stadium

ทำความรู้จัก กู่ อ้ายหลิง สกีมะกันหัวใจมังกร

19 กุมภาพันธ์ 2565

"เมื่อฉันอยู่ในจีนฉันก็คือชาวจีน และเมื่อฉันอยู่ในสหรัฐฯ ฉันก็คือคนอเมริกัน" นี่คือคำที่ ไอลีน กู่ หรือ กู่ อ้ายหลิง ใช้นิยามตัวเอง เมื่อตอนที่ลงแข่งขัน ยูธ โอลิมปิก ฤดูหนาว เมื่อปี 2020 ที่โลซานน์ ซึ่งเธอคว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ให้กับจีน

 

มาถึงวันนี้ ชื่อของ ไอลีน กู่ ถูกบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันโอลิมปิกเรียบร้อยแล้ว หลังจากคว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินในปักกิ่ง 2022 เป็นนักกีฬาฟรีสไตล์สกีคนแรกที่คว้า 3 เหรียญในสมัยเดียวกัน

 

แล้ว ไอลีน กู่ เป็นใครมาจากไหน เหตุใดจึงเป็นนักกีฬาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในโอลิมปิกหนนี้ มาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นได้ที่นี่

 

 

กีฬาผสานวัฒนธรรม

 

แม้จะมีอายุเพียง 18 ปี แต่ ไอลีน กลับยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความสำเร็จด้านกีฬาของเธอ ความเป็นนักกีฬา, ทักษะ, เทคนิค และความกล้าที่จะทำท่า 1620 ในรันสุดท้ายของการคว้าเหรียญทองประเภทบิ๊กแอร์ คือสิ่งที่ต้องยกย่องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอยังคงไม่สามารถส่งสารที่ตัวเองต้องการจะสื่อออกไปได้มากพอ นั่นก็คือ กีฬา สามารถรวมวัฒนธรรมเข้าด้วยกันได้ ไม่ใช่การแบ่งแยก

 

สำหรับไอลีนแล้ว เธอคือลูกครึ่งอเมริกัน-จีน เกิดที่ ซาน ฟรานซิสโก ในสหรัฐฯ แต่เลือกเล่นให้ทีมชาติจีน บ้านเกิดของ กู่ เหยี่ยน คุณแม่ที่อพยพมาอยู่บนแผ่นดินสหรัฐฯเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งเธอเคยเป็นครูสอนสกีที่รีสอร์ทใกล้กับ เลค ทาโฮ และมักจะพาลูกสาวเดินทางไปที่นั่นอยู่เสมอ โดยไอลีนบอกว่าแม่ของเธอสร้างนักสกีอาชีพขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

 

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ กู่ เหยี่ยน รับบทบาทคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยมี เฟิ่ง กั๊วะเจิน คุณยายของไอลีน อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน จึงไม่แปลกอะไรที่ยอดนักสกีวัย 18 ปี จะพูดภาษาจีนแมนดารินได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังเดินทางไปจีนแทบทุกซัมเมอร์

 

"ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นอเมริกันเท่ากับการเป็นชาวจีน ฉันเติบโตมาโดยใช้เวลาราว 25-30 เปอร์เซ็นต์ของทุกปีในจีน นอกจากนั้นฉันยังสามารถมองเห็นสนามแข่งฟรีสไตล์สกีจากบ้านของฉันในปักกิ่งอีกด้วย" ไอลีน ให้สัมภาษณ์หลังจากคว้าเหรียญทองประเภทบิ๊กแอร์ ในปักกิ่ง 2022  

 

 

เด็กสาวผู้มีความสามารถรอบด้าน

 

ไม่ใช่แค่สกีที่เธอเริ่มเล่นมาตั้งแต่ 3 ขวบ ไอลีน ยังเคยเล่นกีฬาอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า, ปีนหน้าผา หรือแม้แต่การวิ่งครอสคันทรี ซึ่งนอกจากความสามารถด้านกีฬาแล้ว เรื่องการศึกษาเธอก็ไม่เป็นสองรองใคร

 

ไอลีนทุ่มเทเต็มที่จนสามารถจบการศึกษาระดับไฮสคูลที่ ซาน ฟรานซิสโก ยูนิเวอร์ซิตี้ ภายใน 2 ปี เพื่อทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมลุยปักกิ่ง 2022 ซึ่งเธอจะเข้าศึกษาต่อที่ ม.สแตนฟอร์ด 1 ใน 5 สถาบันการศึกษายักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ในฤดูใบไม้ร่วง

 

"เวลาที่ฉันไปเล่นสกีช่วงสุดสัปดาห์ ฉันจะใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการเดินทางไป เลค ทาโฮ เพื่อทำการบ้าน ฉันคิดอยู่เสมอว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ฉันโตขึ้นมาโดยมีสองเป้าหมายใหญ่ที่สุดในชีวิต คือการได้เข้าไปเรียนที่สแตนฟอร์ด และการได้ไปแข่งโอลิมปิก"

 

ขณะเดียวกันด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น ไอลีน ยังทำอาชีพเป็นนางแบบ เคยขึ้นปกนิตยสารชั้นนำอย่าง Elle และ Vogue รวมทั้งเคยร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Tiffany, Louis Vuitton, Victoria's Secret และ Red Bull อีกด้วย

 

"ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่เราจะใช้ชีวิตแบบรอบด้าน รวมทั้งการได้ลองทำหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกัน ฉันสนุกกับเรื่องพวกนี้ ฉันเคยไป ปารีส แฟชัน วีก ในปี 2019 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลยทีเดียว หากไม่นับการเล่นสกี"

 

และที่ยิ่งไปกว่าสิ่งที่เรากล่าวมาข้างต้น ไอลีน ยังเป็นนักเปียโนที่เก่งกาจอีกด้วย

 

 

 

ประธานาธิบดีหญิง???

 

สำหรับนักกีฬาแล้ว แรงขับหรือแรงจูงใจที่จะนำตัวเองไปสู่เป้าหมายคือสิ่งสำคัญ ซึ่งไอลีนเปิดเผยว่าเธอได้สิ่งนี้มาจากคุณยายที่จับเธอสอนการคูณหารเลขตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และเป็นคนที่ต้องการให้เธอเก่งที่สุดในชั้นเรียนอยู่เสมอ เลยเถิดไปถึงขั้นอยากเห็นหลานสาวเป็นประธานาธิบดี

 

"คุณยายต้องการให้ฉันเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียนอยู่เสมอหากมีการสอบ แรงบันดาลใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นปลูกฝังแรงผลักดันในการแข่งขัน ยายบอกฉันอยู่เสมอว่าต้องการเห็นฉันเป็นประธานาธิบดี แต่ก็กลัวว่าฉันจะไม่สามารถรับตำแหน่งได้หากบาดเจ็บหัวเข่าจากการเล่นสกี เวลาแข่งฉันจะผลักดันตัวเองให้ทำดีขึ้นกว่าเดิมอยู่เสมอ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วยเช่นกัน"

 

ขณะเดียวกันเรื่องการทำตามความต้องการของคุณยายนั้นก็อยู่ในสิ่งที่เธอสนใจ เช่นเดียวกับอีกหลายเรื่องที่เธอต้องการจะทำนอกเหนือไปจากสกี และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

"ฉันสนใจที่จะมีส่วนร่วมกับการทำงานในรัฐบาล อย่างเช่นการเป็นนักการทูต ซึ่งอาจจะเป็นเพราะฉันมีประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ รวมทั้งพูดได้สองภาษา ดังนั้นคงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับฉันหลังจากการเล่นสกี, เป็นนางแบบ และทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำตอนที่ยังเด็ก ตอนนี้ฉันอายุเพียงแค่ 18 ปี ยังมีเวลาให้คิดอีกเยอะ"

 

 

ส่งต่อแรงบันดาลใจในฐานะนักกีฬาทีมชาติจีน

 

ไอลีน เน้นย้ำอยู่เสมอว่า หนึ่งในแรงจูงใจหลักของเธอคือการนำสองวัฒนธรรมมาใกล้ชิดกันผ่านกีฬาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ในจีนได้ลองเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งเพิ่งจะมีการเผยแพร่ที่นั่นราว 2 ทศวรรษเท่านั้น และนี่คือเหตุผลสำคัญที่เธอเลือกรับใช้แดนมังกร แทนสหรัฐฯสถานที่เกิดและเติบโต

 

"ฉันภูมิใจในสายเลือดของตัวเอง รวมทั้งภูมิใจที่ได้เติบโตขึ้นมาอย่างชาวอเมริกันเท่า ๆ กัน แต่การได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนนับล้านที่บ้านเกิดของคุณแม่ใน ปักกิ่ง 2022 เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ที่ฉันจะได้ช่วยเผยแพร่กีฬาที่รัก ฉันหวังจะใช้การเล่นสกีรวมผู้คนเป็นหนึ่ง ส่งเสริมความเข้าใจร่วมกัน สร้างการสื่อสาร และหล่อหลอมมิตรภาพระหว่างประเทศ ซึ่งหากฉันสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กสาวคนหนึ่งได้ ความปรารถนาของฉันก็เป็นจริงแล้ว" ไอลีน โพสต์ในอินสตาแกรมตอนที่เธอตัดสินใจลงแข่งในนามทีมชาติจีนเมื่อปี 2019

 

มาถึงตอนนี้ เธอก้าวไปได้ไกลกว่าสิ่งที่เธอพูดเอาไว้มากเลยทีเดียว 


stadium

author

ณัฐกร ทองนพเก้า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic