stadium

ประวัติกีฬาปีนหน้าผาในโอลิมปิก

28 กุมภาพันธ์ 2563

อีกหนึ่งกีฬาใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยนักกีฬาจะได้ใช้ทั้งทักษะการบาลานซ์ร่างกาย พละกำลัง และความแข็งแกร่งตั้งแต่ปลายนิ้วมือ จนถึงปลายนิ้วเท้า

 

Overview

เป็นอีกหนึ่งกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่มีผู้เล่นมากมายทั่วโลก ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ และเต็มไปด้วยความท้าทายที่ทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีดไปทั่วร่างกาย เพราะการไต่ระดับความสูงจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง นอกจากกำลังของมือ เท้า และทักษะการปีนแล้ว จิตใจของนักกีฬาคือสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะพิสูจน์ว่าเขาพร้อมจะเอาชนะความสูงเหล่านี้หรือไม่

 

กีฬาปีนหน้าผาถูกบรรจุเข้ามาในการแข่งโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2020 ซึ่งประกอบด้วยการแข่ง 3 รูปแบบด้วยกัน คือ Bouldering , Speed และ Lead Climbing ซึ่งแม้จะมีวิธีการปีนและกติกาที่แตกต่างกันไป แต่เป้าหมายของการแข่งนั้นคือการปีนขึ้นไปให้ถึงจุดที่กำหนด โดยในบางประเภทนักปีนจะสามารถติดตั้งเชือกนิรภัยได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ช่วยปีนอื่นๆ

 

นั่นทำให้กีฬาประเภทนี้ต้องการความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นของร่างกายอย่างมาก รวมทั้งการวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบเพื่อให้การปีนออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

 

Essence of the sport

สามการแข่ง หนึ่งเป้าหมาย

กีฬาปีนหน้าผาถูกบรรจุเข้ามาในการแข่งโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2020 ประกอบด้วยการแข่ง 3 รูปแบบด้วยกัน คือ Bouldering , Speed และ Lead Climbing

 

•Speed

ในการแข่งประเภทนี้ นักปีนเขาจะยึดตัวกับเชือกนิรภัยและพยายามไต่กำแพงสูง 15 เมตรตั้งฉากที่มุม 95 องศา โดยนักกีฬาที่เข้าเเข่งขันจะต้องทำความเร็วแข่งกัน ใครทำเวลาได้ดีที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะไป ซึ่งโดยปกติ นักกีฬาชายจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณห้าถึงหกวินาที ในขณะฝ่ายหญิงมักใช้เวลาอยู่ที่ประมาณเจ็ดหรือแปดวินาที ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่ใช้เวลาสั้นมาก และการเริ่มต้นที่ผิดพลาดก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้เลย

 

•Bouldering

ในการแข่งขันแบบโบลเดอร์ริ่ง นักกีฬาจะต้องปีนขึ้นไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้มากมายบนกำแพงสูง 4 เมตร และต้องขึ้นไปให้ถึงภายในสี่นาที โดยแต่ละเส้นทางจะมีอุปสรรคซ่อนอยู่ และนักปีนเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ฝึกซ้อมปีนเขาล่วงหน้า แต่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ในการสังเกตว่า ควรจะปีนไปในเส้นทางไหน และเส้นทางไหนที่ปลอดภัยต่อการปีนมากกว่า

 

•Lead Climbing

ในการแข่งนี้ นักกีฬาจะต้องพยายามปีนขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้บนกำแพงที่มีความสูงมากกว่า 15 เมตร ภายในเวลาหกนาที โดยนักปีนเขาสามารถใช้อุปกรณ์ในการช่วยปีนได้ แต่ก็ต้องทำการปีนอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อไหร่ที่เวลาหมดลง ระยะทางที่เขาปีนได้ก็จะเป็นสถิติสูงสุดของเขาที่ต้องนำไปเทียบกับนักกีฬาคนอื่นๆ ดังนั้นนอกจากการใช้อุปกรณ์ที่ชำนาญแล้ว การทำเวลาก็มีความสำคัญมากเช่นกัน


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

stadium olympic