stadium

วิเคราะห์ลูกยางหญิงโอลิมปิกไปกับ อานนท์ จายไธสง อดีตหัวเสาทีมชาติไทย

20 กรกฎาคม 2564

การแข่งขันวอลเลย์บอล “โอลิมปิกเกมส์” ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเร็ววันนี้ ทุกทีมประกาศรายชื่อผู้เล่น 12 คนสุดท้ายในแบบที่น่าจะดีที่สุดของประเทศ โดยช่วงหลังๆอย่างในรายการ “เนชั่นส์ลีก 2021” ที่เมืองริมินี่ ประเทศอิตาลี หลายๆทีมใหญ่เลือกที่จะเก็บผู้เล่นตัวเก่งเอาไว้ข้างสนามเพื่อเตรียมพร้อมในการล่าแชมป์ “โอลิมปิกเกมส์” มันถือเป็นโอกาสดีของแต่ละทีมที่จะได้พักอย่างเต็มที่ก่อนทัวร์นาเมนต์สำคัญระดับโลก เพราะการเลื่อนโปรแกรมแข่งขันในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ส่งผลให้หลายๆลีกต้องเล่นกันติดๆด้วยโปรแกรมที่แน่นเอี้ยด วันนี้  อานนท์ จายไธสง อดีตหัวเสาทีมชาติไทย รับเชิญมาตอบบทวิเคราะห์ให้อ่านกัน

 

 

“แชมป์เก่า” จีน ยังคงใช้ตัวผู้เล่นหลักๆจากเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว และพวกเขาก็หมายมั่นปั้นมือเต็มที่ว่าจะมาป้องกันแชมป์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เพราะว่าในสายของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยคู่แข่งระดับ “บิ๊กเนม” ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, อิตาลี หรือ ตุรกี ส่วนอีกไฮไลท์ที่น่าสนใจนอกเหนือจากผลการแข่งขันคือ การเฝ้ารอชมผลงานของดาวตบชื่อดังหลายๆคนที่น่าจะลงเล่นในนามทีมชาติเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งการเลื่อนโปรแกรม “โตเกียวเกมส์” ออกมาอีก 1 ปีนั้น ส่งผลให้นักีฬาบางคนก็รอไม่ไหวและชิงอำลาทีมชาติกันไปบ้างแล้วก่อนหน้านี้ 

 

 

 

ญี่ปุ่น เตรียมทีมดีแต่ยังไม่ง่าย

 

สายเอ “เจ้าภาพ” ญี่ปุ่น ที่อัพเกรดฟอร์มการเล่นมาเป็นอย่างดี เน้นสไตล์รวดเร็วและคล่องตัว ปรับเสริมเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อไปสู้กับ “ทีมบิ๊กเนม” และทำได้ค่อนข้างน่าพอใจใน “VNL” แต่ดูแล้วยังแอบเป็นรองหลายๆทีมในสายเดียวกัน โดยเฉพาะ “รองแชมป์เก่า” เซอร์เบีย และ บราซิล เพราะว่าทั้ง 2 ทีมดูได้เปรียบ ญี่ปุ่น เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่สูงใหญ่หรือความแข็งแรง และการต้องแข่งแบบปิดสนาม(ไม่เปิดให้คนเข้าชม)ยิ่งทำให้ความได้เปรียบของ ญี่ปุ่น แทบไม่เหลือ 

 

ทีมจากฝั่งยุโรปอย่าง เซอร์เบีย ที่มาลงเล่นในฐานะ “รองแชมป์เก่า” ปัจจุบันพวกเขา(ทีมจากยุโรป)ได้นำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาใช้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้จากเดิมที่พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแรงและสูงใหญ่ ล่าสุดยังถูกเติมเต็มด้วยความคล่องตัวและเกมรับที่เหนียวแน่นกว่าเดิม 

 

ขณะที่ บราซิล ก็ยังคงไว้ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน และมักจะใส่เกินร้อยในทุกๆครั้งที่ชนกับ ญี่ปุ่น ดูแล้วถึงจะต้องเดินทางมาเยือนที่ กรุงโตเกียว แต่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดมากเกินไป “สาวแซมบ้า” ก็ยังน่าจะกด “เจ้าภาพ” ได้อีกครั้งคาบ้านแน่นอน โดยล่าสุดพบกันมา 2 ครั้งใน “VNL” ปรากฏว่า บราซิล ชนะได้ทั้งหมดและเสียไปเพียงแค่ 1 เซตเท่านั้น

 

 

 

เกาหลีใต้ ในวันที่พวกเขาไร้ “คู่แฝด”

 

อย่างที่หลายๆคนทราบกันแล้วว่า เกาหลี จะลงแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์” ในสภาพทีมที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก โดยเฉพาะการขาดหายไปของ อี ดายอง และ อี แจยอง สองผู้เล่นฝาแฝดที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งอนาคตไกล รวมทั้งยังเป็นความหวังสำคัญของ เกาหลีใต้ โดยถ้าย้อนกลับไปในเกมชิงตั๋วใบสุดท้ายของโซนเอเชีย ที่พบกับ ทีมชาติไทย พวกเขาก็สามารถเอาชนะ “สาวไทย” ไปได้ด้วยความยอดเยี่ยมของ แจยอง 

 

ทั้งสองคนคือกำลังสำคัญของ เกาหลีใต้ ในยุคใหม่ร่วมกับ “ซูเปอร์สตาร์” คิม ยอนคยอง แต่หลังเจอประเด็นดราม่าจนถูกสั่งแบนไม่มีกำหนด “ตบสาวกิมจิ” ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักทันที ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นในช่วงหลังๆตกไปจากเดิมพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรุกที่ ดายอง และ แจยอง ถือว่าเป็นแกนหลักของทีม นอกจากนี้ “กัปตันคิม” ในช่วงหลังๆก็ดูจะไม่ฟิตสมบูรณ์เหมือนเดิม ทำให้ผลงานที่ออกมาของทั้งทีมและส่วนตัวดร็อปลงไปเยอะ ยิ่งเมื่อเห็นรายชื่อ 12 คนสุดท้ายของ เกาหลีใต้ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นประสบการณ์น้อย โอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของพวกเขาก็ดูจะยากมากขึ้น 

 

 

สายบี : กรุ๊ปออฟเดธ

 

สายบี จัดว่าเป็นกลุ่มแห่งความตายที่เข้มข้นและดุเดือดกว่า สายเอ เพราะว่า 5 ทีมใหญ่ของวงการถูกจับมาอยู่รวมกัน และเมื่อรอบต่อไปคัดเอาแค่ 4 ทีมที่ดีที่สุดในสายเท่านั้น หมายความว่าจะมี 1 ทีมในกลุ่มของ จีน, สหรัฐอเมริกา, อิตาลี, รัสเซีย และ ตุรกี ที่ต้องหยุดอยู่ที่รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งต้องไปลุ้นกันในวันแข่งว่า “ทีมใด” จะทำได้ดีกว่ากันในแต่ละเกม แต่โดยรวมแล้วแล้ว จีน, สหรัฐฯ และ อิตาลี น่าจะเอาตัวรอดผ่านเข้าสู่ รอบก่องรองฯ ได้สำเร็จ 

 

โควต้าสุดท้ายของ สายบี น่าจะต้องมาแย่งกันระหว่าง รัสเซีย และ ตุรกี 2 ทีมคุ้นเคยจากโซนยุโรป โดยใครเป็นฝ่ายเอาชนะได้สำเร็จในการพบกันก็ถือว่าได้เปรียบไม่น้อยทีเดียว ส่วนอีกทีมที่อยู่ร่วมกลุ่มคือ อาร์เจนตินา จัดว่ายังห่างชั้นกับคู่แข่งอีก 5 ทีมพอสมควร ชนิดที่ว่าเก็บได้เกมละ 1 เซตก็น่าพอใจมากแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่น่ามีปาฏิหาริย์ล้มทีม “บิ๊กเนม” ทะลุผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้อย่างแน่นอน   

 

 

จุดแข็งทีมระดับบิ๊กเนม

 

ด้วยสรีระที่สูงใหญ่เป็นข้อได้เปรียบของนักกีฬาอยู่แล้ว วิทยาศาสตร์การกีฬาก็เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกวงการกีฬาขาดไม่ได้ นอกจากข้อได้เปรียบที่จากความสูงใหญ่แล้ว สิ่งที่ช่วยให้ทีมต่างๆสามารถเอาชนะคู่แข่งได้นั่นก็คือ ความเร็ว และ ความคล่องตัว ทุกวันนี้จะสังเกตได้ว่าแต่ละทีมที่ผ่านเข้าแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลก จะเต็มไปด้วยผู้เล่นที่มีความสูงใหญ่และยังเป็นนักกีฬาที่มีความคล่องตัวดีกว่าในอดีต

 

ยกตัวอย่างเช่น จีน เป็นทีมที่เน้นความสูงและความเร็วเป็นหลัก, อเมริกา เป็นทีมที่เน้นความคล่องตัวและมีระบบการเล่นที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของพวกเขาเอง, เซอร์เบีย เป็นทีมที่มีจุดเด่นเรื่องพละกำลังและมีเกมรุกที่เด็ดขาดเฉียบคม รวมไปถึงชาติใหญ่ๆอีกหลายทีมปัจจุบันก็มีรูปร่างและสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน สุดท้ายผลแพ้ชนะก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในสนามว่าใครจะแน่นอนมากกว่าและผิดพลาดน้อยกว่า

 


stadium

author

ภุมเรศ เอี่ยมเชย

StadiumTH Content Creator / เจ้าของเพจ Wantleyball

stadium olympic