อาฒยา ฐิติกุล การเติบโตตามขั้นบันไดสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ในทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะกับบุคคลใดก็ตามล้วนมาจากความมุ่งมั่นที่จะนำตนเองไปสู่จุดหมาย เช่นเดียวกับ ‘จีน’ อาฒยา ฐิติกุล โปรกอล์ฟหญิงชาวไทยที่ฝากผลงานมากมายประดับไว้บนเวทีโลก และทุกความสำเร็จของเธอนั้นเกิดจากการพัฒนาไปตามลำดับขั้นอย่างมีนัยยะ ต่อยอดสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่เธอฝัน หลากเหตุผลหลายปัจจัยหลอมรวมเป็นตัวตนที่ ‘โปรจีน’ สร้างรากฐานที่มั่นคงสู่ความยั่งยืนในเส้นทางนักกีฬา

ล่าสุด โปรจีน ก้าวสู่ความสำเร็จไปอีกขั้น ด้วยการผ่านเข้าสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้สำเร็จ นับเป็นโอลิมปิกแรกของเธอเช่นกัน จากฝันในวัยเด็กกระทั่งวินาทีนี้เธอผ่านแบบทดสอบทั้งหมดแล้ว

เติบโตตามกลไก

‘จีน’ อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยวัย 20 ปีคือหนึ่งในโปรกอล์ฟอายุน้อยที่สุดของเมืองไทยที่เคยก้าวขึ้นสู่มือหนึ่งของโลก ความสำเร็จที่เธอได้รับนั้นมาจากการพัฒนาฝึกฝนทักษะตั้งแต่เยาว์วัย สะสมประสบการณ์จนกลายมาเป็นนักกอล์ฟหญิงฮอตที่สุดในเวลานี้

จีน เล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า ช่วงที่เธออายุ 6 ปี ปัญหาสุขภาพเข้ามารุมเร้าโดนอาการภูมิแพ้เล่นงานอย่างจัง ความวิตกกังวลเกิดขึ้นกับคนรอบข้าง เพราะเกรงว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพจนคาราคาซังในระยะยาว ทำให้ทั้งคุณปู่และคุณพ่อต้องทางรับมือ จึงร่วมระดมความคิดเพื่อหาทางออกจนตกผลึกว่าจะให้จีนหันมาออกกำลังกายโดยมีตัวเลือกสองทางคือ เดินออกรอบเล่นกอล์ฟหรือวิ่งรอบคอร์ทหวดลูกเทนนิส แน่นอนว่าเธอเลือกตัวเลือกแรกเพราะมันคือกีฬาที่ตอบโจทย์ในระยะยาว

“คุณปู่เป็นคนแรกที่เริ่มให้เราเล่นกอล์ฟ ซึ่งคุณพ่อก็เป็นนักกีฬาทุนโรงเรียนอยู่แล้ว ปู่ก็เลยต้องการให้เราเล่นกีฬาบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงถ้าเล่นดีก็เป็นอาชีพได้ด้วยในอนาคต"

จากคำบอกเล่าของจีนสะท้อนแนวคิดของคนในครอบครัวได้ว่า นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาด้านสุขภาพแล้ว ยังส่งผลถึงความมั่นคงในเส้นทางสายอาชีพ ไม่เพียงเท่านั้นเธอเพิ่มเติมเหตุผลพร้อมเสียงหัวเราะว่า สาเหตุที่เลือกเล่นกอล์ฟแทนเทนนิสเพราะไม่อยากออกแรงวิ่งมากนัก (มันเหนื่อย) 

แต่นั้นเป็นเพียงเหตุผลที่สะท้อนความเป็นคนอารมณ์ดีของจีน สาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากแนวความคิดของทั้งคุณปู่และคุณพ่อที่ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะและอีกเหตุผลหนึ่งนั่นคือ การเล่นกีฬาประเภทเดี่ยวจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่ต้องกังวลกับความคิดของคนอื่น

“เราจึงตัดสินใจว่าจะเลือกเล่นกอล์ฟโดยไม่ลังเล เพราะโดยส่วนตัวจีนไม่ชอบวิ่งซึ่งท่านทั้งสองก็เห็นด้วย เรารู้สึกว่าท่านน่าจะมีภาพในหัวตั้งแต่แรกแล้วว่า ถ้าเราเล่นกอล์ฟเก่งมันจะต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพได้ แต่ลึก ๆ ก็ยังเชื่อว่าภาพของท่านทั้งสองในวันนั้นคงไม่คิดว่าเราจะมาไกลได้ขนาดนี้”

