stadium

10 เรื่องราวแปลกๆ ที่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันโอลิมปิก

20 พฤษภาคม 2567

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่ากีฬาโอลิมปิกเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณในเมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ เมื่อ 776 ปี ก่อนคริสตกาล มาจนถึงปี ค.ศ. 393 และหายไปนานกว่า 1503 ปี ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งเป็นโอลิมปิกสมัยใหม่ ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี ค.ศ. 1896 และในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณนั้นเอง ได้มีการบันทึกเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นที่เราได้นำมาให้ชมกันนี้

 

 

การบูชายัญสัตว์

 

การบูชายัญสัตว์ให้แก่เทพเจ้า ถือเป็นพิธีกรรมโบราณที่เกิดขึ้นเป็นปกติในหลายประเพณี ซึ่งรวมถึงการแข่งกีฬาโอลิมปิก เมื่อบรรดานักกีฬาจะต้องไปที่วิหาร และวางเนื้อหมูป่าแล่บางต่อหน้ารูปปั้นเทพเจ้าซุส เพื่อสัญญาว่าจะปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างเป็นธรรม และสุดท้ายจะมีการสังหารวัว 100 ตัว โดยบรรดานักบวช และเผาพวกมันเพื่อเป็นการบูชายัญต่อเทพเจ้า

 

 

 

กินอัณฑะสัตว์เพื่อบำรุงกำลัง

 

ไม่เพียงแค่การบูชายัญสัตว์ แต่ชิ้นส่วนต่างๆ ของสัตว์ ยังถูกนำมาใช้เพื่อเฉลิมฉลอง ไม่เว้นแม้แต่ส่วนอัณฑะ ที่ชาวกรีกโบราณเชื่อว่า การกินอัณฑะแกะจะยิ่งช่วยบำรุงกำลังให้นักกีฬา และมอบชัยชนะให้กับพวกเขา นอกจากอัณฑะแกะแล้ว บางครั้งนักกีฬาก็จะบริโภคผึ้งเป็นๆ กลีบกุหลาบ และ กีบเท้าลา เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังอีกด้วย

 

 

นักกีฬามักจะเปลือยเปล่า

 

นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การแข่งกีฬาโอลิมปิกในอดีตกาลถูกจำกัดไว้แค่ในกลุ่มผู้ชายเท่านั้น เพราะนักกีฬาที่เข้าแข่งขันมักจะใส่อะไรหลวมๆ หรือแทบจะไม่ใส่อะไรเลย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด และมันยังเป็นการแสดงความถึงความภาคภูมิใจในร่างกายที่ฝึกมาอย่างดี และยังเป็นการข่มขวัญขู่ต่อสู้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปลือยกายแบบนี้ทั้งหมด

 

 

ตกแต่งอวัยวะเพศ

 

ถึงแม้นักกีฬาจะเปลือยร่างกายจนหมด แต่กลับมีส่วนหนึ่งที่ได้รับการยกให้ต้องมีการปกปิดไว้นั่นคือส่วนอวัยวะเพศ แต่ถึงอย่างนั้นนักกีฬาชาวกรีซก็อาศัยช่องว่างเรื่องการปกปิดของสงวน ด้วยการตกแต่งมันให้ออกมาดูดีที่สุด เช่นการผูก ส่วนปลายอวัยเพศของตนเองด้วยสายหนังผูกรอบเอว แล้วมัดเป็นโบว์เล็กๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงโชว์แบบหนึ่งแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความเป็นชายชาตรีตามความคิดของชาวกรีกโบราณอีกด้วย

 

 

การค้าประเวณีหมู่

 

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อความบันเทิงสำหรับบรรดานักกีฬาทั้งก่อนลงสนามและหลังแข่งขันเลยก็ว่าได้ ขณะเดียวกัน กิจกรรมนี้ยังเป็นโอกาสทองในการหารายได้สำหรับผู้หญิงกลุ่มนี้อีกด้วย และว่ากันว่าแค่การมาร่วมค้าประเวณีในช่วงที่มีการจัดแข่งกีฬานี้ ทำให้พวกเธอมีรายได้มากกว่าที่หาได้ตลอดทั้งปีอีกต่างหาก

