27 กรกฎาคม 2567
โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เปิดฉากอย่างเป็นทางการไปแล้วในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยหนนี้นักกีฬาไทยผ่านควอลิฟายทั้งสิ้น 51 คน และแน่นอนย่อมมีตัวเลขต่าง ๆ ถูกแปลงเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย แต่จะมีอะไรบ้าง ติดตามพร้อมกันได้ที่นี่
ตลอดการเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ของนักกีฬาไทยมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่คว้าเหรียญรางวัลได้ 2 ครั้ง คือ มนัส บุญจำนงค์ มวยสากล 2004-2008, วันดี คำเอี่ยม ยกน้ำหนัก 2004-2008, พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนัก 2012-2016 และ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโด 2016-2020
อย่างไรก็ตามในปารีส 2024 “เทนนิส” พาณิภัค เป็นเพียงคนเดียวจาก 4 คนดังกล่าวที่ยังคงแข่งขันอยู่ นอกจากนั้นอีก 3 คนได้รีไทร์ตัวเองจากการเป็นนักกีฬาไปเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ พาณิภัค ยังคงถูกวางให้เป็นเต็ง 1 และมีโอกาสอันดีที่จะคว้าเหรียญโอลิมปิกได้อีกสมัย ถ้าหากเธอทำได้สำเร็จจะเป็นครั้งแรกของวงการกีฬาไทยที่มีนักกีฬาคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ 3 ครั้ง
ปารีส 2024 มีนักกีฬาไทย 6 คนที่จะได้ลงแข่ง 2 อีเวนต์ ประกอบด้วย เพชรดารินทร์ สมราช นักกีฬาจักรยาน นักกีฬาจักรยานจะลงแข่งในถนนประเภทโรดเรซ หญิง และไทม์ ไทรอัล บุคคลหญิง, จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักกีฬาจักรยานจะลงแข่งขันในลู่ประเภทคีริน และสปรินต์บุคคลชาย, ธันยพร พฤกษากร และกมลลักษณ์ แสนชา 2 นักแม่นปืนหญิงที่ลงแข่งทั้งปืนสั้นอัดลมระยะ 10 เมตร และปืนสั้นระยะ 25 เมตร รวมถึง 2 นักกีฬาหญิงจากเทเบิลเทนนิส สุธาสินี เสวตรบุตร กับ อรวรรณ พาระนัง จะลงแข่งทั้งในประเภทหญิงเดี่ยวและทีมหญิง
ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ธันยพร พฤกษากร นักกีฬายิงปืนเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าตั๋วโอลิมปิกได้สำเร็จ โดยเธอจะลงแข่งในประเภทปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง การเดินทางไปปารีสในครั้งนี้จะเป็นการเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งที่ 5 ของเธอแล้ว ต่อจากปี 2008, 2012, 2016, 2020 และ 2024 นับเป็นสถิติสูงสุดของนักกีฬาไทยเทียบเท่า 2 นักกีฬาระดับตำนานของวงการกีฬาไทยอย่าง นันทนา คำวงศ์ เทเบิลเทนนิส และบุญศักดิ์ พลสนะ แบดมินตัน
ข่าวดีของคอกีฬาไทย เมื่อโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน ผนึกกำลังถ่ายทอดสดให้ชมกันฟรีตลอดทัวร์นาเมนต์ แบ่งเป็นช่องฟรีทีวี 4 ช่อง ประกอบด้วย ทีสปอร์ต 7, ช่อง 7 HD หมายเลข 35, MCOT HD หมายเลข 30 และ PPTV HD หมายเลข 36 และผ่านกล่องอีก 2 ช่องทางได้แก่ เอไอเอสเพลย์และทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดกันอย่างจุใจถึง 21 ช่องสัญญาณแบบไร้จอดำเลยทีเดียว
ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยส่งเข้าประกวดในโอลิมปิกหนนี้มากที่สุดจำนวน 9 คน ประกอบด้วย รัชนก อินทนนท์, ศุภนิดา เกตุทอง, กุลวุฒิ วิทิตศานต์, จงกลพรรณ กิติธรากุล, รวินดา ประจงใจ, สุภัค จอมเกาะ, กิตตินุพงษ์ เกตุเรน, เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย โดยเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการปลดล็อกคว้าเหรียญรางวัลให้ได้เป็นครั้งแรก
ส่วนความหวังอยู่ที่ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกประเภทชายเดี่ยวคนล่าสุด รวมถึง, เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย อดีตมือ 1 และแชมป์โลกในประเภทคู่ผสมซึ่งกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งในปีนี้
ขณะที่ผลงานดีที่สุดของนักตบลูกขนไก่ไทยคือการได้อันดับ 4 ของ บุญศักดิ์ พลสนะ ในโอลิมปิก 2004 ที่ประเทศกรีซ
เหรียญรางวัลเหรียญแรกของนักกีฬาไทยในโอลิมปิกทำได้จาก พเยาว์ พูนธรัตน์ เหรียญทองแดงกีฬามวยสากลในโอลิมปิกเกมส์ 1976 ที่ประเทศแคนาดา นับจากนั้นทุกครั้งที่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ (ยกเป็นปี 1980 ไม่ส่งแข่ง) รวมแล้ว 11 ครั้งติดต่อกันที่นักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลติดมือกลับมาฝากคนไทยได้เสมอ รวม 10 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง
ส่วนในครั้งนี้จะทำสำเร็จเป็นหนที่ 12 ติดต่อกันหรือไม่นั้น ต้องส่งใจเชียร์และติดตามไปด้วยกัน
กลายเป็นที่รู้จักของคนไทยในชั่วข้ามคืนหลังจากที่ “เอสที” ด.ญ. วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเกตบอร์ตสาวไทย สามารถคว้าตั๋วเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น โดยในรอบควอลิฟายเธอมีคะแนนอยู่อันดับ 18 จากนักกีฬา 22 คนที่ได้โควตาโอลิมปิก เป็นความสำเร็จอันน่ามหัศจรรย์และน่าชื่นชมมาก ๆ
ส่วนใครที่อยากชมฝีไม้ลายมือการเล่นสเก็ตของ “เอสที” ห้ามพลาดจะลงแข่งขันในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้วันเดียวเท่านั้น
อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าโอลิมปิก 2024 จะมีนักกีฬาไทยเข้าร่วม 51 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก โอลิมปิก 1964 และ 2016 จำนวน 54 คน และโอลิมปิก 2000 จำนวน 52 คน
ในจำนวน 51 คนนั้นมาจาก 16 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย แบดมินตัน 9 คน, มวยสากล 8 คน, ยกน้ำหนัก 4 คน, กอล์ฟ 4 คน, เรือใบ 4 คน, จักรยาน 4 คน, เทควันโด 3 คน, เทเบิลเทนนิส 3 คน, ยิงปืน 3 คน, กรีฑา 2 คน, ว่ายน้ำ 2 คน, เอ็กซ์ตรีม 1 คน, ยูโด 1 คน, ปัญจกีฬาสมัยใหม่ 1 คน, เรือพาย 1 คน และขี่ม้า 1 คน
ที่ผ่านมามีเพียง 3 ชนิดกีฬาเท่านั้นที่คว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ได้ มวยสากล, ยกน้ำหนัก และเทควันโด หนนี้จะมีชนิดกีฬาที่ 4 เพิ่มเข้ามาในทำเนียบเหรียญโอลิมปิกหรือไม่ น่าติดตาม
จากทั้งหมด 51 คนที่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิก 2024 มีนักกีฬาไทยหน้าใหม่ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกถึง 36 คน บ่งบอกถึงคุณภาพนักกีฬาไทยรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาเป็นความหวังของชาติในการสร้างความสำเร็จให้กับวงการกีฬาไทย
รายชื่อทั้ง 36 คนมีดังนี้ กมลลักษณ์ แสนชา(ยิงปืน), ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ยิงปืน), จุฑามาศ รักสัตย์ (มวยสากล), ธนัญญา สมนึก (มวยสากล), จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล), ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (มวยสากล), บรรจง สินศิริ (มวยสากล), วีระพล จงจอหอ (มวยสากล), โกเมธ สุขประเสริฐ (จักรยาน), จาย อังค์สุธาสาวิทย์ (จักรยาน), ธนาคาร ไชยยาสมบัติ (จักรยาน), เพชรดารินทร์ สมราช (จักรยาน), ชนกภรณ์ การุณยธัช (ขี่ม้า), เบญญาภา จันทวรรณ (เรือใบ), โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน (เรือใบ), โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ (เรือใบ), อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค (เรือใบ)
ภูริช โยเฮือง (ปัญจกีฬาสมัยใหม่), จิณห์นิภา เสวตรบุตร (เทเบิลเทนนิส), บัลลังก์ ทับทิมแดง (เทควันโด), ศศิกานต์ ทองจันทร์ (เทควันโด), เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์(เรือพาย), กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน), ศุภนิดา เกตุทอง (แบดมินตัน), สุภัค จอมเกาะ (แบดมินตัน), กิตตินุพงษ์ เกตุเรน (แบดมินตัน), สุรจนา คำเบ้า (ยกน้ำหนัก), ดวงอักษร ใจดี (ยกน้ำหนัก), ธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก), วีรพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก), อาฒยา ฐิติกุล (กอล์ฟ), พชร คงวัดใหม่ (กอล์ฟ), วารีรยา สุขเกษม (สเกตบอร์ด), ดุลยวัต แก้วศรียงค์ (ว่ายน้ำ), มาซายูกิ เทราดะ (ยูโด) และ ภูริพล บุญสอน (กรีฑา)
TAG ที่เกี่ยวข้อง