ซิโมน ไบลส์ : รอยยิ้มที่กลับมาของราชินียิมนาสติก

ย้อนกลับไปโอลิมปิก “โตเกียว 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในข่าวใหญ่ของกีฬายิมนาสติก นั่นคือ การประกาศอำลาสนามของ ซิโมน ไบลส์ โดยเธอคว้าได้ 1 เหรียญเงิน ประเภททีมอีเวนต์ และ 1 เหรียญทองแดง จากคานทรงตัว 

แต่ในโอลิมปิก “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส เราจะได้เห็นราชินียิมนาสติกชาวอเมริกัน กลับมาโชว์ลีลาสวยงาม พริ้วไหว อีกครั้ง อะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจหวนคืนสู่วงการอีกครั้ง? ติดตามไปพร้อมๆกับ StadiumTH ได้เลยครับ  
 

บาดแผลทางใจในวัยเด็ก

ซิโมน ไบลส์ เกิดที่รัฐโอไฮโอ เป็นลูกคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้อง 4 คน แต่ทว่า แชนน่อน ไบลส์ มารดาบังเกิดเกล้า มีปัญหาเรื่องการใช้สารเสพติด ไม่สามารถดูแลลูกๆ ของตัวเอง และทำให้เด็กๆ ต้องไปอยู่ในการดูแลของบ้านอุปถัมภ์ ก่อนที่ รอน ไบลส์ คุณตาแท้ๆ และ เนลลี่ ภรรยาคนที่ 2 ของเขา จะรับ ซิโมน และพี่สาว อาเดรีย ไบลส์ เป็นลูกบุญธรรม ซึ่งทั้งคู่ให้พวกเธอเรียกว่า พ่อ และ แม่ เพื่อไม่อยากให้เด็กๆคิดว่า เกิดมามีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์

"พ่อแม่สำคัญอย่างมากในชีวิต เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับวิธีการดูแลผู้อื่น และอยู่เคียงข้างนับตั้งแต่วันแรก หนูคงไม่สามารถหาคำใดมาขอบคุณพวกท่านได้เพียงพอ"  

แม้ชีวิตหนูน้อยจากโอไฮโอจะไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ จนกระทั่งอายุ 6 ขวบ เธอได้พบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อได้ไปทัศนศึกษากับบ้านอุปถัมภ์ที่ศูนย์ฝึกยิมนาสติก และพยายามทำท่าทางตามนักยิมนาสติกคนอื่นๆ ซึ่งพรสวรรค์ของเธอ ดันไปถูกใจโค้ชอย่างมาก ก่อนจะส่งเทียบเชิญให้ ซิโมน ไบลส์ เข้ามาร่วมการฝึก ในเวลาต่อมา

แจ้งเกิดเป็นดาวดังเต็มตัว

ซิโมน ไบลส์ เริ่มมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ลงแข่งขันตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนมาถึงปี 2011 เธอคว้าแชมป์ในรุ่นจูเนียร์มากมาย และจากฟอร์มอันยอดเยี่ยม ทำให้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชุดเยาวชน ก่อนจะขยับขึ้นไปแข่งรุ่นซีเนียร์ในปี 2013 
 

เธอเข้าร่วมแข่งขัน ยิมนาสติกชิงแชมป์โลก เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม และสามารถคว้าเหรียญทองได้ทันที ในประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาแอฟริกัน - อเมริกันคนแรกที่ได้แชมป์จากประเภทนี้

นอกจากนี้ เธอยังคว้าเหรียญทองในประเภทฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์, เหรียญเงินจากม้ากระโดด และเหรียญทองแดงจากคานทรงตัว 

ส่วนยิมนาสติกชิงแชมป์โลกในปี 2014 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซิโมน ไบลส์ ประกาศศักดา คว้า 4 เหรียญทอง ในประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์, คานทรงตัว, ฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์ และ ประเภททีม อีกทั้งยังคว้าเหรียญเงินจากม้ากระโดด

เข้าสู่ปี 2015 ที่ประเทศสกอตแลนด์ คว้าแชมป์โลกบุคคลรวมอุปกรณ์ สมัยที่ 3 ติดต่อกัน รวมทั้งแชมป์ประเภทคานทรงตัว, ฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์, ประเภททีม และ 1 เหรียญทองแดงจากม้ากระโดด ส่งผลให้เธอคว้าเหรียญรางวัลในศึกชิงแชมป์โลก 14 เหรียญ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของนักยิมนาสติกอเมริกัน
 

“โอลิมปิก 2016” ที่คนทั้งโลกต้องจดจำ

จากความสำเร็จที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอกลายเป็นความหวังของทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปโดยปริยาย และในโอลิมปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล เธอโชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าเหรียญทองประเภททีม ร่วมกับ ลอรี่ เฮอร์นานเดซ, เอลี่ ไรส์แมน, แก๊บบี้ ดักลาส และ แมดิสัน โคเซียน ที่รู้จักกันในชื่อ "เดอะ ไฟนัล ไฟฟ์"

ส่วนประเภทบุคคล ไบลส์ คว้าเหรียญทองในประเภทรวมอุปกรณ์ เป็นนักยิมนาสติกหญิงคนแรก ในรอบ 2 ทศวรรษที่คว้าแชมป์โอลิมปิกและแชมป์โลก 2 รายการติดต่อกัน

นอกจากนี้ยังคว้าเพิ่ม 2 เหรียญทองจาก ม้ากระโดด และฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์ และปิดท้ายคว้าเหรียญทองแดงในประเภทคานทรงตัว กลายเป็นนักยิมนาสติกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ถึง 4 เหรียญทอง และยังทำให้เธอได้รับเกียรติถือธงชาติสหรัฐฯ ในพิธีปิดการแข่งขันอีกด้วย

การตกเป็นเหยื่อ และ การคืนสังเวียน

 
หลังประสบความสำเร็จ คว้า 4 เหรียญทองในโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล เธอตัดสินใจหยุดพักเกือบทั้งปี 2017 แต่ปลายปีดังกล่าว เกิดข่าวใหญ่ช็อกวงการ เมื่อ แลร์รี่ นาสซาร์ แพทย์ประจำทีมชาติสหรัฐ ถูกเปิดโปงว่าก่อเหตุคุกคามทางเพศ โดยมีเหยื่อนับร้อยราย 

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ เมื่อผู้เคราะห์ร้ายให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า สมาคมปิดหูปิดตาต่อพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่ง ซิโมน ไบลส์ ออกมายอมรับในปี 2018 ว่าตกเป็นเหยื่อเช่นกัน แต่เธอตัดสินใจไม่ไปฟังการพิจารณาคดีที่ศาลในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากไม่สามารถมองหน้าคนที่เคยทำร้ายเธอได้

แม้เรื่องราวนอกสนามที่เกิดขึ้นกับ ไบลส์ จะใหญ่โตมโหฬาร แต่กลับไม่ทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจแม้แต่น้อย ซิโมน กลับมาอีกครั้งพร้อมคว้าแชมป์ในประเทศ และกวาด 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน จากยิมนาสติกชิงแชมป์โลก ปี 2018 ที่ประเทศกาตาร์ ทั้งที่ก่อนแข่งรอบคัดเลือกต้องเข้าโรงพยาบาลจากอาการนิ่วในไต

ปี 2019 เผชิญปัญหานอกสนามอีกครั้ง
 

เข้าสู่ปี 2019 ไบลส์ เจอกับปัญหานอกสนามอีกครั้ง เมื่อ เทวิน ไบลส์-โธมัส พี่ชายของเธอถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมชาย 3 ราย แต่หลังจากที่แสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ได้กลับมาโฟกัสการแข่งขันอีกครั้ง ก่อนคว้า 5 เหรียญทองจากยิมนาสติกชิงแชมป์โลกที่ประเทศเยอรมนี จากประเภททีม, บุคคลรวมอุปกรณ์, ม้ากระโดด, คานทรงตัว และฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์
 

1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โอลิมปิกที่โตเกียว ก่อนโบกมือลาวงการ

 
ก่อนที่ “โอลิมปิก 2020” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มขึ้น หลายฝ่ายแสดงความมั่นใจว่า ซิโมน ไบลส์ จะแสดงศักยภาพอันสุดยอดออกมาได้อย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปดังที่คาดหวัง เมื่อทำได้แค่ 1 เหรียญเงิน จากประเภททีมอีเวนต์ และ 1 เหรียญทองแดง จากคานทรงตัว พร้อมถอนตัวจากการแข่งขันหลายประเภท ด้วยเหตุผลด้านสภาพจิตใจ ก่อนประกาศอำลาวงการหลังจบการแข่งขันทันที
 

การกลับมาอีกครั้งในรอบ 2 ปี

จนกระทั่งในปี 2023 USA ยิมนาสติก แถลงการณ์ว่า ซิโมน ไบลส์ เจ้าของ 4 เหรียญทองโอลิมปิก จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ในรายการ ยูเอส คลาสสิก (US Classic) พร้อมเป็นการคัมแบ็คในรอบ 2 ปี หลังประกาศเลิกเล่นในโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น และเธอสามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ จากประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์

โดยหลังจบการแข่งขัน ไบลส์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกอย่างดูลงตัวแล้ว รู้สึกดีมากในตอนนี้ ทั้งร่างกาย และ จิตใจ” 

“คิดว่ามีบางสิ่งต้องแก้ไขในกิตวัตรประจำวันของตัวเอง แต่การกลับมาแข่งครั้งแรก อยากจะบอกว่ามันไปได้ดีเลย ฉันตกใจ และ ประหลาดใจมาก”

“ฉันกำลังทำเพื่อตัวเอง ทำงานหนัก เชื่อมั่นตัวเองมากขึ้น เป็นเหมือนการเริ่มต้นกลับมา และ เริ่มต้นก้าวแรกอีกครั้ง”

ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม ต่อยอดมาถึงยิมนาสติกชิงแชมป์โลก 2023 ที่แอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ไบลส์ วัย 26 ปี คว้าเหรียญทองได้ทั้งหมด 4 เหรียญ จากประเภททีม, บุคคลรวมอุปกรณ์, คานทรงตัว และฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์ ทำให้เธอครองเหรียญรางวัลชิงแชมป์โลก ทั้งหมด 30 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทอง 23 เหรียญ, เหรียญเงิน 4 เหรียญ และ เหรียญทองแดง 3 เหรียญ

และในโอลิมปิก “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส ทุกสายตา มาพร้อมกับความคาดหวังในตัว ซิโมน ไบลส์ ชนิดหลีกเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายแล้ว เธอจะประกาศศักดาคว้าเหรียญทองให้กับสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่? โอลิมปิกครั้งนี้มีคำตอบอย่างแน่นอน