 

 

ศิลปะการต่อสู้แบบแพนเครชัน

 

อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมันมีการแข่งขันมาตั้งแต่การแข่งโอลิมปิกในสมัยแรกๆ และมีรูปแบบใกล้เคียงกับกีฬามวยปล้ำในปัจจุบัน เพียงแต่การแข่งในยุคโบราณยังไม่มีกฎกติกาใดๆ ไม่จำกัดในเรื่องสไตล์การต่อสู้ การใช้อาวุธ หรือแม้แต่กระทั่งการทำร้ายร่างกายคู่ต่อสู้ด้วยการกัด จิกตา หรือสามารถโจมตีอวัยวะเพศของคู่ต่อสู้

 

 

การแข่งรถเทียมม้า

 

ได้ยินครั้งแรก หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นกีฬาประเภทการแข่งความเร็ว แต่เอาเข้าจริงมันคือการสังหารหมู่ในโอลิมปิกก็ว่าได้ เพราะเมื่อรถม้ากว่า 40 คัน วิ่งออกไปบนเส้นทางที่กำหนด เวลาที่รถเหล่านั้นเลี้ยวพร้อมกัน จะทำให้ล้อรถม้าเกิดการปะทะกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนั่นทำให้เกิดการล้มตายของผู้เข้าแข่งจำนวนมาก แถมผู้ชมแถวหน้าก็มีสิทธิ์ที่จะเสียชีวิตจากการโดนลูกหลงได้อีกด้วย

 

 

ผู้หญิงถูกจำกัดสิทธิ์

 

ย้อนกลับไปในการแข่งโอลิมปิกยุคกรีกโบราณ ผู้หญิงทั้งหลายแทบไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งขันใดๆ ในกีฬาโอลิมปิกเลยแม้แต่ชนิดเดียว จะมีก็แต่หญิงสาวพรหมจรรย์ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม เพื่อมีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับบรรดานักกีฬาที่ชนะในการแข่งขันต่างๆ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการสร้างประชากรให้แข็งแกร่งขึ้นในรุ่นต่อไป แต่ก็มีบางรายงานที่เปิดเผยว่า ผู้หญิงบางคนจ้างผู้ชายให้เข้าแข่งขันในนามของพวกเธอเช่นกัน

 

 

ผู้ชนะจะได้ทำลายกำแพงเมือง

 

ในวันสุดท้ายของการแข่งขันโอลิมปิก ผู้ชนะจะได้รับเกียรติได้รับมงกุฏใบมะกอก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติภูมิและชัยชนะ และเขาก็จะถูกแห่ไปบนรถม้าที่หรูหรา แถมยังได้รับเงินมากมาย และงดเว้นการจ่ายภาษีอีกด้วย ตั้งแต่นั้นชาวกรีกจึงเชื่อว่า นักกีฬาของพวกเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นผู้ทำลายกำแพงเมือง ด้วยความคิดที่ว่า พวกเขาไม่ต้องการกำแพงที่จะปกป้องตัวเองอีกต่อไป

 

 

วิ่งแข่งด้วยชุดหนัก 30 กิโลกรัม

 

ลำพังการวิ่งธรรมดาก็สร้างความหนักหนาให้กับผู้แข่งขันมากพอแล้ว แต่เพื่อให้มันยากขึ้นไปอีก จึงมีการคิดค้นกีฬาที่เรียกว่า Hoplitodromos ขึ้นมา ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องสวมใส่หมวก เกราะหุ้มขาที่เป็นโลหะและโล่ที่อยู่ในมือ ซึ่งมีน้ำหนักรวมๆ กันแล้วมากถึง 30 กิโลกรัม ก่อนจะวิ่งแข่งกันเพื่อเข้าเส้นชัย

 

อ้างอิง: https://listverse.com/2016/12/13/10-weird-traditions-from-the-ancient-olympic-games/


stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

stadium olympic