00 น.

เทนนิส

เริ่มกันที่ประเภทชายเดี่ยวถือว่าน่าสนใจอย่างมากโดยเฉพาะบรรดาคลื่นลูกใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ตัวเต็งคงหนีไม่พ้น คาร์ลอส อัลการาซ นักหวดสเปนวัย 21 ปี ฟอร์มแรงสุดๆ ในปีนี้คว้าแชมป์แกรนด์แสลมไปแล้ว 2 รายการ เฟรนช์ โอเพ่น (ที่โรลองด์ การ์รอส ซึ่งเป็นสนามเดียวกับที่ใช้แข่งโอลิมปิก 2024) และวิมเบิลดัน 

นอกจากนี้คลื่นลูกเก่าอย่าง โนวัค โจโควิช เจ้าของแชมป์แกรนด์แสลมมากสุด 24 รายการ ผลงานที่ผ่านมานั้นเขายังไม่เคยสมหวังในรายการนี้เลย ทำได้ดีที่สุดคือการคว้าเหรียญทองแดงในปี 2008 และบนวัย 37 ปีเชื่อว่าปารีส 2024 จะเป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายนักหวดชาวเซอร์เบีย

ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว ตัวเต็งเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อีก้า ชวีออนเท็ค มือ 1 ของโลกจากโปแลนด์ ค่อนข้างถูกโฉลกกับสนามโรลองด์ การ์รอส ที่ใช้เป็นสังเวียนโอลิมปิก 2024 ซึ่งเป็นสนามเดียวกับแกรนด์แสลม เฟรนช์ โอเพ่น ซึ่งเจ้าตัวนั้นผูกขาดคว้าแชมป์สนามแห่งนี้ 3 สมัยติดต่อกันและครองแชมป์ 4 จาก 5 ปีหลังสุด แต่ก็ต้องขับเคียวกับ โคโค กอฟฟ์ มือ 2 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา, อารีน่า ซาบาเลนก้า นักหวดเบลารุส ที่คว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น 2 ปีหลังสุด รวมถึง จัสมิน เปาลินี มือ 5 ของโลกในปีนี้ผ่านเข้าชิงได้ทั้งเฟรนช์ โอเพ่น และวิมเบิลดัน 2 รายการแกรนด์แสลม

โปรแกรมเทนนิสที่น่าสนใจ

ชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 4 สิงหาคม

หญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ : วันที่ 3 สิงหาคม