stadium

อัพเดตรายชื่อนักกีฬาไทยชุดลุยศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024

26 เมษายน 2567

เดินทางเข้าสู่ทางตรง 100 ม. สุดท้ายของการคัดเลือก โอลิมปิก “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส กันแล้ว ในส่วนของนักกีฬาไทยเวลานี้ผ่านการคัดเลือกแล้วทั้งหมด 37 โควตา มีการประกาศรายชื่อใครบ้างและเส้นทางกว่าจะได้โควตาของแต่ละคนเป็นอย่างไรติดตามพร้อมกันได้ที่นี่

 

 

ธันยพร พฤกษากร (ยิงปืน : ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง)

โอลิมปิก 5 สมัย : 2008, 2012, 2016, 2020 และ 2024 

 

ธันยพร เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 โดยตั๋วใบนี้ได้มาจากการคว้าอันดับ 5 ในศึกยิงปืนชิงแชมป์โลก ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2023 

 

เดิมทีในอีเวนต์ปืนสั้นระยะ 25 ม. หญิง ที่เธอลงแข่ง มีตั๋วโอลิมปิกมอบให้แค่นักกีฬา 3 อันดับแรก แต่เนื่องจากอันดับ 1-4 ซึ่งประกอบด้วย เยอรมนี, ยูเครน, ลัตเวีย และอิหร่าน นั้นต่างก็ได้โควตาโอลิมปิกกันไปก่อนหน้านี้แล้ว สิทธิ์จึงขยับมาเป็นของ ธันยพร

 

 

 

กมลลักษณ์ แสนชา : ยิงปืน ปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

นักแม่นปืนสาววัย 16 ปี สร้างเซอร์ไพร์คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เป็นคนที่ 3 ของนักกีฬายิงปืน โดยผ่านการคัดเลือกจากรายการสุดท้าย รายการ ISSF Final Olympic Qualify Championship 2024 ที่ประเทศบราซิล เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผานมา

 

ในประเภทปืนสั้นอัดลมหญิง ระยะ 10 เมตร มีโควตาโอลิมปิกแค่ 2 ที่นั่งมอบให้แชมป์กับรองแชมป์เท่านั้น แต่ทว่า กมลลักษณ์ กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งในรอบนี้ต้องยิงคนละ 24 นัด ซึ่ง กมลลักษณ์  ยิงทำคะแนนรวมได้ 240.5 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครองคว้าพร้อมสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส

 

 

ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ยิงปืน : ปืนยาว 3 ท่า ระยะ 50 ม. ชาย)

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024 

 

เส้นทางสู่โอลิมปิกของ ทองผาภูมิ ได้มาจากศึกยิงปืน “เอเชียน ไรเฟิล-พิสตอล แชมเปียนส์ชิพ 2024” ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

 

ในอีเวนต์ ปืนยาว 3 ท่า บุคคลชาย ระยะ 50 เมตร มีตั๋วโอลิมปิกแค่ 2 ใบ มอบให้นักกีฬาที่ทำผลงานในรอบชิงชนะเลิศได้ 2 อันดับแรก แต่อย่างไรก็ตามนักกีฬา 6 จาก 8 คนที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงฯ​ ได้สิทธิ์เข้าร่วมปารีส 2024 กันครบแล้ว ทำให้ ทองผาภูมิ ที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาถึงรอบชิงฯ ด้วยสกอร์ 583 คะแนน จึงคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ไปครอง

 

 

 

จุฑามาศ รักสัตย์ : มวยสากล รุ่น 50 กก.หญิง 

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024 

 

หลังจากพยายามมาหลายปี ในที่สุด จุฑามาศ ก็ประสบความสำเร็จได้ไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในชีวิต บนวัย 30 ปี เธอเป็นนักกีฬามวยสากลคนแรกของไทยที่ได้โควตาโอลิมปิก 2024 จากมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน โดยทำผลงานได้เหรียญทองแดง ซึ่งในรุ่น​ 50 กก.หญิง มีโควตาให้กับ 4 นักชกที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และเธอเป็น 1 ใน 4 คนนั้น 

 

 

จุฑามาศ จิตรพงศ์ : มวยสากล รุ่น 54 กก. หญิง 

โอลิมปิก 2 สมัย 2020, 2024 

 

ย้อนกลับไปในโตเกียว 2020 จุฑามาศ อีกเพียงก้าวก็จะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองแดงได้อยู่แล้ว แต่ตกรอบ 8 คนสุดท้ายไปเสียก่อน กลับมาหนนี้ จุฑามาศ ยังคงฝ่าด่านรอบคัดเลือกคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้อีกครั้ง

 

เส้นทางโอลิมปิกของจุฑามาศ ได้โควตามาจากศึกคัดเลือกโอลิมปิก 2024 เลก 1 ที่เมือง บุสโต อซิซิโอ ประเทศอิตาลี เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งในรุ่น 54 กก. หญิง นั้นมีโควตาโอลิมปิก 4 ที่นั่ง แต่ความยอดเยี่ยมของ จุฑามาศ เธอผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้สุดท้ายจะพ่ายให้กับนักชกจากสหรัฐฯ ไปแบบหวุดหวิด 2-3 เสียง แต่ก็ยังคว้าตั๋วมาได้ตามเป้าหมาย

 

 

ธนัญญา สมนึก : มวยสากล รุ่น 60 กก. หญิง 

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

จากนักชกความหวังในรุ่นเยาวชนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมกำปั้นไทยในปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว พิสูจน์ได้จากการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์มาได้เป็นครั้งแรก 

 

เส้นทางการคว้าตั๋วปารีส 2024 ของเธอ เกิดขึ้นในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 "หางโจวเกมส์" ในรุ่น 60 กก. หญิง มีโควตามอบให้ 4 นักชกที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ปรากฎว่า เจ้าตัวต้องลงแข่งโดยที่ร่างกายไม่เต็มร้อยเพราะเพิ่งหายไข้ แต่ยังสามารถชกชนะอาร์เอสซีคู่แข่งได้ทุกรอบจนผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้คะแนนให้กับนักชกเกาหลีเหนือ แต่ก็ยังดีพอสำหรับการคว้าตั๋วปารีส 2024

 

 

จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง : มวยสากล รุ่น 66 กก. หญิง

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024 

 

เจองานยากกว่าใครเพื่อนเลยกว่าจะได้ตั๋วโอลิมปิก 2024 เพราะในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 มวยสากล รุ่น 66 กก. หญิง มีโควตาโอลิมปิกให้แค่ 2 คนที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม จันทร์แจ่ม ยังคงทำผลงานได้สมราคารองแชมป์โลกในรุ่นนี้คนปัจจุบัน เอาชนะคู่แข่งด้วยคะแนนแบบเอกฉันท์ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ​ และผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศคว้าตั๋วโอลิมปิกได้ตามเป้า ก่อนจะแพ้ หลิว หยาง แชมป์โลกจากจีน คู่ปรับเก่าซึ่งเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทองปารีส 2024 

 

 

ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด : มวยสากล รุ่น 51 กก. ชาย 

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024 

 

ลบความผิดหวังจากโตเกียว 2020 ที่เจ้าตัวคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้แล้ว แต่ต้องถอนตัวหลังจากบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวเป็นปี กลับมาครั้งนี้ ธิติสรรณ์ เติบโตขึ้นและแกร่งขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ 

 

ธิติสรรณ์ เป็นอีกคนที่ได้โควตาโอลิมปิกจากผลงานในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 โดยในรุ่น 51 กก. ชาย นั้นมีโควตาอยู่ 2 ที่นั่งสำหรับนักกีฬาที่ผ่านเข้ารอบชิงฯ ซึ่งในรอบแรกอดีตแชมป์เยาวชนโลกและแชมป์ยูธโอลิมปิกของไทย เอาชนะคู่แข่งจากฟิลิปปินส์, ไชนีส ไทเป และจีน ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ต้องมาออกแรงหนักในรอบรองชนะเลิศซึ่งเป็นรอบสำคัญที่มีตั๋วโอลิมปิกเป็นเดิมพัน แต่ท้ายที่สุดยังเป็นนักชกไทยที่เบียดชนะคะแนนเกาหลีเหนือหวุดหวิด 3-2 เสียง เข้ารอบชิงฯ พร้อมคว้าตั๋วโอลิมปิกมาได้เป็นคนแรกของนักมวยชายไทย

 

 

บรรจง สินศิริ : มวยสากล รุ่น 63.5 กก. ชาย

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

แม้ว่าจะได้เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ ​ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน เป็นรางวัลปลอบใจหลังจากตกรอบรองชนะเลิศที่แพ้ ชินซอริก บาตาร์ซุก นักมวยมองโกเลีย เจ้าของเหรียญทองในรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาพลาดโควตาโอลิมปิกไปอย่างน่าเสียดายด้วย เนื่องจากในเอเชียนเกมส์ รุ่น 63.5 กก. มีตั๋วปารีส 2024 ให้เพียงแค่แชมป์และรองแชมป์เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ชินซอริก บาตาร์ซุก ภายหลังมีรายงานว่าถูกตรวจพบสารต้องห้ามประเภท อนาโบลิค สเตียรอยด์ ซึ่งต่อมานักชกมองโกเลียตัดสินใจขอสละสิทธิ์ไม่เข้าโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศส ทำให้โควตาดังกล่าวจึงตกเป็นของ บรรจง สินศิริ โดยที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้ส่งหนังสือยืนยันถึงคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้กลายเป็นนักชกไทยคนที่ 6 ในปารีส 2024

 

 

โกเมธ สุขประเสริฐ : จักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง ชาย

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

การคว้าตั๋วปารีส 2024 ของ โกเมธ ทำให้เขากลายเป็นนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งชายคนแรกของประเทศไทยที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย

 

เส้นทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นหลังจากที่นักปั่นมือ 1 ของไทย ลงแข่งขันศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ รายการนี้มีโควตาโอลิมปิกแค่ 1 ที่นั่งมอบให้กับแชมป์เท่านั้น โดยในการแข่งขันเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์มาครองได้เป็นสมัยที่ 2 ของตัวเอง พร้อมสิทธิ์เดินทางเข้าสู่โอลิมปิกที่ปารีส

 

 

จาย อังค์สุธาสาวิทย์ : จักรยานลู่ ประเภทคีริน และสปรินต์บุคคล

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

“ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ได้ไปแข่งโอลิมปิกเป็นครั้งแรก หลังจากทำคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ ในประเภทคีริน อยู่อันดับ 13 ของโลก มีทั้งสิ้น 2,949 คะแนน ซึ่งนอกจากจะได้โควตาประเภทคีรินแล้ว ยังได้สิทธิ์ลงแข่งขันประเภทสปรินต์บุคคล โดยอัตโนมัติอีกรายการ

 

 

 

ชนกภรณ์ การุณยธัช : ขี่ม้า กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง บุคคล

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

หลังจากผิดหวังไม่สามารถผ่านควอลิฟายไปโอลิมปิกที่โตเกียวได้ “ปรีดิ์อัญ” ชนกภรณ์ การุณยธัช เจ้าของเหรียญทองแดงหางโจวเกมส์ ยังคงเดินหน้าฝึกซ้อมอย่างหนักและตระเวนลงแข่งเก็บคะแนนสะสมรายการต่าง ๆ เพื่อมุ่งหน้าปารีส 2024 ให้ได้ 

 

ก่อนแข่งขันเก็บคะแนนสะสมปารีส 2024 รายการสุดท้ายในรายการ เวิลด์ คัพ ระดับ 5 ดาว ที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนธันวาคม 2023 สถานการณ์ของ ปรีดิ์อัญ มีคะแนนเก็บเป็นอันดับ 2 ตามหลังนักขี่ม้าจากนิวซีแลนด์ อยู่ 13 คะแนน อย่างไรก็ตามในการแข่งขันที่ซาอุดิอาระเบีย ปรีดิ์อัญ และ ทีน่า ม้าคู่ใจ ทำผลงานเข้ามาเป็นอันดับ 1 ส่งผลให้คะแนนสะสมรวมนั้นแซงปาดหน้าคว้าตั๋วโอลิมปิกไปในการแข่งขันรายการสุดท้าย 

 

“ปรีดิ์อัญ” มีคะแนนสะสม 334 คะแนน เข้ามาเป็นอันดับ 1 ของกรุ๊ปจี หรือก็คือตัวแทนจากทวีปเอเชียและโอเชียเนีย ทิ้งนิวซีแลนด์อันดับ 2 ที่มี 225 คะแนน พร้อมกับกลายเป็น 1 ใน 15 คนสุดท้ายที่ได้ผ่านเข้าสู่ปารีส 2024 และเป็นนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางคนแรกในประวัติศาสตร์ของไทยที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก

 

 

 

เบญญาภา จันทวรรณ : ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ หญิง

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ บุคคลหญิง ในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 มีโควตาโอลิมปิกให้ 2 ที่นั่ง มอบให้อันดับ 1 และ 2 โดย เบญญาภา จันทวรรณ นั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทำคะแนนในรอบไฟนอลเข้ามาเป็นอันดับ 2 คว้าเหรียญเงินไปครองพร้อมตั๋วโอลิมปิกเกมส์สมัยแรกในชีวิต

 

 

โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน : ไคท์บอร์ด ฟอร์มูลา ไคท์ ชาย 

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

คว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มาได้จากการแข่งขันเอเชียน ครั้งที่ 19 ซึ่งในกีฬาไคท์บอร์ด ประเภทฟอร์มูลา ไคท์ บุคคลชาย นั้นมีโควตาโอลิมปิกให้อันดับ 1-3 โดยในรอบไฟนอล โจเซฟ โจนาธาน เวสตัน ดาวรุ่งวัย 18 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ทำคะแนนเข้ามาเป็นอันดับ 3 คว้าเหรียญทองแดงพร้อมตั๋วโอลิมปิกสมัยแรกของเจ้าตัว

 

 

 

ภูริช โยเฮือง : ปัญจกีฬาสมัยใหม่ ประเภทบุคคลชาย

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

ภูริช โยเฮือง ในวัย 20 ปี คว้าโควตาโอลิมปิก 2024 ได้จากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้ง 19 ซึ่งในปัญจกีฬาสมัยใหม่ ประเภทบุคคลชาย มีโควตาให้ 5 ที่นั่ง โดยแต่ละประเทศจะได้โควตาโอลิมปิกแค่ชาติละ 1 ที่นั่งเท่านั้น 

 

ในส่วนของ ภูริช ทำผลงานเข้ามาเป็นอันดับที่ 11 ไม่ได้เหรียญรางวัล แต่เมื่อจัดอันดับตามประเทศแล้ว ภูริช ตัวแทนจากประเทศไทยทำอันดับเข้ามาเป็นที่ 5 ตามโควตา เป็นรองเพียงแค่ จอนอุงแท เกาหลีใต้, หลี่ ซูหวน จีน, ไทชู ซาโตะ ญี่ปุ่น และ จอร์จี โบโรดา คาซัคสถาน

 

 

 

โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ : เรือใบ ILCA 6

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

ศึกเรือใบชิงแชมป์เอเชียและคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเดือนธันวาคม 2023 ในประเภทอิลก้าซิกซ์ หญิง มีโควตาโอลิมปิก 2 ที่ ซึ่งในรอบสุดท้าย โซเฟีย เกล มอนโกเมอรี่ ลูกครึ่งไทย - สหรัฐ มีสกอร์รวมจบอันดับที่ 4 ในตารางคะแนนรวม แต่ยังดีพอที่จะคว้าโควตาโอลิมปิก เนื่องจากอันดับ 1-3 เป็นนักกีฬาจากจีนทั้งหมด ซึ่งตามกฎระบุเอาไว้ว่าแต่ละชาติสามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกได้แค่ชาติละ 1 ที่นั่งต่อรายการเท่านั้น

 

 

อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค : เรือใบ ILCA 7

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ได้จากศึกเรือใบชิงแชมป์เอเชียและคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยในประเภทอิลก้าเซเว่น ชาย มีตั๋วโอลิมปิกให้ 2 ที่นั่งเช่นกัน โดยในรอบ เมเดิล เรซ หรือรอบสุดท้ายมีเรือของนักกีฬาไทยผ่านเข้ามาได้ถึง 3 ลำ แต่ปรากฎว่า อธิษฐ์ มิเคล โรมานิค ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ทำผลงานได้ดีที่สุดเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 5 แต่เมื่อคิดคะแนนรวมทั้ง 10 รอบแล้ว เขามีคะแนนดีสุดเป็นอับดับ 2 ทำให้คว้าโควตาโอลิมปิกไปครอง

 

 

 

เทเบิลเทนนิส ประเภททีมหญิง 

 

สุธาสินี เสวตรบุตร

โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ 2024

 

จิณห์นิภา เสวตรบุตร

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

อรวรรณ พาระนัง

โอลิมปิก 2 สมัย : 2020, 2024

 

นักตบลูกเด้งสาวไทยทั้ง 3 คน ผนึกกำลังกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการเทเบิลเทนนิสไทยอีกครั้ง หลังช่วยกันช่วยทำผลงานผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกชิงแชมป์โลก 2024 ส่งผลให้อันดับโลกนั้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 11 ของโลก มี 2,298 คะแนน ทำให้ทีมผ่านเงื่อนไขคว้าโควตาโอลิมปิกจากอันดับโลกที่ดีที่สุดเป็นลำดับที่ 1 (ที่ยังไม่ได้สิทธิ์) และกลายเป็น 1 ใน 16 ทีมสุดท้ายที่จะได้เข้าร่วมปารีส 2024 

 

 

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ : เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง

โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ 2024

 

ความหวังเหรียญทองโอลิมปิก 2024 ของทัพนักกีฬาไทย และเป็นเจ้าของเหรียญทองโตเกียว 2022 ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงได้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จมาแล้วทุกรายการก็ตาม 

 

สำหรับปารีส 2024 พาณิภัค จะได้กลับไปป้องกันแชมป์อีกครั้ง หลังจากเจ้าตัวแชมป์ แมนเชสเตอร์ 2023 เวิลด์ เทควันโด กรังด์ปรีซ์ ไฟนอลส์ ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2023 ทำให้มีคะแนนเก็บเพิ่มอีก 100 คะแนน ส่งผลให้อันดับโลกนั้นการันตีติด 1 ใน 6 ของโลกพร้อมคว้าโควตาโอลิมปิกได้แน่นอนแล้ว

 

ในโอลิมปิกหนนี้เธอมีโอกาสที่คว้าเหรียญรางวัลได้เป็นสมัยที่ 3 ถ้าหากเธอทำเร็จจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทย เพราะในอดีตที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีนักกีฬาไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ 3 สมัย

 

 

 

บัลลังก์ ทับทิมแดง : เทควันโด รุ่น 68 กก.ชาย

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

บัลลังก์ ทับทิมแดง แจ้งเกิดแบบเต็มหลังคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน และรองแชมป์โลก 2023 ได้ในรุ่น 63 กก.ชาย อย่างไรก็ตามสำหรับโอลิมปิกเกมส์แล้วไม่มีแข่งขันในรุ่นดังกล่าว ทำให้เขาต้องขยับพิกัดขึ้นมาแข่งในรุ่น 68 กก.ชาย แทน

 

ในศึก รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2024 โซนเอเชีย ที่เมืองไท่อัน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บัลลังก์ ได้สิทธิ์เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ ได้บายรอบแรก จากนั้นรอบ 16 คนสุดท้าย บัลลังก์ เอาชนะอินเดีย 2-0 ยก 7-0 และ 10-1 เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปชนะจอมเตะจากเวียดนาม 2-0 ยก 4-1 และ 9-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นรอบชิงตั๋วโอลิมปิก โดยจอมเตะไทยก็ยังเอาชนะนักกีฬาจากปาเลสไตน์ไปได้อีก 2-0 ยก 8-5, 9-5 คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้สำเร็จ และเป็นสมัยแรกของเขาในวัย 19 ปีอีกด้วย

 

 

ศศิกานต์ ทองจันทร์ : เทควันโด รุ่น 67 กก.หญิง

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

ศศิกานต์ ทองจันทร์ เจ้าของเหรียญทองกีฬา มหาวิทยาลัยโลก 2023 ที่เฉิงตู ประเทศจีน ต้องขยับพิกัดจากรุ่น 62 กก.หญิง ขึ้นมาแข่งขันในรุ่น 67 กก.หญิง เนื่องจากในโอลิมปิกไม่มีแข่งรุ่น 62 กก. และกว่าที่จะคว้าตั๋วโอลิมปิกต้องมาลุ้นหนักถึงรายการสุดท้ายในศึก รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2024 โซนเอเชีย 

โดยในรุ่นนี้มีโควตาโอลิมปิกให้เพียง 2 คนที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ​ ซึ่ง ศศิกานต์ ถูกวางให้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ ไม่ต้องลงแข่งขันรอบแรก ไปยืนรอคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นรอบชิงตั๋วโอลิมปิก โดยต้องไปตัดสินกับนักกีฬาจากเนปาล ก่อนจะเป็นจอมเตะไทยที่เอาชนะไปแบบไม่ยากเย็นนัก 2-0 ยก คว้าโควตามาครองได้เป็นคนที่ 3 ของเทควันโดไทย

 

 

 

เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์ : เรือกรรเชียง ประเภทเรือ 1 คน ชายพายคู่

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

"เปรม" เปรมณัฏฐ์ วัฒนานุสิทธิ์ คว้าตั๋วลุย “โอลิมปิก 2024” ได้สำเร็จจากการแข่งขันกีฬาเรือกรรเชียง ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่เมืองชุงจู ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย. โซนเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อคว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดย ประเภทเรือ 1 คน ชายพายคู่ (M1x) เปรมณัฏฐ์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 6 ด้วยเวลา 7.15.14 นาที หลังนักกีฬาจากอุซเบกิสถาน ที่เข้าเส้นชัยอันดับ 5 ในประเภทเดียวกัน ได้โควตาไปก่อนหน้านี้แล้ว
 

 

 

กุลวุฒิ วิทิตศานต์ : แบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

นับตั้งแต่เริ่มเก็บคะแนนโอลิมปิก กุลวุฒิ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น คว้าแชมป์โลกในปี 2023 จากนั้นผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในระดับเวิลด์ ทัวร์ ได้อีก 3 รายการ ทำให้การเก็บคะแนนเพื่อไปโอลิมปิกไม่ได้เป็นงานยาก ก่อนจะผ่านการตัดตัวด้วยการมีคะแนนสะสมโอลิมปิกแรงกิ้งอยู่อันดับที่ 8 และในปารีส 2024 เขาก็ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีลุ้นเหรียญทองในประเภทชายเดี่ยวให้กับขนไก่ไทยอีกด้วย

 

 

รัชนก อินทนนท์ : แบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว

โอลิมปิก 4 สมัย : 2012, 2016, 2020 และ2024

 

ตลอดระยะเวลา 1 ปีของการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ รัชนก เผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บและป่วยอยู่เป็นระยะ ส่งผลให้สภาพร่างกายแทบจะไม่ได้ช่วงในสมบูรณ์พร้อมตลอดทั้งปี

 

อย่างไรก็ตามรัชนกยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ได้ 1 จาก 2 รายการที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศในช่วงระหว่างเก็บคะแนน โดยเฉพาะในรายการใหญ่ ๆ ส่งผลให้เธอมีคะแนนโอลิมปิกแรงกิ้ง ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นอันดับที่ 12 และเป็นอันดับ 1 นักแบดไทยในประเภทหญิงเดี่ยว

 

 

ศุภนิดา เกตุทอง : แบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

เงื่อนไขเดียวของ ศุภนิดา สำหรับการคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ จะต้องติด 1 ใน 16 อันดับแรกให้เพื่อคว้าโควตาที่ 2 ของไทยในประเภทหญิงเดี่ยว ต่อจาก รัชนก ที่การันตีโควตาไปได้ก่อนหน้านี้

 

อย่างไรก็ตามจากผลผลงานอันยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลาของการเก็บคะแนน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 รายการ และคว้าแชมป์ได้ 1 รายการ ในศึกยูเอส โอเพ่น 2023 ส่งผลให้เธอคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์มาครองได้เป็นสมัยแรก

 

 

สุภัค จอมเกาะ - กิตตินุพงษ์ เกตุเรน : แบดมินตัน ประเภทชายคู่  

โอลิมปิก 1 สมัย : 2024

 

นับตั้งแต่เข้าปี 2024 นักตบลูกขนไก่หนุ่มทั้งสองคนจับคู่กันระเบิดฟอร์มเก่งอย่างต่อเนื่อง ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ถึง 6 จาก 7 รายการที่ลงแข่ง โดยหนึ่งในนั้นผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย ทำให้คะแนนโอลิมปิกของพวกเขาพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 22 ได้สิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรกในชีวิต

ขณะเดียวกันยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่แบดมินตันไทยมีนักตบลูกขนไก่ประเภทชายคู่ผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย  

 

 

จงกลพรรณ กิติธรากุล - รวินดา ประจงใจ : แบดมินตัน ประเภทหญิงคู่

โอลิมปิก 2 สมัย : 2020 และ2024

 

เป็นคู่ดูโอที่รักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างดีเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงของการเก็บคะแนนโอลิมปิก แรงกิ้ง พวกเธอผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 2 รายการ เป็นรายการระดับเวิลด์ ทัวร์ 500 และ 750 อย่างละหนึ่งรายการ ส่งผลให้มีคะแนนสะสมติดเข้ามาเป็นอันดับ 10 ในประเภทหญิงคู่ และยังเป็นโอลิมปิกเกมส์สมัยที่ 2 ของทั้งคู่อีกด้วย

 

 

แบดมินตัน ประเภทคู่ผสม

เดชาพล พัววรานุเคราะห์

โอลิมปิก 2 สมัย 2020 และ2024

 

ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

โอลิมปิก 3 สมัย : 2016, 2020 และ2024

 

ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นในระดับสูงเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่ของ “บาส-ปอป้อ” พวกเขาผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 5 รายการระหว่างเก็บคะแนนโอลิมปิก คว้าแชมป์ไปได้ 3 รายการ โดย 2 รายการนั้นเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งถือเป็นการเค้นฟอร์มเก่งได้แบบถูกเวลา ก่อนที่โอลิมเกมส์จะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่เดือนข้างหน้า ซึ่งน่าสนใจทีเดียวว่าปารีส 2024 พวกเขาจะก้าวไปหยิบเหรียญรางวัลได้เป็นครั้งแรกหรือไม่

 

 

 

โควตาที่รอการประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการ

 

นอกจากนี้ไทยยังได้รับการการันตีโควตาโอลิมปิก 2024 แล้วอีกจำนวน 7 โควตา จากยกน้ำหนัก 4 โควตา โดยสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยืนยันแล้วว่าประเทศไทยได้โควตาโอลิมปิกทั้งหมด 4 คน แบ่งเป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน จากในรุ่น 61 กก. ชาย, รุ่น 73 กก. ชาย, รุ่น 49 กก. หญิง และ รุ่นน้ำหนักมากกว่า 81 กก. หญิง โดยจะมีการประกาศรายชื่อตัวแทนในแต่ละรุ่นในภายหลังต่อไป

 

ส่วนอีก 3 โควตาเป็นของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย จากประเภทโรดเรซ หญิง, โรดเรซ ชาย และไทม์ไทรอัล หญิง ซึ่งทั้ง 3 อีเวนต์จะมีการคัดเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุดกันอีกครั้งก่อนจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการในอนาคต


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

stadium olympic