stadium

กชกร วรสีหะ ยูโดสาวที่เลือกเล่นกีฬาตามสายเลือดแม่และรับใช้บ้านเกิดพ่อ

13 กรกฎาคม 2564

โอลิมปิกเกมส์ 2020 นอกจากคีริน ตันติเวทย์ ที่เป็นนักกีฬาลูกครึ่งจะเลือกรับใช้ทีมชาติไทยแล้ว เรายังมีอีกหนึ่งลูกที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติไทย นั่นก็คือ “ริซ่า” กชกร วรสีหะ นักกีฬายูโดลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น นั่น 

 

“ริซ่า” กชกร มีพ่อเป็นชาวขอนแก่น เธอเกิดในเมืองไทยแต่ไปโตที่ญี่ปุ่น หักเล่นกีฬายูโดตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ฝีมือของเธอจัดว่าโดดเด่นและอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศญี่ปุ่น แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอตัดสินใจรับใช้ทีมชาติไทยตามสายเลือดของพ่อมาตั้งแต่ปี 2015 ประสบความสำเร็จมากมาย 1 ทอง 1 ทองแดงจากซีเกมส์ 2 สมัย รวมไปถึงความสำเร็จระดับทวีปอย่างเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ 2018 

 

ครั้งหนึ่งเธอเคยให้ส้มภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าเธอภูมิใจมากที่ได้ลงแข่งขันในฐานะคนไทย และคงจะดีไม่น้อยถ้าได้เข้าร่วมโอลิมปิกที่โตเกียว เพราะทั้งประเทศไทยและญี่ปุ่นนั้นคือบ้านของเธอ ซึ่งความฝันของเธอเป็นจริงแล้วกับการจะได้ลงแข่งโอลิมปิกเกมส์ในนามนักกีฬาตามสายเลือดของพ่อบนแผ่นดินเกิดของแม่

 

วันนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษกับเธอแบบข้ามประเทศ ซึ่งเรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไรไปติดตามพร้อมกันได้ที่นี่

 

 

ยินดีด้วยครับสำหรับการผ่านเกณฑ์ไปแข่งโอลิมปิกครั้งแรก คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

กชกร วรสีหะ : ฉันไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าความฝันของฉันจะเป็นจริงได้ ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ

 

มันมีความหมายยังไงบ้างกับอาชีพนักกีฬาของคุณ ?

กชกร วรสีหะ : มันเป็นความฝันของฉันมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันจะเป็นข้อพิสูจณ์อย่างดีว่าฉันได้ทุ่มเทให้ยูโดมากมายขนาดไหน และมันช่วยสร้างความมั่นใจให้ตัวฉันเองด้วย

 

คุณย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งแต่อายุขวบเดียว คุณมีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยบ้างรึเปล่า ?

กชกร วรสีหะ : ความจริงคือไม่มีเลยค่ะ แต่ฉันกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่ไทยเป็นประจำทุก ๆ ปีจนถึงปี 2020 ฉันเลยมีภาพจำที่ดีในเมืองไทย ซึ่งต้องขอบคุณครอบครัวของฉันด้วย

 

 

 

เริ่มเล่นยูโดเมื่อไหร่ครับ ?

กชกร วรสีหะ : ตอนอายุ 6 ขวบค่ะ

 

ทำไมถึงเลือกยูโดครับ แล้วเคยลองเล่นกีฬาอื่นด้วยรึเปล่า ?

กชกร วรสีหะ : เพราะฉันเล่นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์อย่างพวกลูกบอลไม่ได้ค่ะ และคุณพ่อก็เป็นคนแนะนำให้ฉันเล่นกีฬาชนิดนี้ด้วย

 

แล้วครอบครัวให้การสนับสนุนเรื่องยูโดอย่างไรบ้างครับ ?

กชกร วรสีหะ : ครอบครัวสนับสนุนเต็มที่ทุกอย่าง ทุกคนจะคอยเชียร์ตลอดเวลาและทำให้ฉันมีความต้องการที่จะทำเพื่อครอบครัวตลอดเลย

 

 

 

คุณเข้าร่วมกับทีมชาติไทยได้อย่างไรครับ ? 

กชกร วรสีหะ : จุดเริ่มเริ่มเมื่อตอนปี 2015 ตอนนั้นคุณพ่อผลักดันให้ฉันเข้าร่วมแข่งในประเทศไทย ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ถูกเลือกเป็นตัวแทนปะรเทศหลังจากที่ชนะแมทช์ต่างๆมาได้

 

เราดีใจมากที่คุณเลือกที่จะเล่นให้กับประเทศไทย ว่าแต่ทำไมคุณถึงเลือกประเทศไทยหล่ะ ในเมื่อกีฬายูโดก็ไม่ใช่กีฬายอดนิยมในเมืองไทย ?

กชกร วรสีหะ : เพราะฉันเกิดที่เมืองไทยและรักครอบครัวของฉัน ถึงจะไปโตที่ญี่ปุ่นก็ตาม ฉันคิดว่าการได้เป็นตัวแทนประเทศไทยจะทำให้ครอบครัวของฉันมีความสุขโดยเฉพาะคุณพ่อและคุณปู่คุณย่า

 

ในฐานะนักกีฬา มีเหตุการณ์ไหนบ้างที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้ มันทำให้คุณอยากเลิกมั้ย ? แล้วคุณผ่านมันมาได้อย่างไร

กชกร วรสีหะ : มันก็มีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกว่ามันยากเกินไป แต่ก็ไม่เคยคิดเลิกเล่นยูโดเลย เพราะฉันชอบมันมาก

 

 

 

คุณก้าวข้ามผ่านความผิดหวัง หรือช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นได้อย่างไร ?

กชกร วรสีหะ : ปกติแล้วฉันเลือกที่นอนและตื่นมาเริ่มใหม่ ฉันสามารถจัดการกับความคิดตัวเองได้ดีค่ะ ต่อให้ฉันเพิ่งแพ้มา ฉันก็จะนอนให้เต็มอิ่มและตื่นมาเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ก่อนจะกลับไปฝึกซ้อมสำหรับแมทซ์ต่อไป

 

ได้ยินมาว่าคุณกำลังจะจบ ปริญญาเอก ด้านโบราณคดี ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำไมคุณถึงสนใจด้านนี้ ?

กชกร วรสีหะ : ตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันมีความสนใจเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณ อย่างเช่นมัมมี่ของอียิปต์ มันทำให้ฉันตื่นเต้นตลอด ฉันเลยคิดว่าถ้าเริ่มทำงาน ฉันอยากจะเป็นนักวิจัย เพราะอยากทำงานอะไรที่ตื่นเต้นตลอดเวลา

 

 

 

บอกเคล็ดลับเกี่ยวกับการจัดการตัวเองยังไงให้ประสบความสำเร็จทั้งการเรียนและการกีฬาหน่อยได้มั้ยครับ ?

กชกร วรสีหะ : ฉันจะวางแผนอย่างละเอียดเสมอ แล้วฉันก็ทำตามแผนเป๊ะๆ ที่สำคัญ จะต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วย ฉันเป็นคนที่ไม่โกหกตัวเอง ถ้าร่างกายหรือจิตใจของฉันเริ่มบ่นว่าอะไรมันหนักเกินไป ฉันจะพักผ่อนให้เต็มที่ มันสำคัญมาก ฉันคิดว่าที่ฉันทำตามแผนที่วางไว้ได้ก็เพราะการพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอด้วย

 

เป้าหมายในการแข่งโอลิมปิกของคุณคืออะไร

กชกร สีวรหะ : ได้ยืนบนโพเดียมค่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ฉันจะทำให้ดีที่สุด 

 

หลังจากโอลิมปิกแล้ว คุณวางแผนชีวิตไว้อย่างไร ?

กชกร วรสีหะ : อย่างแรก ฉันจะเรียนให้จบ ปริญญาเอก และทำงานเป็นนักวิจัยอย่างที่ฝันไว้ หลังจากได้เงินเดือนเดือนแรก ก็อยากพาครอบครัวที่สนับสนุนเรามาตลอดไปเลี้ยงข้าวค่ะ ส่วนเรื่องยูโด ฉันสำนึกในบุญคุณของสมาคมยูโดแห่งประเทศไทยมาตลอด ฉันเลยหวังว่าจะมีส่วนได้ช่วยโปรโมทยูโดในประเทศไทย และได้ช่วยนักยูโดเยาวชนในไทยให้มีอนาคตที่ดี


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

นักเขียนที่หลงใหลการฟังเรื่องราวของคนอื่น

stadium olympic