เคอิ นิชิโคริ "ทุ่มเทเกินร้อยเพื่อยืนบนโพเดี้ยมอีกครั้ง"

เคอิ นิชิโคริ อดีตนักหวดมือ 4 ของโลกชาวญี่ปุ่นที่บอกว่าการได้เป็นตัวแทนแข่งขันเพื่อชาติทำให้เขารู้สึกมีแรงกระตุ้นมากกว่าเดิม เพื่อสร้างความสุขและพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศบ้านเกิดเขาเป็นเจ้าภาพและเป็นความท้าทายให้เขาอยากก้าวขึ้นไปอยู่อยู่ในจุดสูงสุดของโพเดียมที่อาริอาเกะ โคลิเซียม

นักเทนนิสขวัญใจชาวเอเชียยุคปัจจุบัน

“ความรักในเทนนิสของผมและความปรารถนาอย่างไม่ลดละที่จะเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นผลักดันผมให้ก้าวต่อไป” เคอิ นิชิโคริ หากย้อนไปในอดีตชื่อของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ ฉายา "ซูเปอร์บอล" คือนักเทนนิสชายชาวเอเชียที่มีอันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยอันดับ 9 ของโลกก่อนที่จะมีชื่อของ เคอิ นิชิโคริ นักเทนนิสชาวญี่ปุ่นที่เคยครองอันดับ 4 ของโลกทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นนักเทนนิสขวัญใจชาวเอเชียและดังระดับโลก

นิชิโคริ วัย 31ปี เริ่มเล่นเทนนิสอาชีพมาตั้งแต่ปี 2007 คว้าแชมป์อาชีพได้ 12 รายการ และเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเทนนิสแกรนด์ สแลมรายการ ยูเอส โอเพ่น  2014 ก่อนจะขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของโลกในเดือนมีนาคมปี 2015 และคว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก เกมส์ 2016 ซึ่งแฟนเทนนิสทั่วโลกได้เห็นว่าประสบการณ์ในการกรำศึกระดับแกรนด์สแลมรอบลึกๆบวกกับการเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ทำให้เคอิ แกร่งขึ้น สามารถรับความกดดันจากสถานการณ์ที่ไม่อาจคิดคิดระหว่างแข่งขันได้ และทำให้เขากลายเป็นนักหวดขวัญใจชาวเอเชียกับการเป็นผู้เล่นที่ไม่เคยละความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองและสู้ไม่ถอย

ผลงานฤดูกาล 2020-2021 

เคอิ  ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บต่อเนื่องระหว่างปี 2017-2019 โดยเขากลับมาคว้าแชมป์แรกในรอบสามปีได้ในรายการบริสเบน อินเตอร์เนชั่นแนล ในปี 2019 อีกทั้งยังผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศสามแกรนด์สแลมแรกของปีอย่าง ออสเตรเลียน โอเพ่น,เฟรนซ์ โอเพ่น และ วิมเบิลดัน  จากนั้นสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ เคอิ ไม่ค่อยได้ลงแข่งขัน  ปี2021 แข่งขัน จนอันดับโลกหล่นมารั้งมือ 57 ของโลก แต่เนื่องจากมีนักหวดในท็อป 56 ของโลกต่างพาเหรดถอนตัวอาทิ ราฟาเอล นาดาล,โดมินิค ธีม,โรแบร์ดต้ เบาติสต้า ทำให้ นิชิโคริ ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโตเกียว โอลิมปิก 

ผลงานโอลิมปิก เกมส์ 

นิชิโคริ ได้ร่วมแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ครั้งแรกในปักกิ่ง เกมส์ ที่จีน  ปี 2008 ซึ่งเขาพ่ายรอบแรกต่อไรเนอร์ ชูตเตอร์ นักเทนนิสเยอรมนี  จากนั้นในลอนดอน เกมส์ 2012 เขาลงแข่งขันทั้งประเภทชายเดี่ยวและคู่ ซึ่งประเภทชายเดี่ยว นิชิโคริ เป็นมือวางอันดับ 15 ผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และกลายเป็นนักเทนนิสญี่ปุ่นคนแรกที่ผ่านเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศต่อจาก ทาเคอิชิ ฮาราดะ ทำได้ในโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปารีส ปี 1924 แต่  นิชิโคริ แพ้ให้กับ ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร จากอาร์เจนติน่า ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ประเภทคู่ พ่ายรอบแรกต่อ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ สแตน วาวรินก้า จากสวิตเซอร์แลนด์

ริโอ เกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล นิชิโคริ ถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับ 4  ในรอบรองชนะเลิศ เขาพ่ายต่อ แอนดี้ มาร์รีย์ เจ้าของเหรียญทองจากสหราชอาณาจักร แต่ในรอบชิงเหรียญทองแดง นักหวดญี่ปุ่นชนะ ราฟาเอล นาดาล จากสเปน ในการเล่น 3 เซต ทำให้นิชิโคริ คว้าเหรียญทองแดงให้กับเทนนิสทีมชาติญี่ปุ่นได้ในรอบ 96 ปี 

โอกาสคว้าเหรียญทอง โตเกียว เกมส์ 2020 

แม้ผลงานของนิชิโคริ อาจไม่โดดเด่นในปี 2021 แต่ด้วยประสบการณ์ในเกมระดับโลก บวกกับมีนักเทนนิสมือดีต่างพาเหรดถอนตัวจากการแข่งขันมากกว่า 20 ราย ประกอบกับการที่ญีปุ่นเป็นเจ้าภาพ เอง ให้ สร้างความฮึกเหิมด้านจิตใจให้กับนิชิโคริมากมาย ดังนั้นโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลโดยเฉพาะการก้าวขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดบนโพเดียมกับตำแหน่งเหรียญทองประเภทชายเดี่ยวถือว่ามีความหวังไม่น้อย   

นักหวดวัย 31 ปี ในโอลิมปิก ได้เห็นนักกีฬาประเภทอื่นแข่งขันแบบใกล้ชิดซึ่งสร้างแรงจูงใจให้กับเขามากมายแม้จะเป็นนักกีฬาต่างประเภทแต่ทุกคนมีความหนึ่งเดียวคือทำเพื่อชาติและสำหรับเขาแล้วการได้แข่งขันเทนนิสในนามทีมชาติทำให้เขารู้สึกกระหายในชัยชนะและพร้อมทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อสร้างความสุขให้กับคนในชาติ เพราะเขาต้องการที่จะนำพาเรื่องที่น่ายินดีให้กับชาวแดนอาทิตย์อุทัยในยามที่สถานการณ์โลกต้องเผชิญโรคระบาด ซึ่งหากนิชิโคริ คว้าเหรียญทองได้เขาจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสเอเชียคนแรกที่คว้าเหรียญทองประเภทชายเดี่ยวในการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ และเป็นนักเทนนิสเอเชีย คนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลเทนนิส โอลิมปิก เกมส์ประเภทชายเดี่ยวสองสมัยติดต่อกัน