stadium

พอลลีน เดอรูเลด กีฬาพลิกฟื้นชีวิตให้กลับมามีเป้าหมายอีกครั้ง

10 กรกฎาคม 2567

คงยากที่จะนึกภาพออกหากวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอวัยวะสำคัญบางส่วนขาดหายไป และไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีก...

 

ในปี 2018 พอลลีน เดอรูเลด ยอดนักกีฬาวีลแชร์เทนนิสชาวฝรั่งเศส คือคนที่ได้เจอกับประสบการณ์นั้น และมันเปลี่ยนโชคชะตาของเธอไปตลอดกาล

 

อุบัติเหตุครั้งนั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธออย่างไร และอะไรทำให้เธอกลับมายืนหยัดอีกครั้ง ติดตามได้ที่นี่

 

 

ความทรงจำที่เจ็บปวด

 

วันที่ 27 ตุลาคม ปี 2018 คือวันที่ พอลลีน เดอรูเลด อยากจะลืมมากที่สุดในชีวิต ในวันนั้นขณะที่เธอกำลังนั่งบนสกูตเตอร์ที่จอดบนทางเท้าในกรุงปารีส ชายชราวัย 92 ปีที่เกิดอาการสับสนระหว่างคันเร่งและเบรกได้ขับรถชนเธอเข้าอย่างจังจนกระเด็นไปไกล 50 เมตร เธอเสียขาข้างซ้ายไปทันที และชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

 

"ฉันจะไม่มีวันยอมรับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ฉันจะใช้ชีวิตอยู่กับมัน แต่การยอมรับเท่ากับฉันให้อภัยชายคนนั้น ซึ่งมัจะไม่มีวันเกิดขึ้น วันที่เกิดอุบัติเหตุยังคงส่งผลต่อจิตใจของฉัน และเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ฉันยังคงหวนคิดถึงหญิงสาวสดใสคนนั้นที่ฉันเคยเป็น แม้วันนี้ฉันจะค้นพบความสุขนั้นได้อีกครั้งในวิธีที่ต่างไป วันนั้นยังเป็นวันที่ฉันมองย้อนกลับไปถึงเส้นทางที่ผ่านมาด้วยความเศร้าแต่ก็ภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน"

 

 

ตั้งเป้าหมายใหม่ให้ชีวิตไปต่อ

 

จากคนที่ใช้ชีวิตเต็มที่ทุกสัปดาห์ ทั้งการทำงานในตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการ, เป็นโค้ชเทนนิสช่วงสุดสัปดาห์ และสายแดนซ์ที่ออกฟลอร์คนสุดท้ายอยู่เสมอ พอลลีน ที่มีกิจวัตรแบบนั้นไม่มีอีกต่อไป และเธอต้องทำความรู้จักกับเพื่อนคู่ชีวิตคนใหม่นั่นคือ ขาเทียม

 

แทบทุกคนเมื่อเจอความเปลี่ยนแปลงระดับนี้ ต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ไม่ใช่กับพอลลีน เดอรูเลด ที่เมื่อรู้สึกตัวเธอก็ตั้งเป้าหมายใหม่ให้ชีวิตกลับมาลุกขึ้นยืนในทันที

 

"ตอนที่ฉันอยู่ในห้องพักฟื้นหลังประสบอุบัติเหตุไม่กี่ชั่วโมง คนที่ฉันรักอยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาโล่งใจที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันบอกพวกเขาว่า ‘ไม่ต้องกังวล ฉันจะไปแข่งขันพาราลิมปิกที่ปารีสในปี 2024’ ฉันต้องการเป้าหมายเพื่อให้มีความมุ่งมั่นมากพอที่จะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ไม่กี่เดือนหลังออกจากโรงพยาบาล ฉันก็เริ่มกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย พร้อมกับการเดินด้วยขาเทียม ฉันเริ่มมันเพื่อไล่ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้"

 

 

"เทนนิส" เพื่อนสนิทที่คุ้นเคย

 

ด้วยความที่เล่นเทนนิสตั้งแต่เด็ก และกลายมาเป็นโค้ชเทนนิสก่อนที่ชีวิตจะหักเห จึงไม่แปลกที่พอลลีนจะเลือกสิ่งที่เธอคุ้นเคยมากที่สุด หลังได้รับการติดต่อจากสหพันธ์กีฬาพาราลิมปิกฝรั่งเศส

 

"ด้วยระดับการเล่นของฉันก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ และการเล่นเทนนิส 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำให้รู้สึกว่า วีลแชร์เทนนิส น่าจะช่วยฉันบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วที่สุด ตอนเด็กฉันอยากเป็นนักกีฬาชั้นยอดและเทนนิสคือสิ่งที่ฉันเลือกมาตลอด เพราะฉันถูกดึงดูดด้วยความเข้มข้นของการแข่งขันและการต้องใช้ความพยายามเพื่อเอาชนะ ฉันเคยต้องล้มเลิกความฝัน แต่ตอนนี้มีโอกาสได้ย้อนกลับไปเริ่มใหม่ในเส้นทางเดิมอีกครั้ง แม้เหมือนโชคชะเล่นตลกก็ตาม"

 

แม้จะต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัว โดยเฉพาะทางความคิดเมื่อไม่สามารถเล่นในจังหวะที่เคยทำได้ แต่พอลลีนใช้ความมุ่งมั่นและอดทนฝึกซ้อมอย่างหนัก ก่อนจะพัฒนาฝีมือแบบก้าวกระโดด เคยขึ้นไปถึงมืออันดับ 13 ของโลก และคว้าแชมป์อาชีพประเภทเดี่ยวไปแล้ว 4 รายการ ประเภทคู่อีก 15 รายการ รวมถึงเป็นแชมป์ของฝรั่งเศสอีก 4 สมัย

 

 

ชีวิตนอกสนามที่อุทิศเพื่อส่วนรวม

 

อุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ได้ทำให้พอลลีนตั้งเป้าหมายใหม่แค่การไปลงแข่งพาราลิมปิกเกมส์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เธออยากทำให้สำเร็จคือเรียกร้องให้ฝรั่งเศสมีการตรวจสุขภาพและทดสอบสมรรถภาพในการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นระยะ ไม่ใช่ออกใบขับขี่ทีเดียวแล้วใช้ได้ถาวรเหมือนปัจจุบัน

 

"ฉันกลายเป็นคนพิการเพราะผู้ขับขี่วัย 92 ปีสับสนระหว่างคันเร่งและแป้นเบรก ซึ่งทำให้ฉันประหลาดใจที่ในประเทศของตัวเอง ผู้คนสามารถขับรถต่อไปได้จนกว่าจะเสียชีวิตโดยไม่ต้องมีการตรวจสุขภาพใด ๆ จากนั้นฉันได้พบกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเริ่มต้นความพยายามเพื่อปฏิรูประบบใบอนุญาตขับขี่ในฝรั่งเศสและนำการตรวจสุขภาพเป็นประจำมาใช้กับผู้ขับขี่ทุกคน โดยการตรวจสุขภาพจะบ่อยขึ้นเมื่อถึงอายุที่กำหนด"

 

เป้าหมายที่พอลลีนต้องการคือสิ่งที่ท้าทาย เพราะมันคือการเปลี่ยนทัศนคติของคนส่วนใหญ่ แม้ในประเทศอื่น ๆ จะเป็นเรื่องปกติก็ตาม

 

"แม้จะยากแต่มีความคืบหน้าเกิดขึ้น และฉันมั่นใจว่าเราจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ ฉันได้ทำงานร่วมกับรัฐมนตรีหลายท่านในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานกว่าจะถึงเป้าหมาย"

 

 

เวทีแห่งความฝันของนักเทนนิสฝรั่งเศส

 

สำหรับกีฬาวีลแชร์เทนนิสในพาราลิมปิกเกมส์ 2024 จะจัดแข่งที่ โรลองด์ การ์รอส สนามเดียวกับโอลิมปิก ซึ่งสนามแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะการเป็นสถานที่แข่งศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น ในทุก ๆ ปี ดังนั้นกับนักกีฬาเทนนิสชาวฝรั่งเศสแล้ว การได้ลงแข่ง ณ สนามแห่งนี้ คือหนึ่งในเกียรติยศที่พวกเขาหรือเธอใฝ่ฝัน

 

"โรลองด์ การ์รอส สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันเล่นเทนนิส ฉันอาศัยอยู่ใกล้กับสนามกีฬาแห่งนี้เสมอมา ดังนั้นการคิดว่าตัวเองจะได้แข่งขันพาราลิมปิกครั้งแรกที่สนามกีฬาในตำนานแห่งนี้กับผู้ชมชาวฝรั่งเศส ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมาก มันเป็นความฝันที่เป็นจริง"


stadium

author

ณัฐกร ทองนพเก้า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic