stadium

ล็อกถล่ม! ที่อาริอาเกะ เทนนิส ปาร์ค

27 กรกฎาคม 2564

"อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกของกีฬาและการแข่งขัน" นี่สิถึงจะเรียกว่ามหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่นักกีฬามีพลังกันแค่ไหนก็ใส่กันไม่ยั้งดังนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์ล็อกถล่ม! ที่อาริอาเกะเทนนิส ปาร์ค กับสามเต็งจ๋าของการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยวที่ต้องพาเหรดตกรอบ อดลุ้นเหรียญรางวัลในโตเกียว เกมส์ 2020

 

 

แอชลีห์ บาร์ตี้ มือหนึ่งโลกและเต็งหนึ่งร่วงรอบแรก

 

นักเทนนิสออสเตรเลียวัย 25 ปีที่ได้มาแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ครั้งแรกหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเข้ารอบลึกถึงการลุ้นเหรียญรางวัลและฝันไกลถึงเหรียญทองแต่กับการแข่งขันเพียงแค่ประเภทหญิงเดี่ยวรอบแรก นักหวดมือหนึ่งของโลกและเต็งหนึ่งของรายการคิดว่าจะเจองานง่ายที่ต้องหวดกับ ซาร่า ซอร์ริเบส มือ 48 ของโลกจากสเปนวัย 24 ปี ชื่อชั้นและดีกรีของทั้งคู่ต่างกัน บาร์ตี้ได้แชมป์อาชีพ 12 รายการซึ่งรวมถึงแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ขณะที่ ซอร์ริเบส ได้แชมป์แค่รายการเดียว แต่ในการแข่งขันรอบแรกที่ต้องเล่นท่ามกลางแดดจ้า อากาศร้อนระอุเวลาใกล้เที่ยงวัน ทำให้ บาร์ตี้ตีเสียเองถึง 55 ครั้ง แพ้ไป 2 เซตรวด 4-6 และ 3-6 ใช้เวลาการแข่งขัน 1.30 นาที

 

เบื้องหลังความพ่ายแพ้

 

สาเหตุหลักของการพลิกล็อกตกรอบแรกของบาร์ตี้คือความพร้อมของสภาพร่างกาย ก่อนมาแข่งขันโตเกียว เกมส์ 2020 เธอเพิ่งได้แชมป์วิมเบิลดันและพักไม่ถึง 3 สัปดาห์ แน่นอนว่าเธอต้องทำงานหนักเพื่อเรียกความฟิตดังที่เคยให้สัมภาษณ์ก่อนลงแข่งขัน นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีเรื่องของสภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้เธอเล่นผิดฟอร์ม แข่งขันท่ามกลางอุณหภูมิมากกว่า 32 องศาเซลเซียสใกล้เที่ยง รวมกับความฟิตอาจไม่เต็มร้อย เมื่อเจอภาวะเพลียแดดเล่นงานเข้าไปทำให้เธอเป็นฝ่ายตีเสียเองแจกแต้มให้ฝ่ายตรงข้าม จนส่งผลให้เธอไปไม่ถึงฝั่งฝันหยุดแค่เพียงหญิงเดี่ยวรอบแรกในโอลิมปิก เกมส์ 2020 

 

 

นาโอมิ โอซากะ มือสองของโลกตกรอบสาม

 

ภายหลังจากที่แอชลีห์ บาร์ตี้ ตกรอบแรกทุกสายตาจับจ้องที่ฟอร์มการเล่นของ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสมือสองของโลกทีมชาติญี่ปุ่นวัย 23 ปีที่ได้รับเกียรติให้เป็นผู้จุดไฟในพิธีเปิดการแข่งขัน เธอกลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าเหรียญทองประเภทหญิงเดี่ยวทันที หลังจากหวดชนะ เจิ้ง ไซ่ไซ่ ของจีนไปสองเซตรวด 6-1 และ 6-4 ใช้เวลาหวดไม่ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งก่อนลงเล่นแมตช์นี้ตารางการแข่งขันของเธอถูกเลื่อนให้แข่งขันช้าลงเพราะต้องการให้เวลาเธอได้พักผ่อนมากขึ้นหลังจากคืนก่อนหน้าเธอไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันจนดึก

 

จากนั้นในรอบสองเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 4 สมัยที่ต้องเล่นเป็นคู่แรกของวันช่วงใกล้เที่ยงโชว์ฟอร์มดุต้อน วิคตอริย่า โกลูบิช วัย 28 ปีจากสวิตเซอร์แลนด์สองเซตรวด 6-3, 6-2 ทะลุรอบสามสบายๆ  แต่กลับไม่ใช่งานง่ายเมื่อ โอซากะ เป็นฝ่ายพลิกล็อกพ่าย มาร์เกต้า วอนดรูโซว่า นักหวดวัย 22 ปี มือ 42 ของโลก จากเช็กสองเซตรวด 1-6 และ 4-6 ใช้เวลาหวดแค่ 1 ชั่วโมงกับ 8 นาที            

 

 

เบื้องหลังความพ่ายแพ้

 

คำถามคือเกิดอะไรขึ้นกับ โอซากะในรอบสาม? เหตุผลหลักคือสภาพความฟิตและความสม่ำเสมอในการลงเล่น โอซากะ ซึ่งได้พักผ่อนน้อยก่อนแข่งขันดูได้จากวันแรกต้องเลื่อนโปรแกรมเธอให้ช้าลงเพราะคืนก่อนหน้านั้นไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันและเป็นคนจุดไฟในกระถางคบเพลิงพิธีเปิดการแข่งขัน อีกทั้งเธอร้างสนามไปนานราว 2 เดือนหลังจากถอนตัวรายการเฟรนซ์ โอเพ่น และ วิมเบิลดันเพราะมีปัญหาโรคซึมเศร้าและการเผชิญหน้ากับสื่อมวลชน เมื่อร้างสนามหลายเดือนเจอคู่ต่อสู้น้อยโอกาสลับฝีมือน้อย พอเจอความสดของนักหวดรุ่นน้องเธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์และเกมได้ บวกกับความกดดันที่ได้รับจากความหวังของเจ้าภาพ โอซากะเสียเอง 32 ครั้ง ขณะที่วอนดรูโซว่า เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ทำ 18 วินเนอร์ส ตีเสียเองแค่ 10 ครั้งและทำ 11 เบรกพอยต์ในเกมนี้ อย่างไรก็ตามโอซากะ พยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ในเกมการแข่งขันคนที่พร้อมทั้งใจและกายมากที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด คนนั้นจะเป็นฝ่ายชนะไป 

 

 

เอริน่า ซาบาเลนก้า เต็งสามแพ้รอบสอง

 

ก่อนมาแข่งขันที่กรุงโตเกียว เอริน่า ซาบาเลนก้า นักหวดมือ3 ของโลกและเต็งสามของรายการ วัย 23 ปี เจ้าของฉายา "เดอะ วอริเออร์ ปรินเซส"ฝันไกลถึงการคว้าเหรียญรางวัลกับโอลิมปิก เกมส์ครั้งแรกของเธอกับทีมชาติเบลารุส ความฝันของเธอทำท่าจะไปได้สวยเอาชนะ แมกดา ลินเน็ต นักหวดโปแลนด์ สองเซตรวด ในรอบแรก สกอร์ 6-2 และ 6-1 ใช้เวลาหวด 1 ชั่วโมงกับ 9 นาที จากนั้นรอบสองเธอนักหวดรุ่นพี่อย่าง ดอนน่า เวคิช จากโครเอเชีย มือ 49 ของโลก เวคิช ตั้งรับกับเกมรุกที่ดุดันของเอรีน่า ได้อย่างสนุก ทั้งคู่ดวลกัน 3 เซต ก่อนที่เวคิช ที่นิ่งกว่าพลิกกลับมาชนะในเซตสุดท้ายได้ ทำให้ซาบาเลนก้า ซึ่งหัวเสียตลอดเกมการแข่งขัน พ่ายไป 1-2 เซต 4-6 ,6-3 และ 7-6 ไทเบรก3-7 หวดนาน 2 ชั่วโมง 35 นาที 

 

เบื้องหลังความพ่ายแพ้

 

แม้ซาบาเลนก้า อาจเป็นนักเทนนิสที่ใจเกินร้อยไม่เคยกลัวใครแต่เธอยังประสบการณ์น้อยหากต้องเจอการแข่งขันที่ใช้แท็คติกและการควบคุมสติและอารมณ์หากต้องดวลยาวๆ ส่งผลไปถึงฟอร์มการเล่นในแมตช์นี้ อีกทั้ง เวคิช คือนักหวดที่ซาบาเลนก้า แพ้ทาง เจอกันมา 4 ครั้ง ซาบาเลนก้า ชนะแค่ครั้งเดียว

 

เวคิช ที่นิ่งกว่าและเล่นแบบไร้ความกดดันเพราะไม่ใช่ตัวเต็งเธอเซฟถึง 10 จาก 12 เบรกพอยต์ และตีเสียเองน้อยแค่ 14 ครั้ง หากเปรียบเทียบกับ ซาบาเลนก้าที่ตีเสียเอง 34 ครั้ง ดังนั้นสมาธิในเกมคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ ซาบาเลนก้า เร่งเกม ตีเสียเองและในที่สุดต้องพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย


stadium

author

กมลวรรณ บุญมีสง่า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic