เออร์แวง เอ็นกาเปธ ผู้สร้างทุกตำนานของ ฝรั่งเศส

"ฝรั่งเศส" แชมป์วอลเลย์บอลชาย โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นทีมที่ 5 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก ญี่ปุ่น, โปแลนด์, สหรัฐอเมริกา และ ยูโกสลาเวีย ที่สามารถคว้า "เหรียญทอง" มาครองได้สำเร็จ หลังจากผ่านเข้าสู่ "รอบชิงชนะเลิศ" ได้เป็นครั้งแรก และปราบทีมเต็งอย่าง รัสเซีย ไปแบบสุดมันส์ 3-2 เซต

เออร์แวง เอ็นกาเปธ ดาวตบเชื้อสายแคเมอรูน คือผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดใน "รอบชิงชนะเลิศ" โดยทำแต้มสูงสุด 26 คะแนน ช่วยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกยางเมืองน้ำหอม หลังจากในอดีตที่ผ่านมา ฝรั่งเศส ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ "อันดับ 8" ในการแข่งขันเมื่อปี 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งเมื่อ 5 ปีก่อนที่ "ริโอฯ 2016" พลพรรคนักตบลูกยางหนุ่ม "ฝรั่งเศส" ก็หยุดอยู่เพียงแค่ "รอบแบ่งกลุ่ม" 

นอกเหนือจาก เอ็นกาเปธ จะเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดใน "รอบชิงชนะเลิศ" หลังจบการแข่งขัน เจ้าตัว ยังได้รับเลือกเป็น "ผู้เล่นทรงคุณค่า" และ "หัวเสายอดเยี่ยม" ประจำทัวร์นาเมนต์ โอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยตลอดระยะเวลา 15 วันที่ อาริอากะ อารีน่า เอ็นกาเปธ ทำไปทั้งสิ้น 136 คะแนน เป็นรองเพียงแค่ บรูโน่ ลิม่า ดาวตบชาวอาร์เจนไตน์ ที่ทำได้ 138 คะแนน, รวมทั้งยังเป็นผู้เล่นที่ทำแต้มจากเกมรุกได้มากที่สุดของทัวร์นาเมนต์ 124 คะแนน และมีสถิติรับเสิร์ฟดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทัวร์นาเมนต์(อันดับ 1 ฟาคุนโด้ คอนเต้ จากอาร์เจนตินา)

เอ็นกาเปธ ทำสถิติเป็นผู้เล่นจากยุโรปคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ โอลิมปิกเกมส์ ที่ครองตำแหน่ง "MVP" ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชาย โดยคนแรกคือ บาส ฟาน เดอ กัวร์ สตาร์ดังของเนเธอร์แลนด์ ชุดแชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2016 เจ้าของฉายา "ไมเคิล จอร์แดน" แห่งวงการวอลเลย์บอล ที่เคยครองตำแหน่ง "MVP" ทั้งหมด 2 ครั้ง(1996, 2000)

นี่เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตของ เอ็นกาเปธ ที่สามารถคว้าตำแหน่ง "MVP" ภายใต้ยูนิฟอร์มของ "ฝรั่งเศส" ในการแข่งขันรายการระดับโลก(ไม่รวมชุดเยาวชน) โดยก่อนจะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว เอ็นกาเปธ เคยช่วยทีม "ฝรั่งเศส" คว้าแชมป์ "เวิลด์ ลีก" มาครองได้ทั้งหมด 2 ครั้งในปี 2015 และ 2017 และได้รับเลือกเป็น "MVP" พ่วงด้วย "หัวเสายอดเยี่้ยม" ทั้ง 2 ครั้งเช่นเดียวกัน 

เออร์แวง เอ็นกาเปธ เป็นลูกชายของ เอริค เอ็นกาเปธ(ชาวแคเมอรูน) อดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติฝรั่งเศส ชุดรองแชมป์ยุโรปปี 1987 ที่ประเทศเบลเยียม รวมทั้ง "พ่อของเอ็นกาเปธ" ยังเป็น 1 ในสมาชิกของทีมชุดอันดับ 8 โอลิมปิกเกมส์ 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานดีที่สุดของ "ฝรั่งเศส" ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฯ ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันที่ "โตเกียวเกมส์"

เอ็นกาเปธ ปัจจุบันวัย 30 ปี เริ่มฉายแววในวงลูกยางระดับนานาชาติมาตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่ง โดยช่วยทีมคว้า "แชมป์เยาวชนยุโรป" มาครองได้ถึง 3 สมัย ในช่วงระหว่างปี 2007-2009 และมีโอกาสดวลฝีมือกับดาวดังหลายคนมาตั้งแต่สมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็น จูลิโอ แซ็บบี, คาโรล คลอส, พาเวล ซาตอร์สกี้, ฟาเบียน เดอซิซก้า, เนเว่น มาจสโตโรวิช หรือแม้แต่ คอนสแตนสติน เซเมนอฟ(นักวอลเลย์บอลชายหาด)

ก่อนจะก้าวมาสู่ "ทีมชุดใหญ่" ครั้งแรกในปี 2010 ยุคปลายๆของ ฟิลิปป์ เบลน(โค้ชทีมชาติญี่ปุ่นชุดปัจจุบัน) และพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นตัวหลักในยุคของ โลร็องต์ ติลลี่(เข้ามาคุมทัพ 2012) ความสำเร็จแรกในประวัติศาสตร์ของ "ฝรั่งเศส" คือการคว้าแชมป์ "เวิลด์ ลีก 2015" มันคือการคว้าแชมป์ครั้งแรกในการแข่งขันระดับนานาชาติ หลังจากนั้น "ฝรั่งเศส" ที่มีหัวใจสำคัญอย่าง เอ็นกาเปธ เป็นตัวชูโรงก็เริ่มประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และมีแชมป์ใหญ่ ๆ อีก 2 รายการคือ แชมป์ยุโรปปี 2015 และ แชมป์เวิลด์ ลีกปี 2017 ก่อนจะมาสร้างผลงานกระหึ่มโลกด้วยการคว้าแชมป์ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปี 2021 ตามด้วยแชมป์เนชันส์ลีก 2022 ซึ่งเอ็นกาเปธ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำการแข่งขันด้วยเช่นกัน

ผลงานในระดับสโมสร เอ็นกาเปธ เริ่มเติบโตขึ้นมาจากการลงเล่นใน "ลีกบ้านเกิด" กับสโมสร ตูร์ เมื่อปี 2008 คว้าแชมป์ลีกมาครองได้ 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปเล่นใน "ลีกอิตาลี" กับสโมสร ปิเอมอนเต้ เมื่อปี 2011 และอีก 2 ปีต่อมา(2013) เจ้าตัว ย้ายทีมอีกครั้งไปเล่นใน "ลีกรัสเซีย" กับสโมสร คุซบาสส์ เคเมโรโว่ ที่มีคุณพ่อของเขา "เอริค" เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน แต่ว่าอยู่กับทีมได้เพียงแค่ 1 ฤดูกาลก็ย้ายกลับมาเล่นใน "ลีกอิตาลี" อีกครั้งกับทีมใหม่อย่าง โมเดน่า และช่วยทีมคว้าแชมป์ในประเทศมาครองได้หลายรายการ ก่อนจะย้ายไปเล่นใน "ลีกรัสเซีย" กับบิ๊กเนมอย่าง เซนิต คาซาน เมื่อปี 2018 คว้ารองแชมป์ซีอีวี แชมเปี้ยนส์ ลีก และอันดับ 3 ชิงแชมป์สโมสรโลกในปี 2019 จากนั้นตัดสินใจย้ายกลับมาร่วมทัพ โมเดน่า ในฤดูกาล 2021-2023 ซึ่งช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ซีอีวี คัพ ได้สำเร็จ โดยในระหว่างนั้นได้ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับทีม ปายคาน เตหะราน ที่ประเทศอิหร่าน ในฤดูกาล 2022 คว้าแชมป์สโมสรเอเชียพร้อมควบรางวัลหัวเสายอดเยี่ยม จากนั้น ฤดูกาล 2023-24 เอ็นกาเปธ ย้ายไปอยู่กับทีม ฮัลค์แบงค์ อังการา ในตุรกี ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกพร้อมเตอร์กิช คัพ ได้สำเร็จ

ส่วนมุมนอกสนาม เอ็นกาเปธ ถูกยกให้เป็น “แบดบอย” ของวงการคนหนึ่ง เพราะว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าตัว มีเรื่องมีราวใหญ่โตจนถึงต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ 2-3 ครั้ง รวมทั้ง เอ็นกาเปธ ยังมักที่จะออกมาปะทะคารมกับ “คู่แข่ง” ผ่านทางสื่อต่างๆให้แฟนลูกยางได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความสามารถอันเอกอุกของเขา