9 กรกฎาคม 2567
"สิ่งที่สดใส และสวยงาม รอคอยคุณเสมอ หากคุณไม่ยอมแพ้" คือคำพูดของ ซีฟาน ฮัสซัน นักวิ่งชาวดัตช์ อดีตผู้อพยพจากเอธิโอเปีย เจ้าของ 2 เหรียญทองโตเกียวโอลิมปิก
นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้บันทึกตำนานไว้บนโลกใบนี้ในฐานะนักวิ่งหญิงที่มุ่งมั่นที่สุด หกล้มแล้วกลับมาชนะ สู่เป้าหมายในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส
ซีฟาน ฮัสซัน เกิดที่ประเทศเอธิโอเปีย และเติบโตในชนบท สมัยใช้ชีวิตในเอธิโอเปียเธอแค่วิ่งเพื่อสุขภาพ และความสนุก ก่อนจะออกจากเอธิโอเปีย ในฐานะผู้ลี้ภัย และมาถึงเนเธอร์แลนด์ในปี 2008
ย้อนกลับไปในเอธิโอเปีย หลายปีก่อนที่เธอจะย้ายไปเนเธอร์แลนด์ เมื่ออายุ 15 ปี เพื่อนคนหนึ่งเคยท้าให้เธอแข่งวิ่ง ฮัสซันรับคำท้าแม้จะไม่เต็มใจ แต่นั่นได้กลายเป็นสัญญาณแรกของความมุ่งมั่นในตัวเธอ
"ฉันจำได้ว่าวิ่งจาก 100 เมตรถึง 800 เมตร จนกระทั่งฉันชนะ" เธอเล่าให้ Olympics.com ฟังในการสัมภาษณ์พิเศษพร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่มีเอกลักษณ์
การวิ่ง 800 เมตรแรกในวันนั้น นำมาสู่ชีวิตใหม่ในเนเธอร์แลนด์ เธอกลับมาเล่นกรีฑาอีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นอย่างมาก เธอเล่าว่า การซ้อมครั้งแรก เธอตั้งใจและซ้อมหนักจนเลือดออกที่ขา
จากวันนั้นที่เอธิโอเปีย มาถึงเนเธอร์แลนด์ ฮัสซันเริ่มวิ่งแบบจริงจัง ขณะกำลังศึกษาเพื่อเป็นพยาบาล ก่อนจะได้รับสัญชาติดัตช์ในปี 2013
ด้วยความมุ่งมั่น และการได้รับสัญชาติ ฮัสซันมีโอกาสรับใช้ชาติในฐานะนักวิ่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เธอโดดเด่นและเต็มไปด้วยพรสวรรค์ที่มาจากเชื้อสายเอธิโอเปียของเธอ
แต่เส้นทางนักวิ่งไม่ง่ายอย่างที่คิด การเปิดตัวในโอลิมปิกครั้งแรกที่บราซิล ฮัสซันต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง ไม่มีเหรียญรางวัลกลับไป จนเธอคิดจะออกจากวงการแข่งขันกรีฑาโดยสิ้นเชิง
เหตุการณ์นั้นทำให้หญิงแกร่งคนนี้ เรียนรู้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะเป็นสิ่งคู่กันกับชัยชนะ และเลือกจะเผชิญหน้ากับความท้าทาย ที่หลายคนมองว่า เป็นไปไม่ได้
"นั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกคนอื่นว่า อย่าหยุด" ฮัสซันเล่าย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพของเธอ ณ เวลาที่อายุ 23 ปี
แม้จะรู้ดีว่ามีอาการบาดเจ็บก่อนการแข่งขัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจ แต่ต้องผิดหวังก็ทำให้เธอเกือบทิ้งความฝันไป
“มันทำให้ฉันเจ็บปวดมาก ฉันอาบน้ำไปเจ็ดครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่ฉันก็ยังไม่สงบลง” ฮัสซันเลิกวิ่งไปสองเดือน เพื่อทบทวนตัวเอง จนกลับมาได้อีกครั้ง
5 ปีผ่านไป ฮัสซันกลับมาพร้อมความมุ่งมั่น ที่โตเกียว ด้วยการเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การลงแข่งทั้งระยะ 1,500 ม., 5,000 ม. และ 10,000 ม.
ฮัสซันสร้างเรื่องสุดเหลือเชื่อ ในการแข่งขันวิ่งระยะ 1,500 เมตร รอบคัดเลือก เมื่อเธอเกิดพลาดเสียหลักสะดุดล้มเนื่องจากนักวิ่งจากเคนยาล้มลงไปขวางเธอ ในรอบสุดท้าย
แต่ฮัสซันรีบลุกขึ้นมา ตัดสินใจออกวิ่งอีกครั้ง และสปีดแซงนักวิ่งที่อยู่หน้าเธอทั้งหมด 11 คน ในระยะ 350 เมตรที่เหลือ แซงเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ด้วยเวลา 4 นาที 5.17 วินาที คว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
แม้สุดท้าย ในรอบชิงชนะเลิศ เธอจะได้แค่เพียงเหรียญทองแดง แต่ก็นับเป็นการสร้างตำนาน ที่ผู้คนจดจำเธอได้ทั่วโลก ขณะที่ 5,000 และ 10,000 เมตร เธอคว้าเหรียญทองได้ทั้ง 2 รายการ
"คุณนึกภาพออกไหม หลังจากริโอ มีคนถามฉันว่า ฉันจะได้เป็นแชมป์โอลิมปิกหรือไม่ ฉันตอบว่า 'ไม่!' แต่ที่โตเกียว ฉันกลายเป็นแชมป์โอลิมปิก สองเหรียญ และเหรียญทองแดง 1 ครั้ง"
ฮัสซันบอกว่า โอลิมปิกทั้ง 2 ครั้งนี้ ทำให้เธอเข้าใจชัดเจนว่า ชีวิตไม่สามารถคาดเดาได้ ทุกเรื่องราว คือ บทเรียน ที่มีคุณค่ามากมาย และเราต้องต่อสู้ต่อไป ซึ่งโตเกียวคือความสุขที่สุดในชีวิตเธอ
ฮัสซันเล่าว่า หลังจบโตเกียว เธอรู้สึกหมดไฟอีกครั้ง เหมือนทำได้ตามเป้าไปแล้ว แต่เธอยังไม่หยุดฝัน และเลือกความท้าทายครั้งใหม่ คือ มาราธอนแรก
ดังนั้น สองปีต่อมาหลังโตเกียว ฮัสซันจึงเปิดตัวเดบิวต์มาราธอนแรกในลอนดอน จบลงด้วยชัยชนะที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง และตามมาด้วยชัยชนะในชิคาโกมาราธอน
ต่อด้วย กรีฑาชิงแชมป์โลกปี 2023 ที่บูดาเปสต์ ผลงาน 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง เป็นการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง สำหรับชีวิตนักกรีฑาของฮัสซัน
ก่อนที่จะลงสนามโอลิมปิกครั้งที่ 3 ในปารีสโอลิมปิก ที่ฮัสซันบอกว่า การได้กลับไปโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 3 ทำให้เธอรู้สึกพิเศษมาก
นอกจากจะเป็นประเทศใกล้บ้านแล้ว เธอยังภูมิใจที่ได้มีโอกาสแข่งขันโอลิมปิกอีกครั้ง โดยกำลังซุ่มซ้อม เตรียมความพร้อม เพื่อกลับมาป้องกันแชมป์อีกสมัย
TAG ที่เกี่ยวข้อง