24 เมษายน 2567
หลังคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกที่บูดาเปสต์ 2023 หลายคนคิดว่าไฟแห่งความร้อนแรงของสุดยอดสปรินเตอร์แห่งยุคชาวสหรัฐฯ โนอาห์ ไลล์ส จะเริ่มมอดลง
แต่ไลล์สยืนยันกับสื่อในโมนาโกก่อนงาน World Athletics Awards 2023 ซึ่งเขาได้รับรางวัลนักกีฬาชายแห่งปี ว่า ปี 2024 คือ ปีที่เขาทะเยอทะยานมากกว่าเดิม
นี่คือ แชมป์โลก 3 รายการ ในกรีฑาชิงแชมป์โลกที่ บูดาเปสต์ 2023 ทั้งระยะ 100 ม. 200 ม. และ 4x100 ม. ปัจจุบันอายุ 26 ปี ขณะนี้ ยืนอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงคำว่าตำนาน แต่ไลล์สยืนยันว่า "เขาต้องการชนะมากกว่าที่ผ่านมา"
“ผมเหมือนเดิม ยังคงเป็นโนอาห์คนเดิม แต่กระหายในชัยชนะมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผมได้พิสูจน์กับตัวเองแล้วว่า ผมทำได้ ดังนั้น ผมจึงกระตือรือร้นมากขึ้นที่จะพิชิตเป้าหมายในปี 2024 มันเหมือนว่าไฟในตัวผมกำลังจะถูกจุดขึ้นอีกครั้ง”
โนอาห์ ไลล์ส เล่าถึงความตั้งใจในปี 2024 ซึ่งหมายถึงโอลิมปิกในปารีส โอกาสที่เขาจะคว้าเหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรก ที่หลายคนเชื่อว่า มีโอกาสจะได้เหรียญมากถึง 3 เหรียญ
“ผมคิดนอกกรอบ ตั้งแต่จบการแข่งที่บูดาเปสต์ และกำลังดูว่าร่างกายของผมไหวได้แค่ไหน ถ้าผมซ้อมได้ ผมจะลองพยายามดู ซึ่งก็อยู่ที่จะได้รับโอกาสหรือไม่ด้วย แต่หากมีโอกาสได้แข่ง 3 รายการ ผมก็จะเต็มที่ที่สุด”
ชิงแชมป์โลกบูดาเปสต์ 2023 คือการแข่งที่ดีที่สุดในชีวิตสปรินเตอร์ของไลเลส เขาคือ แชมป์ 100 ม. ด้วยสถิติ 9.83 วินาที เป็นสถิติที่ดีที่สุดของตัวเอง และเวลาที่เร็วที่สุดของฤดูกาล
จากนั้นเขาก็คว้าแชมป์โลก 200 ม. เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในวันต่อมา และพาทีมสหรัฐอเมริกา ทวงแชมป์ 4x100 เมตรชายกลับคืนมาได้
ไลล์สกล่าวว่า ในปีนี้รายการสำคัญที่สุดของเขาคือ 100 ม. และรองลงมาคือ 200 ม. จากนั้นก็คือผลัด 4x100 ม.