ก้าวช้า ๆ อย่างมั่นคง

ไม่มีใครคาดคิดว่าการก้าวเข้าสู่วงการกอล์ฟของจีนนั้นจะพาเธอมาได้ไกลขนาดนี้ จากเด็กหญิงวัย 6 ขวบที่ฝึกฝนทักษะจนเกิดการพัฒนาต่อยอดกลายมาเป็นโปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลก การันตีคุณภาพด้วยรางวัลมากมายที่เธอสามารถคว้ามาได้ตั้งแต่เริ่มจับไม้กอล์ฟครั้งแรก

“การแข่งขันรายการแรกเริ่มตอน 6 ขวบ ผลงานที่ออกมาก็รู้สึกพอใจเพราะเราสามารถคว้าแชมป์ในระดับดิวิชั่น 2 ของรายการมาได้ ก็รู้สึกโอเค พอเรามาได้แชมป์แรกจากการเล่นกอล์ฟ มันจึงกลายเป็นว่าต้องการที่จะทำหน้าที่ตรงนี้และพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ”

จากความสำเร็จแรกในชีวิตต่อยอดสู่การคว้าแชมป์ในรายการต่าง ๆ ที่ตามมาอีกมากมาย ไล่เรียงตั้งแต่ความสำเร็จในระดับสมัครเล่น ในระดับภูมิภาค 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2017 ขยับไปสู่ในระดับโลกอย่างเหรียญทองยูธโอลิมปิก 2018 ขยับไปสู่การคว้าแชมป์ระดับอาชีพ เลดี้ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัย ในปี 2017, 2019 จากนั้นจีนพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องจนกระทั่งกลับมาคว้าแชมป์ ทิปสปอร์ต เช็ก เลดี้ โอเพ่น 2021 ตามด้วยแชมป์ วีพี สวิส เลดี้ โอเพ่น ในปีเดียวกัน 

ทุกถ้วยรางวัลที่กล่าวมาเป็นเหมือนขั้นบันไดที่เธอเดินขึ้นมาทีละก้าวตามการเติบโต จากนั้นความสำเร็จต่าง ๆ ก็นำพาเธอเข้าสู่เวที แอลพีจีเอ ทัวร์ (LPGA Tour) ซึ่งเป็นเวทีสูงสุดของการเป็นนักกอล์ฟอาชีพหญิง เธอใช้เวลาไม่นานก็คว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการ ทั้งรายการเจทีบีซี คลาสสิก และ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2022 พร้อมกันนี้ยังคว้ารางวัลดาวรุ่งและนักกอล์ฟยอดเยี่ยมประจำปี 2021 มาครองอีกด้วย

“โดยส่วนตัวเราชอบการแข่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเชื่อว่านักกีฬาทุกคนก็เป็นแบบนั้น มันจึงทำให้เราต้องการที่จะลงแข่งไปเรื่อย ๆ เราไม่ชอบความพ่ายแพ้ไม่ใช่เฉพาะเกมกีฬาเท่านั้น อย่างการใช้ชีวิตอะไรที่เป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ไม่ต้องการความพ่ายแพ้เพราะรู้สึกว่ามันเสียศักดิ์ศรี” จีนทิ้งท้ายประโยคด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ด้วยความสามารถบวกกับพรสวรรค์ ทำให้อันดับโลกของจีนขยับขึ้นในทุกปีที่ลงทำการแข่งขัน จากอันดับที่ 352 ของโลกในปี 2017 สู่การก้าวมาเป็นมือหนึ่งในปี 2022 ในขณะเดียวกันนับตั้งแต่ครองมือ 1 ของโลก เธอรักษามาตรฐานการเล่นระดับสูงของตัวเองได้อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นโปรกอล์ฟมือ 1 ของไทยและเบอร์ต้น ๆ ของโลกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของความสำเร็จแบบยั่งยืนได้ เพราะทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากการพัฒนาศักยภาพของตัวเองแบบเป็นลำดับขั้นและไม่เคยหยุดนิ่ง

จีนเน้นย้ำอย่างหนักแน่นถึงความสำเร็จว่า “คำว่าความสำเร็จสำหรับเราไม่ใช่เรื่องได้อันดับที่เท่านั้นเท่านี้ แต่สำหรับเราแล้วความสำเร็จคือการเอาชนะตัวเอง มีความสุขในทุก ๆ วันและต้องมีความสุขระหว่างทางนี่คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป้าหมายไม่ใช่เคล็ดลับของความสุข แต่ระหว่างทางต่างหากที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ซึ่งมันคือการประสบความสำเร็จในแบบของเราแล้ว”

ค้นพบ ยอมรับ แก้ไข กลยุทธ์สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

“เส้นทางของเราไม่ได้โรยด้วยกุหลาบ เรามีปัญหาทุกคนก็มีปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะหาทางแก้ไขได้เร็วและดีขนาดไหนมากกว่า” จีนยอมรับว่ากว่าจะมาได้ไกลเช่นทุกวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย 

ในบางครั้งเธอต้องสละบางสิ่งเพื่อแลกมาซึ่งบางอย่าง ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ขาดหายไปในช่วงวัยเด็กเธอยอมรับตามตรงว่า บางโมเมนต์ที่เธอได้เห็นเพื่อนในวัยใกล้เคียงกันกำลังวิ่งเล่นและกำลังสนุกสนานในกิจกรรมอื่นแต่กลับกันเธอต้องก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมซึ่งทั้งหมดก็เพื่ออนาคตที่เธอได้เลือกไว้แล้ว

“ยอมรับว่าในครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับกอล์ฟเรารู้สึกสนุกกับมันมาก ในทุกสนามจะมีเพื่อนมากมายที่ร่วมเล่นด้วยกันแต่พอเข้าช่วงอายุ 9-10 ปีเพื่อนเลิกเล่นเกือบหมด ถามว่าเรารู้สึกอย่างไรต้องบอกว่าเราก็เริ่มมีความรู้สึกท้อบ้างเพราะทุกครั้งที่เห็นเพื่อน ๆ ทำกิจกรรมอื่น ๆ เราก็อยากทำบ้างแต่กลับต้องมาซ้อมตีกอล์ฟทุกวันหลังเลิกเรียน มันเป็นธรรมดาของเด็กที่อยากมีฟีลลิ่งได้เล่นของอื่น ๆ ตามเพื่อนบ้างแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ซึ่งนั่นคืออนาคตของเรา จึงยอมสละเวลาตรงนั้นและทุมเทให้กับการฝึกซ้อม”

จีนเล่าต่อว่า ในทุกสนามที่ลงทำการแข่งขันความรู้สึกกดดันถาโถมเข้าใส่ราวพายุบ้าคลั่ง ความเครียด อึดอันทับถมจนบางเวลาก็รู้สึกท้อ ซึ่งเธอเชื่อมาตลอดว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับนักกีฬาทุกคน เพราะความคาดหวังจากตนเองและคนรอบข้างมันไม่มีทางหลีกพ้นทำได้แค่เพียงเดินหน้าเผชิญ

“เมื่อเราก้าวขึ้นไปถึงจุด ๆ หนึ่ง เคยคิดว่าเรานั้นกลัวจะสูญเสียบางอย่างไป แต่เมื่อกลับมาทบทวนความคิดตัวเองใหม่ก็พบว่าเราจะไม่สูญเสียอะไรเลยหากเราไร้ความกลัวเพราะชีวิตคนเรานั้นมีขึ้นมีลง ในเมื่อกราฟชีวิตมันดิ่งลงก็ปล่อยมันไปตามวิถีทางก็ช่างมันไม่เป็นไรเพราะตลอดเส้นทางที่เราผ่านมานั้นเราคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว”

ในวันนี้ต้องยอมรับว่า จีนประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งเธอคิดเสมอว่าการเล่นกอล์ฟของเธอนั้นจะต้องดูแลครอบครัวได้ด้วยและในตอนนี้เธอก็สามารถทำได้อย่างที่ใจหวัง

“ช่วงนี้เริ่มหันมาใส่ใจกับตัวเองมากขึ้นเพราะที่ผ่านมารู้สึกว่าเราให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากกว่าตัวเอง ดังนั้นเราต้องหาความสุขเล็ก ๆ มาเติมเต็มระหว่างการเล่นกอล์ฟบ้างแล้ว เพราะการเล่นกอล์ฟมันกดดันและเครียดเราไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้ว จึงคิดว่าการหาความสุขเล็ก ๆ มันจะช่วยให้เราพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นได้เช่นกัน”

สำหรับมหกรรมโอลิมปิกครั้งนี้ จีนบอกว่า ความรู้สึกตื่นเต้นย่อมมีแน่นอนเพราะนี่คือความฝันของนักกีฬาทุกคน เธอจะทำให้เต็มที่ สู้ในทุกหลุม ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบใดก็ตามจะไม่เสียใจที่ได้ลงมือทำ

“ถึงจะได้เหรียญหรือไม่ได้ โอลิมปิกคือความฝันตั้งแต่เด็กๆ ใครจะรู้ว่าเราจะมาถึงจุด ๆ นี้มันทำให้ความฝันเป็นจริงขึ้นมา ครั้งต่อไปก็ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นจึงอยากทำให้ดีที่สุด มี 100 ก็ต้องทำให้ได้ 120 เปอร์เซ็นต์”