stadium

เอลิอุด คิปโชเก้ : เคล็ดลับความสำเร็จที่ไม่เคยเปลี่ยน

22 พฤษภาคม 2567

2 เหรียญทองโอลิมปิก 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง พร้อมเป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่งมาราธอนด้วยเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของ เอลิอุด คิปโชเก้ นักวิ่งมาราธอนชาวเคนยาวัย 39 ปี ที่แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด กวาดแชมป์มาครองมากมาย 

แต่มุมมองการใช้ชีวิตของเขา กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง มันช่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา และดูจะเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ คิปโชเก้ ได้สัมผัสกับคำว่า “ชัยชนะ”  


แล้วเคล็ดลับของ ความเรียบง่าย ที่ว่านี้คืออะไร? มาติดตามไปด้วยกัน
 


ช่วงชีวิตสุดลำบาก

 

ช่วงชีวิตวัยเด็กของ คิปโชเก้ ต้องวิ่งจากบ้านไปเรียนหนังสือด้วยระยะทางไกลหลายกิโลเมตร สำหรับคนอื่นอาจจะดูโหด แต่มันเป็นเรื่องปกติของนักเรียนในประเทศเคนยา

“คุณไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังวิ่ง เพราะมันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ” เมื่อเข้าสู่อายุ 18 ปี จุดเปลี่ยนของชีวิตได้เริ่มขึ้น เมื่อ แพทริค แซง โค้ชคนปัจจุบัน เสนอแผนการฝึกซ้อมที่จะทำให้ความสามารถสูงขึ้น แต่ปัญหาเดียวของ คิปโชเก้ คือ ไม่มีปากกาจดบันทึก

“ผมต้องหยิบกิ่งไม้มาเขียนแผนซ้อม 10 วัน ลงบนแขนตัวเอง จากนั้นพยายามท่องมันในหัว และ รีบกลับบ้านหากระดาษ กับ ปากกา เขียนในสิ่งที่โค้ชบอกเท่าที่จำได้” 


ทุกวันนี้ คิปโชเก้ ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ห่างไกลจากสิ่งรบกวนเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแคมป์เก็บตัวที่หมู่บ้านคัปตากัตในชนบทของเคนยา ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตของเขาเป็นอย่างดี 

 


แคมป์เก็บตัวสุดคลาสสิค

 

แคมป์เก็บตัวที่คัปตากัต ไม่ใช่สถานที่ฝึกซ้อมหรูหราแต่อย่างใด มันเป็นถนนดินลูกรังขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ส่วนอาคารที่พัก หากไม่มีรองเท้าวิ่งราคาแพงๆ วางอยู่ข้างนอก เชื่อว่าหลายคนคิดว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอย่างแน่นอน

แคมป์เก็บตัวแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นปี 2002 โดย แพทริค แซง โค้ชคนปัจจุบันของคิปโชเก้ ที่ทำงานร่วมกันมากกว่า 20 ปี ซึ่งเป้าหมายแรก คือ ใช้เป็นสถานที่เก็บตัวของนักวิ่งดาวรุ่ง ไม่ใช่ที่เก็บตัวถาวรของ คิปโชเก้ แต่อย่างใด เขาวิ่งตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันเสาร์ ในทุกสัปดาห์ 

 

แม้ว่าบ้านของ คิปโชเก้ ที่มีภรรยา และ ลูกๆ อาศัยอยู่ด้วยกัน จะไม่ได้ห่างจากแคมป์ แต่เขาเลือกใช้เวลาทั้งสัปดาห์ในหอพัก และสิ่งเดียวที่เขามีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น คือ ห้องพักส่วนตัว แต่การใช้ชีวิตนอกเหนือจากนั้นเท่าเทียมเหมือนคนอื่นทั้งหมด

 

"ที่นี่เราใช้ชีวิตกันง่ายๆ ตื่นเช้าออกไปวิ่งก่อนกลับมาที่แคมป์ ถ้าเป็นวันทำความสะอาด ก็จะทำร่วมกัน หรือพักผ่อน จากนั้นทานมื้อเที่ยง, นวดคลายกล้ามเนื้อ, ออกวิ่งตอน 4 โมงเย็น, จิบชายามบ่าย, พักผ่อน และ เข้านอน ง่าย ๆ แค่นั้น"

 

บางคนมองว่าการใช้ชีวิตห่างไกลครอบครัว อาจทำให้รู้สึกเหงา แต่สำหรับนักวิ่งในแคมป์ที่คัปตากัต มองเป็นเรื่องดี เพราะทำให้มีสมาธิในการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ บวกกับสถานที่ตั้งแคมป์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 8,000 ฟุต ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นความสำเร็จ  
 


ไม่หลงระเริงกับความสำเร็จ


ความสำเร็จของ เอลิอุด คิปโชเก้ ไม่ต้องพูดถึง เป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน (ปี 2016 และ 2020) 1 เหรียญเงิน (ปี 2008) และ 1 เหรียญทองแดง (ปี 2004) รวมถึงแชมป์วิ่งมาราธอนระดับเมเจอร์ 11 ครั้ง และเป็นคนแรกที่วิ่งมาราธอนด้วยเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง   
 

นักกีฬาระดับโลกหลายๆคน หรือแม้กระทั่งนักกรีฑาเคนยาบางคนอนาคตดับวูบ เพราะมัวเมากับชื่อเสียง เงินทอง แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวคิปโชเก้เลย  

 

"ผมต้องการใช้ชีวิตเรียบง่าย เงินทองเป็นของนอกกาย ผมไม่ได้มีเงินก้อนพิเศษที่ทำให้ตัวเองเสียสมาธิ ผมไม่ได้ทำงานกับเงินเพราะมันอยู่ในธนาคาร”

นักกีฬาคนอื่นๆ อาจฉลองความสำเร็จด้วยการไปสถานที่หรูๆ ซื้อของแพงๆ แต่สำหรับ คิปโชเก้ เขาเลือกใช้ชีวิตสุดเรียบง่าย ด้วยการไปเยี่ยมฟาร์มวัว และ ฟาร์มแกะ  

 

"การได้ใกล้ชิดกับสัตว์เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะหลังการฝึกซ้อม มันทำให้คุณผ่อนคลาย และปรับสภาพจิตใจของตัวเอง"
 


ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

 

แพทริค แซง โค้ชคนปัจจุบัน พูดถึงมุมมอง และ ข้อคิดที่ได้ทำงานร่วมกับ คิปโชเก้ มาโดยตลอดว่า “คุณรู้มั้ย เอลิอุด กับ ผม เราเริ่มต้นเดินทางด้วยกันมากกว่า 20 ปีแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเขา คือ พวกเราได้พัฒนาองค์ประกอบการไว้วางใจอย่างจริงจัง จนถึงจุดที่เขารู้ว่า ผมอยู่ตรงนั้นเพื่อการพัฒนา
ที่ดีของ คิปโชเก้” 

 

“เขา (คิปโชเก้) ให้ความไว้วางใจกับผม มันเป็นความท้าทาย เพราะคุณต้องคิด และ ก้าวไปอีกขั้นเพื่อไม่ให้ผิดหวัง มันเป็นความสัมพันธ์ที่ล้ำค่า ที่สร้างขึ้นจากความไว้วางใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา มันดังกว่าเสียงพูดของผมในตอนนี้ซะอีก” 


“ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่ เอลิอุด ถามผมเกี่ยวกับการฝึกซ้อม เขามาสถานที่ฝึกซ้อมเพื่อลงซ้อม ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะเตรียมแผนสำหรับวันนั้นๆ ในนาทีนั้นให้กับเขา” 

 

“เขาไม่เคยถามถึงแผนรายปี แผนประจำสัปดาห์ แผนรายเดือน แน่นอนว่าทุกๆปี หลังจบฤดูกาล เราจะนั่งทบทวน พิจารณาถึงจุดแข็ง และ จุดอ่อน จากนั้นกำหนดสิ่งที่เรามองหาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งไปสู่ครั้งต่อไป”

 

 

ชื่นชอบการอ่านหนังสือ


เอลิอุด คิปโชเก้ ถือเป็นนักอ่านตัวยง และ หนังสือเล่มโปรดของเขาคือ 7 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง (The Seven Habits of Highly Effective People)


“ไม่มีเพื่อนคนไหนที่ภักดีมากไปกว่าหนังสือ” คิปโชเก้ ให้สัมภาษณ์กับ World Athletics “พวกเขาเป็นแหล่งความสุขสำหรับผม ทำให้เราเข้าใจโลกได้ดีขึ้น และ ช่วยให้ผมเติบโตในฐานะมนุษย์”

“ความสนใจของผม มันเริ่มจากการอ่านเรื่องสั้นในปี 2005 ผมสนุกกับสิ่งที่เรียนรู้จากการอ่านหนังสือ และ ตัดสินใจว่า ควรจะใช้เวลาอ่านหนังสือในแคมป์ฝึกซ้อมให้มากขึ้น แทนที่จะดูทีวี”

“ผมไม่เคยอ่านหนังสือนิยาย ผมชอบอ่านหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ และ หนังสือธุรกิจ รวมถึง อัตชีวประวัติ ผมพยายามอ่าน 1 ชั่วโมงทุกๆช่วงบ่าย และอีก 1 ชั่วโมงหลังทานอาหารว่างช่วงเย็น
 

“ผมเป็นแฟนตัวยงของนักเขียนอย่าง Stephen R. Covey ผมชอบหนังสือของเขา โดยเฉพาะ 7 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง หนังสือเล่มนี้สอนเรามากมายนะ พวกเขาปลูกฝังให้ผมเห็นความสำคัญของการทำงานหนัก และการปฏิบัติต่องานของคุณ จริงจังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ จะใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนได้อย่างไร”

 

 

อาหารแสนเรียบง่าย

 

แล้วอาหารของ เอลิอุด คิปโชเก้ ประกอบด้วยอะไรบ้าง? 

 

หลังจากการวิ่งระยะไกล หรือ การใช้ความเร็วอย่างเข้มข้นบนสนาม อาหารเช้าของเขาจะประกอบด้วย ชาขาว และ ขนมปัง ซึ่งเป็นอาหารทั่วไปของเคนยา ส่วนขนมปังที่ คิปโชเก้ และ เพื่อนร่วมทีมของเขากินที่แคมป์เก็บตัวในคัปตากัต เป็นขนมปังโฮมเมด

 

“แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาอันหนักหน่วง เช่น 3 วันต่อสัปดาห์ ผมจะดื่มชา กินผลไม้พวกกล้วย และไข่ เพื่อทดแทนพลังงานที่เสียไป และที่สำคัญเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ฉีกขาด” คิปโชเก้ ให้สัมภาษณ์กับ BBC

 

"ส่วนมื้อกลางวัน และ มื้อเย็น ผมจะทานอูกาลิ อาหารพื้นเมืองแอฟริกัน ที่มีเนื้อไม่ติดมัน และ มานากู ซึ่งเป็นผักที่คล้ายผักโขม เต็มไปด้วยวิตามิน และ ไฟเบอร์ เขาสลับกินกับ ผักกะหล่ำปลี หรือ ผักเคล"

 

 

พร้อมล่าเหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่ 3 

 

หลังจากกรีฑาเคนยา และ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเคนยา ประกาศรายชื่อนักกีฬาที่จะลุยศึก “โอลิมปิก 2024” เอลิอุด คิปโชเก้ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน ให้สัมภาษณ์ว่า “ปารีส คือสถานที่จุดเริ่มต้นชีวิตผมในกีฬากรีฑาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว” 

 

“ผมพูดเสมอว่า โอลิมปิก เป็นความฝันที่พิเศษ” “โอลิมปิกเกมส์ เป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝัน ในฐานะเด็กๆที่เริ่มต้นเล่นกีฬา และ เป็นแรงบันดาลใจให้เรามากที่สุดในวันนี้” 

 

“ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้รับเลือกติดทีมชาติเคนยา เป็นครั้งที่ 5 ในชีวิต หลังคว้าเหรียญทองวิ่งมาราธอนใน ริโอ เดอ จาเนโร และ โตเกียว ตอนนี้โฟกัสไปที่ปารีสแล้วครับ!”


stadium

author

"เจมส์จินโญ่" ธัมมสาร อ่อนเกิดแก้ว

StadiumTH Content Creator / รักเชลซี พิคานย่า และ ทุกอย่างที่เป็นบราซิล

Hatari
stadium olympic