“การวิ่ง 100 ม. สำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่ผมรู้มาตลอด คือ ผมจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก และตอนนี้ผมคือเจ้าของสถิติชาวอเมริกัน แต่เป้าหมายจริงๆ ของผมคือการเป็นชายที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก"
สำหรับการวิ่ง 200 ม. ไลล์สถือเป็นแชมป์ผู้ไร้พ่าย จาการแข่งในรอบชิงชนะเลิศ 6 ครั้ง เขาไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงในไดมอนด์ลีก ที่ลอนดอน ซึ่งเขาทำเวลาได้ 19.47 วินาที
ถือเป็นผลงานที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 ในอาชีพของเขา ทำให้เขารักษาตำแหน่งผู้นำโลก (World Lead) เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน
สถิติปัจจุบัน 100 ม. 9.83 วินาที 200 ม. 19.31 วินาที เป็นสถิติสหรัฐฯ และ ผลัด 4x100 ม. 37.10 วินาที เป็นสถิติสหรัฐฯ
“ผมตกใจมาก กับร่างกายตัวเองในการแข่งที่บูดาเปสต์ ตอนที่ทำได้แล้วผมรู้สึกดีมาก และตกใจมาก ส่วนการซ้อมตอนนี้ ผมกำลังพัฒนาร่างกายให้ก้าวข้ามสิ่งที่เคยทำเมื่อปีที่แล้ว เพราะตอนนี้ ผมรู้ว่าผมพัฒนาขึ้นได้อีก และรู้ว่าผมจะต้องไปอยู่ที่จุดไหน”
ความสำเร็จในวัย 26 ปี ของไลล์ส ได้รับคำชื่นชมไปทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ หลายคนที่ไม่เชื่อในตัวเขา ก็ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าเด็กคนนี้ทำได้ และนี่ไม่ใช่ความสำเร็จที่เกิดจากคนเพียงคนเดียว
ไลล์สบอกว่า “พูดตามตรง จริงๆ แล้ว สมัยเด็ก ผมไม่สนใจที่จะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก หรือแชมป์โลก แต่ผมเติบโตมาในครอบครัวที่มีความเชื่อมโยงกับนักกีฬาโอลิมปิก"
ซึ่ง Jerl Miles Clark นักกีฬาโอลิมปิก 5 สมัย หนึ่งในนักวิ่งหญิงระยะกลางในตำนานของสหรัฐฯ คือ แม่อุปถัมภ์ของไลเลสนั่นเอง ส่วนเคอิชา เคน แม่แท้ๆ ของไลล์ส ก็คืออดีตนักวิ่งที่ประสบความสำเร็จในระดับชาติของสหรัฐฯ
เมื่อโตขึ้น ความสำเร็จนั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของไลล์สในเวลาต่อมา "ตอนอายุ 8 ขวบ ผมรู้สึกได้ว่า ผมอยากจะเริ่มวิ่ง มันรู้สึกเหมือนว่า นี่คือวัยที่พร้อมแล้ว ในที่สุดผมก็ออกวิ่ง และผมก็ทำได้"
"จนกระทั่งถึงปี 2012 ผมอายุประมาณ 15 ปี กำลังนั่งชมพิธีเปิดโอลิมปิกกับน้องชาย ระหว่างเก็บตัวที่ USATF Junior Olympics พวกเราคิดตรงกันว่า เราอยากเป็นนักกีฬาโอลิมปิก แล้วความฝันของเราก็เริ่มต้นขึ้น"
ไลล์สบอกว่า เขารู้ว่ามีวัยรุ่นหลายคนกำลังมองดูเขาและอยากเป็นเหมือนเขา แต่เขาคงให้คำตอบไม่ได้ว่า ทุกคนควรเริ่มต้นทำตามความฝันในตอนไหน แต่เขาอยากบอกว่า "อย่าทำในสิ่งที่ไม่รัก จงทำในสิ่งที่คุณรัก แล้วจงทุ่มเทเพื่อมัน"
“ผมรักสิ่งที่ผมทำ และใช้ชีวิตตามความฝัน ถ้าเรารักและศรัทธามากพอ จงเข้มแข็ง กล้าหาญ และก้าวไปตามเส้นทางเพื่อความฝันนั้น อย่าลังเลที่จะเปิดประตูเข้าไป อย่าลังเลที่จะก้าวข้ามกำแพงสูง หากก้าวข้ามไปได้ นั่นคือ ความกล้าหาญ"
เช่นเดียวกันกับกำแพงสูง เป้าหมาย 3 เหรียญทองในปารีสโอลิมปิก 2024 ณ ตอนนี้ ประตูของไลล์สเปิดออกแล้ว เขากำลังก้าวไปบนเส้นทางนี้ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม
TAG ที่เกี่ยวข้อง