stadium

วอลเลย์บอลชายญี่ปุ่น ผลลัพธ์ความสำเร็จที่สร้างจากจินตนาการ

5 มิถุนายน 2567

การ์ตูนมังงะจัดเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่อนิเมะเข้าถึงคนทั่วโลกได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชันสตรีมมิงต่าง ๆ และหากพูดถึงในแง่ของการสร้างแรงบันดาลใจแล้ว นี่คือหนึ่งในเครื่องมือที่เข้าใจง่าย และเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ หรือแม้แต่คนวัยทำงานก็ตาม

 

"กัปตันซึบาสะ" คือตัวอย่างที่ชัดเจนของกรณีนี้ จากโลกของจินตนาการสู่ความฝันของเด็กผู้ชายชาวญี่ปุ่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลของดินแดนอาทิตย์อุทัยส่วนหนึ่งมีที่มากจากมังงะฝีมืออาจารย์ โยอิจิ ทากาฮาชิ ซึ่งตัดภาพมาในปัจจุบันทัพ "ซามูไรบลูส์" กลายเป็นขาประจำของฟุตบอลโลก นักเตะหลายต่อหลายคนออกไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศ รวมถึงลีกยักษ์ใหญ่ทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และบุนเดสลีกาของเยอรมนี

 

แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ญี่ปุ่น กำลังตื่นตัวกับกีฬาอีกชนิดนั่นก็คือ วอลเลย์บอล และกำลังส่งผลออกมาในโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อพวกเขาสามารถต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ของโลกได้อย่างสูสี แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มาจากการ์ตูนเรื่องอะไร และทำไมพวกเขาถึงกลายเป็นทีมที่มีลุ้นเหรียญในโอลิมปิก 2024 ติดตามได้ที่นี่

 

 

ไฮคิว จินตนาการบนหน้ากระดาษสู่แรงบันดาลใจบนโลกแห่งความเป็นจริง

 

หลังประสบความสำเร็จกับกีฬาฟุตบอลไปแล้ว ตอนนี้มังงะญี่ปุ่นสร้างปรากฏการณ์ในวงการกีฬาอีกครั้ง คราวนี้คือกีฬาวอลเลย์บอลที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง "ไฮคิว" ที่เริ่มต้นเผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 และโด่งดังต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้านี้วอลเลย์บอลชายของพวกเขากำลังอยู่ในภาวะถดถอย มีเด็กสนใจเล่นกีฬานี้ในระดับไฮสคูลน้อยลง จนทุกคนได้มารู้จักกับ "โชโย ฮินาตะ" และทีมวอลเลย์บอลชายโรงเรียนคาราสุโนะ

 

มังงะ “Haikyuu” หรือที่ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า วอลเลย์บอล ได้ชื่อว่า “คู่ตบฟ้าประทาน” ในเวอร์ชันบ้านเรา เป็นการ์ตูนที่พูดถึง โชโย ฮินาตะ เด็กหนุ่มที่หลงเสน่ห์กีฬาตบลูกยางในรายการชิงแชมป์มัธยมปลาย และต้องการเจริญรอยตามผู้เล่นของทีมโรงเรียนม.ปลาย คาราสุโนะที่มีฉายาว่า “สมอลล์ไจแอนท์” (ยักษ์จิ๋ว) จนเข้าสู่เรื่องราวหลักของ ฮินาตะ ที่ได้เข้าโรงเรียนในฝัน และเดินหน้าพาคาราสุโนะสู่ความสำเร็จ

 

ด้วยความที่อาจารย์ ฮารุอิชิ ฟุรุดาเตะ เจ้าของผลงาน เคยเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล ทำให้สามารถถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาได้อย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นลายเส้น การเคลื่อนไหว รวมทั้งกฎ กติกา เทคนิคการเล่น และรูปแบบการเล่น ที่สำคัญที่สุดคือเนื้อเรื่องซึ่งกลั่นออกมาจากประสบการณ์ของคนที่คลั่งไคล้กีฬาวอลเลย์บอลจนทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวได้โดยง่ายดาย และทำให้เกิดความคิดร่วมกันว่า "วอลเลย์บอลนี่เท่ชะมัด" โดยไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษ หรือท่าไม้ตายเหนือมนุษย์แต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเด็กทั่วญี่ปุ่นอีกด้วย

 

 

การตื่นตัวของวอลเลย์บอลญี่ปุ่นและทั่วโลก

 

ก่อนหน้าที่ "ไฮคิว" จะปรากฏต่อสายตาชาวญี่ปุ่น จำนวนนักเรียนที่เลือกเข้าชมรมวอลเลย์บอลลดลดอย่างน่าใจหาย จากเดิมที่เคยอยู่ในหลัก 41,000 คนทั่วประเทศ ลดเหลือ 37,000 คนในปี 2012 แต่ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อไฮคิวตอนแรกถูกตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็น จั๊มพ์ รายสัปดาห์ ความนิยมในมังงะช่วยคืนชีพให้กีฬาวอลเลย์บอลโดยสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขที่เห็นได้ชัด ซึ่งในปี 2016 มีนักเรียนมากกว่า 46,000 คนที่เลือกเข้าชมรมวอลเลย์บอล และยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ความตื่นตัวนี้ ไม่ได้ส่งผลแค่เด็กนักเรียนในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังทำให้คนในช่วงวัยอื่น ๆ รวมทั้งแฟนมังงะและอนิเมะทั่วโลกอยากรู้จักกีฬาวอลเลย์บอลมากยิ่งขึ้น กลายเป็นผลดีต่อสโมสรและลีกต่าง ๆ ไปด้วย จะเห็นได้เลยว่าหากมีการเปิดหัวข้อวอลเลย์บอลในกลุ่มสนทนา คนที่เข้าใจไม่ได้เป็นคนส่วนน้อยอีกต่อไป

