ประวัติกีฬาแบดมินตันในโอลิมปิก

แม้ว่าการใช้ไม้แร็กเกตน้ำหนักเบา ตีลูกขนไก่ให้ข้ามตาข่ายไปตกในเขตของฝ่ายตรงข้าม อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆ และคล้ายว่าเป็นกีฬาไม่เปลืองแรง แต่หากใครได้ชมการแข่งขันแบดมินตันสักครั้งแล้ว จะรู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นกีฬาที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ และมีการชิงไหวชิงพริบกันอยู่ตลอดเวลา

1992 สู่ 2024 

แม้จะมีรูปแบบแตกต่างจากกีฬาที่มีการใช้ไม้แร็กเกตประเภทอื่น โดยเฉพาะการใช้ลูกขนไก่ตีแทนลูกบอล ซึ่งหลายคนอาจคิดว่ามันจะเคลื่อนที่ช้ากว่า แต่ด้วยรูปทรงกรวยของลูกขนไก่นั้น ทำให้เวลาถูกตีจะพุ่งออกไปเหมือนกับกระสุน และเร็วมากจนบางคนอาจมองตามไม่ทันด้วยซ้ำ

แบดมินตันถูกจัดการแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการในโอลิมปิกเกมส์ที่บาร์เซโลน่าเมื่อปี ค.ศ. 1992 และในปารีส 2024 ก็ยังมีการแข่งขันด้วยเช่นกัน ทั้ง ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, คู่ชาย, คู่หญิง และคู่ผสม

ในทุกประเภทของการแข่งขัน ใช้การตัดสินจากสองในสามเกมที่ดีที่สุดของแต่ละฝ่าย และในแต่ละเกมผู้ชนะจะต้องได้ 21 คะแนนในเกมนั้นก่อน ยกเว้นเมื่อได้ 20 คะแนนเท่ากัน จะต้องนับต่อให้มีคะแนนห่างกัน 2 คะแนน ฝ่ายใดได้คะแนนนำ 2 คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะ แต่จะไม่เกิน 30 คะแนน หมายความว่าหากการเล่นดำเนินมาจนถึง 29 คะแนนเท่ากัน ฝ่ายใดได้ 30 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะ

บททดสอบของทักษะและการวางกลยุทธ์

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากในการแข่งแบดมินตัน ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องมีทั้งทักษะและไหวพริบที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในการแข่งขันประเภทคู่ ที่ผู้เล่นทั้งสองจะต้องมีการสื่อสารกันอย่างดี เล่นสอดประสานกันได้อย่างลงตัว และเหนือสิ่งอื่นใด คือการอ่านแผนของฝ่ายตรงข้ามให้ขาด และแก้เกมได้ภายในเสี้ยวนาที

ส่วนการแข่งในประเภทเดี่ยวนั้น นับเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการแข่งขันบนพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งให้พื้นที่ในการเล่นได้อย่างเต็มที่ และทำให้นักกีฬาสามารถออกลีลาและลวดลายต่างๆ ได้อย่างอิสระ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีการตอบสนองต่อการโต้ตอบของฝ่ายตรงข้ามที่ไวมากด้วยเช่นกัน

ปารีส 2024 กับโอกาสเหมาเข่งของจีน

แม้หลายกีฬาตัวเต็งจะมาจากโซนตะวันตก แต่ไม่ใช่กับแบดมินตัน ที่ผู้คว้าชัยส่วนใหญ่มักเป็นนักกีฬาจากโซนเอเชีย โดยเฉพาะทีมชาติจีนที่ดูเหมือนจะผูกขาดชัยชนะในกีฬาประเภทนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น และได้เหรียญรางวัลจากกีฬานี้มากเป็นอันดับต้นๆ โดยนับตั้งแต่มีการแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี ค.ศ. 1992 จนถึงปัจจุบัน จีนคว้าไปทั้งหมด 20 เหรียญทองจากทั้งหมด 39 เหรียญทอง และเคยกวาดเหรียญทองทุกประเภทมาแล้วในปี 2012

อย่างไรก็ตาม จีนยังมีคู่แข่งสำคัญๆ ที่สร้างความลำบากในการแข่งขันอยู่บ่อยครั้ง เช่น เกาหลีใต้, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, ไทย, อินเดีย และไชนีสไทเป รวมถึงเดนมาร์ก ที่วิคเตอร์ อเซลเซ่น เพิ่งคว้าเหรียญทองชายเดี่ยวใน โตเกียว 2020 และยังคงอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก