stadium

ย้อนรอยนักวิ่งไทย ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก

25 เมษายน 2567

โอลิมปิกปี 1972 (พ.ศ.2515) คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีนักวิ่งไทยผ่านเข้าร่วมมหกรรมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติได้ คือ พลตรี อาณัติ รัตนพล ดาวจรัสแสงแห่งยุคบุกเบิกของสปรินเตอร์ไทย และยังเป็นผู้นำพาทีมไต้ฝุ่น 4x100 เมตรชายเข้าร่วมโอลิมปิกได้ในครั้งถัดมา 

 

จากนั้น ทีมวิ่งไทยก็ห่างหายจากโอลิมปิก กระทั่ง บุญถึง ศรีสังข์ ตำนานที่ยังมีลมหายใจของทีมทางไกลไทยแลนด์ปรากฏตัว ตามมาด้วย คีริน ตันติเวทย์ ในปัจจุบัน ...นี่คือ เรื่องราวย้อนรอยนักวิ่งไทยในโอลิมปิก และเส้นทางสู่ปารีส ในปี 2024

 

 

"พลตรีอาณัติ" ตำนานสปรินเตอร์ไทย

 

ห้วงเวลา 8 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2513 ถึง พ.ศ. 2521 พลตรีอาณัติ รัตนพล คือดาวจรัสแสงแห่งการวิ่งระยะสั้นไทย จากเอเชียนเกมส์ ในปี พ.ศ.2513 บันทึกความทรงจำอันรุ่งโรจน์ให้กับคนไทยยุค 80 จดจำทีมสปรินเตอร์ไทยในฐานะทีมวิ่งที่ดีที่สุด แจ้งเกิดจากเอเชียนเกมส์ ทะลุสู่ระดับโลก 

 

ตอนนั้นพลตรี อาณัติ รัตนพล ที่นำทีม 4x100 เมตรชายไทย ประกอบด้วย พลตรี อาณัติ, พนัส อริยะมงคล, กนกศักดิ์ เจตสานนท์ และสมศักดิ์ ทองสุข ผงาดขึ้นเป็นที่ 1 แห่งเอเชีย นำทางสู่ความฝันของนักวิ่งรุ่นน้องต่อมา

 

และยุคทองก็เกิดขึ้นต่อเนื่อง ในปี พ.ศ.2515 พลตรีอาณัติ สร้างประวัติศาสตร์สามารถผ่านเข้าร่วมโอลิมปิกได้ ในรายการ 100 เมตรชาย แต่สุดท้ายบาดเจ็บไม่ได้ลงแข่ง

 

ถัดมาโอลิมปิกในปี พ.ศ. 2519 พลตรีอาณัติ นำทีม 4X100 เมตรชายไทย สร้างตำนานอีกครั้ง ได้ไปโอลิมปิกที่แคนาดา และผ่านไปได้ถึงรอบคัดเลือก นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของทัพไต้ฝุ่นไทย 

 

โอลิมปิกที่แคนาดาพลตรีอาณัติเองยังได้แข่ง 100 เมตรชายด้วย และทำผลงานได้อย่างประทับใจ ด้วยการผ่านรอบแรกของการแข่งขัน และกลายเป็นนักวิ่งจากเอเชียเพียงคนเดียวที่ได้ผ่านรอบแรก โดยในครั้งนั้นสุชาติ แจสุรภาพ ก็ได้ลงแข่ง 100 เมตรชาย ทำเวลาได้ไม่ดีพอที่จะเข้ารอบรองชนะเลิศ

 

 

เมื่อ "บุญถึง ศรีสังข์" ปรากฎตัว

 

40 ปีผ่านไป หลังยุคทองของพลตรีอาณัติ ประเทศไทยได้รู้จักกับ บุญถึง ศรีสังข์ นักวิ่งทางไกลทีมชาติไทย ณ ห้วงเวลานั้น บุญถึงเคยเป็นผู้ถือครองสถิติประเทศไทยมากมายทั้ง 3,000 เมตร (8.10.39 นาที) 5,000 เมตร (14.10.56 นาที) และฮาล์ฟมาราธอน (1.07.35 ชั่วโมง) 

 

และสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการวิ่งทางไกลไทยแบบต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มต้น ยาวนานถึงปัจจุบัน ทั้งในซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ กระทั่งโอลิมปิกที่ริโอเดอจาเนโร ปี 2016

 

บุญถึงในวัย 35 ปี ได้ผ่านเข้าร่วมแข่งขัน หลังจากสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด จึงกลายเป็นโอลิมปิกแรกในชีวิตของบุญถึง และเป็นโอลิมปิกแรกและโอลิมปิกเดียวของทีมมาราธอนไทย 

 

แม้จะจบโดยไม่ได้อันดับเพราะอุปสรรคเรื่องสภาพอากาศ แต่ก็นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้เห็นนักวิ่งทางไกลไทย เข้าร่วมมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก ทำให้บุญถึงเป็นนักวิ่งผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

ประวัติศาสตร์ปัจจุบันโดย "คีริน"

 

คีริน ตันติเวทย์ คือ เจ้าของ 10 สถิติประเทศไทย ทั้งระยะกลางและทางไกล ไปจนถึง 10 กิโลเมตร และ 10,000 เมตร นี่คือนักวิ่งลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ผู้เป็นตำนานคนปัจจุบัน และยังคงแข่งขันในนามทีมชาติไทยอยู่ในขณะนี้

 

คีรินแจ้งเกิดจากเอเชียนเกมส์อินโดนีเซียที่กลายเป็นเดบิวต์แรกในเสื้อทีมชาติไทย ต่อด้วยการแข่งขันระดับอาเซียน คือ ซีเกมส์หลายครั้ง จนกระทั่งสร้างชื่อให้กับนักวิ่งทางไกลไทยด้วยโอลิมปิกครั้งแรกในโตเกียว

 

คีรินซึ่งเก็บตัวอยู่กับทีมวิ่ง Bowerman Track Club ซึ่งเป็นทีมวิ่งอาชีพในสหรัฐฯ ร่วมกับทีมชาติอีกหลายประเทศ ผลักดันตนเองจนได้เข้าร่วมโตเกียวโอลิมปิก ซึ่งแข่งขันในปี 2564 

 

เขาได้ลงแข่งในระยะ 10,000 เมตร เป็นครั้งแรกที่คนไทยได้ร่วมแข่งรายการนี้ในโอลิมปิก ซึ่งมีการคัดตัวที่ยากมาก เพราะ 10,000 เมตรไม่มีรอบคัดเลือก จะมีนักวิ่งแค่ 25 คนที่เร็วที่สุดในโลกเท่านั้นที่จะได้แข่งขันในโอลิมปิก

 

และปารีสโอลิมปิก 2024 ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น คีรินก็กำลังพยายามทำเวลาเพื่อควอลิฟายไปแข่งขัน โดยมุ่งไปที่รายการ 5,000 เมตร แม้จะยังไม่สำเร็จในการทุบกำแพง 13.05 นาทีได้ แต่คีรินก็สร้างสถิติใหม่ประเทศไทย ไว้ที่ 13.15.67 นาที

 

โดยรายการ 5000 เมตร จะมีรอบคัดเลือก ดังนั้นจะมีนักวิ่งได้ไปปารีส 42 คน ซึ่งคีรินหมดโอกาสเรื่องการทำเวลา 13.05 นาทีไปแล้ว แต่ยังมีเวลาสะสมคะแนนอันดับโลกจนถึง 30 มิถุนายนนี้


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

stadium olympic