 

 

ร่วมด้วยช่วยกัน วิวัฒนาการที่มาจากองค์ประกอบรอบด้าน

 

นับตั้งแต่การเปิดตัวตอนแรกของ "ไฮคิว" ถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว นั่นหมายความว่าเด็กที่ได้แรงบันดาลใจในการเล่นวอลเลย์บอลในวันนั้น จะกลายเป็นนักกีฬาชุดใหญ่ได้พอดี หรือแม้แต่คนที่เป็นนักกีฬาไปแล้ว ณ ช่วงเวลานั้นก็ได้รับผลบวกจากมังงะเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งในสารคดีของ NHK เมื่อปี 2016 เปิดเผยว่า นักวอลเลย์บอลทีมชาติญี่ปุ่นหลาย ๆ คน ตามอ่านเรื่องไฮคิว ยกตัวอย่างเช่น มาซาฮิโระ ยานางิดะ หัวเสาอดีตกัปตันทีมชาติที่ยอมรับว่า การ์ตูนเรื่องนี้เหมือนเป็นภาพสะท้อนตัวตนของเขา นอกจากนั้นเขายังเคยลองใช้เทคนิคต่าง ๆ เหมือนในมังงะอีกด้วย

 

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เมื่อมีจำนวนเด็กที่เล่นวอลเลย์บอลมากขึ้น ย่อมกลายเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับทีมชาติ เพราะมีการแข่งขันมากขึ้น และเพิ่มตัวเลือกมากขึ้นไปด้วย ขณะเดียวกัน สมาคมวอลเลย์บอลญี่ปุ่น ยังต่อยอดไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการฝึกสอนวอลเลย์บอลในระดับยุวชน-เยาวชน รวมทั้งความพยายามสร้างลีกที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2024 ที่มีเป้าหมายผลักดันลีกในประเทศให้ขึ้นสู่ระดับแนวหน้าของโลก พร้อมไปกับการสนับสนุนผู้เล่นให้ไปหาประสบการณ์ในต่างแดนอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น ยูกิ อิชิกาวะ กัปตันทีมชาติที่โลดแล่นในลีกอิตาลีมาอย่างยาวนาน หรือ รัน ทากาฮาชิ หัวเสาที่เพิ่งย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิด หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่อิตาลีมาถึง 3 ฤดูกาล

 

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือแฟนกีฬาวอลเลย์บอลในประเทศที่มีความเหนียวแน่น และพร้อมสนับสนุนทีมอย่างเต็มที่ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ยกระดับความนิยมในตัวนักกีฬาจนไม่ต่างกับไอดอลในวงการบันเทิงไปแล้ว ซึ่งส่งผลบวกให้นักกีฬามีไฟที่จะทำผลงานให้ดี เพื่อตอบแฟนกีฬาทุก ๆ คน

 

 

จากไม้ประดับ สู่ทีมที่ไม่มีใครมองข้าม

 

ความมุ่งมั่น, ความมีวินัย, ความไม่ย่อท้อ, ความสนุกสนานในการเล่น รวมทั้งการทำงานเป็นทีม ที่ตัวละครทุกตัวแสดงให้เห็นในเรื่อง "ไฮคิว" ได้กลายเป็นสามัญสำนึกของเด็ก ๆ ที่หลงรักกีฬานี้ ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในทีมชายของญี่ปุ่น

 

แม้หลายคนอาจจะมองว่า ยูกิ อิชิกาวะ, ยูจิ นิชิดะ และรัน ทากาฮาชิ คือดาราเอกของทีม แต่พวกเขาจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้เลย ถ้าขาดผู้เล่นตำแหน่งอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ และลงแข่งด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นไม่ย่อหย่อนไปกว่ากัน รวมทั้งการวางแผนของ ฟิลิปป์ เบลน ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว จากเดิมที่เหนียวแน่นในเกมรับอยู่แล้ว ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับเสริมความเฉียบขาดในเกมรุกที่เล่นด้วยความรวดเร็ว หลากหลาย เปี่ยมจินตนาการ เหมือนหลุดออกมาจาก "ไฮคิว" เลยทีเดียว

 

ถึงญี่ปุ่นจะผิดหวังจาก "โตเกียว 2020" เพราะต้องมาเจอกับ บราซิล ชาติตัวเต็งในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่กลายเป็นเชื้อไฟให้พวกเขาบินสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากทีมที่เคยอยู่นอกวงโคจรท็อปเทน ญี่ปุ่น พัฒนาความสามารถทั้งในรายบุคคลและส่วนรวม ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นทีมอันดับ 4 ของโลก แบบที่สามารถเอาชนะ บราซิล ชนะฝรั่งเศส และสู้กับทีมชั้นนำอื่น ๆ ได้แบบไม่เป็นรอง ดีกรีอันดับ 3 เนชันส์ลีกปีที่แล้ว ไม่ได้มาแบบโชคช่วย ซึ่งความสามารถของพวกเขาจะได้รับการพิสูจน์อีกครั้งใน โอลิมปิก เกมส์ "ปารีส 2024" ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


stadium

author

ณัฐกร ทองนพเก้า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic