หมู่บ้านนักกีฬา "ปารีส 2024" การลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ สำหรับโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ซึ่งหนึ่งในส่วนสำคัญที่ต้องใช้รองรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากทั่วทุกมุมโลกคือหมู่บ้านนักกีฬา ดังนั้นฝรั่งเศสเจ้าภาพจึงจัดหนักจัดเต็มใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านยูโร เนรมิตรพื้นที่กว่า 52 เฮกตาร์ ให้กลายเป็นเมืองขนาดจิ๋วที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยแบบครบวงจร

ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ติดตามได้ที่นี่

By Athletes โดยนักกีฬา

การสร้างหมู่บ้านโอลิมปิกและพาราลิมปิกปีนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้เป็นต้นแบบด้านการรักษ์สิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันก็ต้องสนองความต้องการของนักกีฬา รวมถึงความต้องการของชุมชนท้องถิ่นในระยะยาว จึงมีจุดกึ่งกลางว่าหลังจบการแข่งขันจะเกิดการใช้หมู่บ้านนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่เพื่อให้บรรลุหน้าที่แรกคือการรองรับนักกีฬา แล้วจะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของนักกีฬานับหมื่น ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงใช้วิธีให้นักกีฬามีส่วนร่วมกับการออกแบบ ด้วยการสำรวจข้อมูลเชิงลึกจากนักกีฬาทุกทวีปที่ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับหมู่บ้านในอุดมคติที่ควรจะมีและควรจะเป็น ทำให้ได้ผลสำเร็จคือหมู่บ้านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักกีฬารอบด้านและครบถ้วนมากที่สุด

For Athletes เพื่อนักกีฬา "Train, Eat, Sleep, Repeat!"

จากโจทย์ที่ต้องตอบสนองนักกีฬารอบด้าน รวมทั้งต้องอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังสนามแข่ง พื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬาจึงมาลงตัวที่ตอนเหนือของใจกลางกรุงปารีสห่างออกมาราว 7 กิโลเมตร ครอบคลุมแซงต์-เดนีส์, อีล แซงต์-เดนีส์ และ แซงต์-อวน ซึ่งใช้เวลาเดินทางไปสนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ไม่ถึง 5 นาที โดยอาณาบริเวณหมู่บ้านนักกีฬา "ปารีส 2024" ที่มีขนาดราว 52 เฮกตาร์ หรือประมาณ 320 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ Olympic Village Plazza พื้นที่นานาชาติที่เปิดออกสู่แม่น้ำแซน, พื้นที่พักอาศัยที่อยู่รอบ ๆ Cité du Cinéma และพื้นที่ปฏิบัติการที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายคมนาคมหลักเพื่อง่ายต่อการเดินทาง

เรื่องของพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อม หนึ่งในอุปสงค์หลักของนักกีฬา ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะนอกจากสนามแข่งที่ห่างออกไปไม่ถึง 30 นาทีแล้ว นักกีฬาทั้งหมดสามารถเดินทางจากหมู่บ้านนักกีฬาไปยังสนามซ้อมได้ภายในเวลา 20 นาที ซึ่งร้อยละ 60 สามารถซ้อมในหมู่บ้านนักกีฬาได้เลย โดยมีฟิตเนสเซ็นเตอร์อยู่ที่ Maxwell Hall พร้อมด้วยคาเฟ่ และศูนย์บริการข้อมูล

ด้านอาหารการกินที่ต้องรองรับนักกีฬามากกว่า 14,500 คนในโอลิมปิก และอีก 9,000 คนในช่วงแข่งพาราลิมปิกนั้น มีศูนย์อาหารให้บริการที่ Cité du Cinéma ซึ่งเป็นอดีตสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ ทำให้มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอระดับ 3,200 ที่นั่ง พร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า 60,000 มื้อต่อวันตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันยังมีศูนย์การแพทย์ที่ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงพาราลิมปิกจะมีศูนย์ซ่อมอุปกรณ์ของผู้พิการอย่างเช่นขาเทียม และวีลแชร์เปิดให้บริการแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ไม่มีขาดตกบกพร่องทั้ง บริการซักรีด, ร้านสะดวกซื้อ, สถานีตำรวจ, ร้านทำผม, โรงยิม, บาร์(ไร้แอลกอฮอล์), สถานที่เพื่อทำพิธีกรรมของทุกศาสนา หรือแม้แต่ที่ทำการไปรษณีย์ เช่นเดียวกับพาหนะไฟฟ้าและจักรยานเพื่อให้นักกีฬาเดินทางภายในหมู่บ้านอย่างสะดวก

To Community สู่ชุมชนในอนาคต

ด้วยแนวคิดหลักคือการรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างจึงเน้นการใช้ไม้รวมถึงวัสดุรีไซเคิล เช่นเดียวกับข้าวของเครื่องใช้ในห้องพัก อย่างเช่นเตียงที่ทำจากกระดาษแข็ง หรือที่นอนจากอวนจับปลา ซึ่งจะถูกรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่หลังจบการแข่งขัน

นอกจากนั้น เมื่อ ปารีส 2024 รูดม่านปิดฉากลงแล้ว พื้นที่ทั้งหมดของหมู่บ้านนักกีฬาซึ่งเทียบเท่าสนามฟุตบอล 70 สนาม อันประกอบด้วย อาคาร 82 หลัง, ที่พัก 3,000 ห้อง และส่วนกลางอีก 7,200 ห้อง จะถูกแปรเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย 2,800 ยูนิตเพื่อประชากร 6,000 คน รวมทั้งมีหอพักนักศึกษา, โรงแรม, โรงเรียนใหม่ 2 แห่ง, พื้นที่สีเขียว 37.5 ไร่ ที่มีสวนสาธารณะใจกลางชุมชน, สำนักงาน, พื้นที่ธุรกิจ และบริการอื่น ๆ บนพื้นที่ 120,000 ตารางเมตร ที่จะทำให้เกิดการจ้างงาน 6,000 ตำแหน่ง รวมถึงย่านร้านค้าที่มีขนาด 3,200 ตารางเมตร และบริเวณนี้จะรองรับการเป็นศูนย์กลางของรถไฟใต้ดินสายแกรนด์ปารีสในอนาคต

ขณะเดียวกันสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือการออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อความยั่งยืนไปยังผู้อยู่อาศัยถาวร ทั้งการออกแบบอาคารให้ประหยัดพลังงานและใช้พลังงานในตัวเอง เช่น จากระบบความร้อนใต้พิภพและพลังงานแสงอาทิตย์ การวางระบบระบายความร้อนด้วยแนวท่อในอาคารจนทำให้มีอุณหภูมิต่ำกว่าภายนอกถึง 6 องศา จึงไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ ลดทั้งการปล่อยก๊าซคาร์บอนการใช้พลังงานไฟฟ้าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล

ไม่เพียงแต่นักกีฬา คนทั่วไปก็มีบ้านรับรองด้วยนะ !!

Olympics Hospitality Houses หรือบ้านรับรอง เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่แฟนคลับโอลิมปิก ชื่นชอบอย่างมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมหลายพันคน ในทุกๆวัน ถูกจัดตลอดการแข่งขัน โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 บ้านรับรอง

1.บ้านรับรองสำหรับประเทศต่างๆ  

2.บ้านรับรองสำหรับแฟนคลับที่ชอบกีฬาเดียวกัน

ประสบการณ์สุด Exclusive ในบ้านรับรอง

1.เพลิดเพลินไปกับอาหารที่มีความโด่งดังจากประเทศนั้นๆ เช่น เบียร์ กับ เพรทเซล ในบ้านรับรองของประเทศเยอรมัน

2.ได้มีโอกาสที่ดีในการพบปะ นักกีฬาโอลิมปิกอย่างใกล้ชิด ที่จะเข้ามาทักทายแฟนคลับที่บ้านรับรองอีกด้วย

3.การได้ร่วมใจกันเชียร์นักกีฬาในขณะการแข่งขัน และ อาจจะได้ร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อมกับตัวนักกีฬา

4.เป็นสถานที่ ที่ได้ทั้งพักผ่อน ชาร์จพลัง ร่วมกับแฟนคลับโอลิมปิกอีกด้วย