8 กรกฎาคม 2564
เมื่อถึงมหกรรมกีฬาใหญ่ ๆ กีฬาว่ายน้ำเป็นหนึ่งชนิดกีฬาที่ถูกจับจ้องมากที่สุด เพราะเป็นกีฬามีจำนวนเหรียญทองให้ชิงชัยมากที่สุด มากกว่านั้น นักกีฬาว่ายน้ำคนหนึ่งก็มีโอกาสที่จะสามารถทำเหรียญรางวัลได้หลาย ๆ เหรียญ ซึ่งจะทำให้นักกีฬาคนนั้นเป็นทั้งจ้าวสระในมหกรรมกีฬานั้น ๆ และเป็นนักกีฬาที่ได้เหรียญทองมากที่สุดในมหกรรมการแข่งขัน เมื่อรวมทุกชนิดกีฬา มีข้อสงสัยอยู่เหมือนกันว่าหลังหมดยุค ไมเคิ่ล เฟลปส์ ฉลามหนุ่มจ้าวสระชื่อก้องโลกแล้ว นักว่ายน้ำคนไหนจะมารับสัมปทานตำแหน่งจ้าวสระนี้ แม้กระทั่งฝั่งเงือกสาว เองก็มีคำถามว่าครั้งนี้ เคธี่ เลเด็คกี้ เจ้าของฉายา “Distance Queen” จะยังคงรักษาตำแหน่งราชินีจ้าวสระโอลิมปิกไว้ได้อีกหนึ่งสมัยหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากทุกท่านแล้ว
เงื่อนไขสำคัญในการเป็นจ้าวสระ
เมื่อมองถึงเงื่อนไขในการคว้าเหรียญทองแล้ว เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นักกีฬาที่จะสามารถเป็นจ้าวสระโอลิมปิกเกมส์ และเก็บเหรียญทองได้แบบเป็นกอบเป็นกำนั้น ต้องเป็นนักว่ายน้ำที่อยู่ในทีมผลัดที่มาจากชาติมหาอำนาจเท่านั้น นั้นก็เพราะจำนวนเหรียญทองจากท่าผลัด นั้นมีให้ชิงชัยถึงฝ่ายละ 4 เหรียญทอง จากท่าผลัดฟรีสไตล์ 4*100 เมตร, ผลัดฟรีสไตล์ 4*200 เมตร, ผลัดผสม 4*100 เมตร และผลัดผสม มิกซ์ ชาย-หญิง 4*100 เมตร นั้นทำให้นักว่ายน้ำจากชาติเล็ก ๆ ที่ฝีมือดี ๆ แทบจะหมดลุ้นจ้าวสระไปโดยปริยาย
ทำให้การลุ้นจ้าวสระเป็นเรื่องของนักว่ายน้ำจากชาติมหาอำนาจทางด้านการว่ายน้ำอย่าง สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร หรือออสเตรเลีย เท่านั้น เพราะชาติเหล่านี้ล้วนมีทีมว่ายผลัดที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถผลิตเหรียญทองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
สถิติย้อนหลัง ย้ำต้องว่ายฟรีสไตล์ดี มีท่าเก่ง และมาจากชาติมหาอำนาจ
สถิติในโอลิมปิกเกมส์ปี 2016 ยืนยันได้ดีว่า จ้าวสระโอลิมปิกเกมส์จะต้องว่ายท่าผลัดได้หลายท่าในชาติมหาอำนาจ ในปีนั้นฝ่ายชายในท่าเดี่ยวนั้น ไรอัน เมอร์ฟี่ เทพกรรเชียงของสหรัฐอเมริกา และไมเคิ่ล เฟลปส์ ทำเหรียญทองท่าเดี่ยวได้เท่ากันที่ 2 เหรียญทอง แต่ไมเคิ่ล เฟลปส์สามารถเก็บเหรียญทองท่าผลัดได้ถึง 3 เหรียญทอง รวมเป็นทั้งหมด 5 เหรียญทอง ส่วนไรอัน เมอร์ฟี่ ถึงจะมาจากชาติมหาอำนาจเหมือนกัน และมีท่าเก่งเป็นกรรเชียง แต่ด้วยความที่ว่ายฟรีสไตล์ได้ไม่ดีเท่า ไมเคิ่ล เฟลปส์ ทำให้เจ้าตัวได้เหรียญทองเพิ่มจากท่าผลัดผสม 4*100 เมตร แค่หนึ่งท่า และทำให้มีเหรียญทองรวมที่ 3 เหรียญทอง
ฝ่ายหญิงยิ่งตอกย้ำความจริงข้อนี้ เพราะโอลิมปิกปี 2016 คาทินก้า ฮอสซู ของฮังการี และเคธี่ เลเด็คกี้ ได้เหรียญทองท่าเดี่ยวเท่ากันที่ 3 เหรียญทอง แต่คาทินก้า ฮอสซู ได้ว่ายท่าผลัดแค่ท่าเดียว และช่วยทีมที่ไม่แกร่งพอไม่ไหวทำให้ไม่ได้ลุ้นเหรียญเพิ่มเลย ต่างกับเคธี่ เลเด็คกี้ ที่ได้ว่ายท่าผลัดถึง 2 ท่า ถึงจะได้เพิ่มเพียงเหรียญทองเดียว แต่นั้นก็ดีพอที่ทำให้เธอได้ครองตำแหน่งจ้าวสระฝ่ายหญิงไปครองแบบที่ คาทินก้า ฮอสซู แทบไม่มีโอกาสสู้เลย
ตัวเต็งจ้าวสระฝ่ายชาย โตเกียวโอลิมปิกเกมส์ 2020
ตั้งต้นที่ชาติที่ส่งทีมผลัดชายครบ 3 ท่า + ผลัดผสม 1 ท่า เป็นทั้งหมด 4 ท่า จะมีดังต่อไปนี้ คือ ออสเตรเลีย, บราซิล, เยอรมัน, สหราชอาณาจักร, ฮังการี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, โปแลนด์, รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อส่องเวลาแล้วชาติที่ลุ้นเหรียญทองจริง ๆ ทุกท่า ในชั่วโมงนี้ก็ต้องมองไปที่ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร หรือรัสเซีย
เมื่อมีเงื่อนไขมาแบบนี้ทำให้ตัวเต็งเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เคเล็บ เดรสเซล ของสหรัฐอเมริกา ที่นอกจากจะเป็นตัวเต็งในท่าเดี่ยวของตัวเองทั้ง 3 ท่าอย่าง ฟรีสไตล์ 50 เมตร, ฟรีสไตล์ 100 เมตร และผีเสื้อ 100 เมตรแล้ว เจ้าตัวยังน่าจะได้ว่ายผลัดในท่าผลัดฟรีสไตล์ 4*100 เมตร, ผลัดผสม 4*100 เมตร, ผลัดผสมมิกซ์ ชาย-หญิง 4*100 เมตร หรือแม้กระทั่งท่าผลัดฟรีสไตล์ 4*200 เมตร ทำให้เขาเป็นตัวเต็งที่อาจคว้าได้ถึง 6-7 เหรียญทอง ถ้าจะมองผู้ท้าชิงจริง ๆ ชั่วโมงนี้มองไม่เห็นเลยจริง ๆ ว่าใครที่จะดีพอที่จะคุกคามตำแหน่งจ้าวสระของ เคเล็บ เดรสเซล แต่ถ้าจะให้เลือกคนที่พอจะน่าสนใจจริงก็อาจเป็นเจ้าหนุ่มคนนี้
คลีเมน โคเลสนิคอฟ เจ้าเด็กยักษ์จากมอสโกที่สูงถึง 196 เซนติเมตร เจ้าตัวถนัดฟรีสไตล์ระยะสั้น 50-100 เมตร เหมือน เคเล็บ เดรสเซล แถมมีท่าถนัดเป็นกรรเชียงแถมมาอีกด้วย เสียดายที่ท่ากรรเชียง 50 เมตรที่เจ้าตัวเป็นเจ้าของสถิติโลกไม่มีแข่งในโอลิมปิกเกมส์ แต่การที่เจ้าตัวลงท่าเดี่ยวถึง 3 ท่า ถึงจะไม่ใช่ตัวเต็งจ๋าทุกท่า แต่ก็มีลุ้นไม่น้อยโดยเฉพาะในท่ากรรเชียง 100เมตร และฟรีสไตล์ 100 เมตร (ทำเวลาดีที่สุดของโลกท่านี้ในปี 2021) บวกกับการที่เจ้าตัวเป็นตัวหลักในทีมผลัดรัสเซียที่อาจลงว่ายถึง 3 ท่าผลัด ทำให้เจ้าตัวเป็นม้ามืดที่อาจแย่งตำแหน่งจ้าวสระจาก เคเล็บ เดรสเซล ก็เป็นได้ แต่ชั่วโมงนี้ถ้าฟันธงกันจริง ๆ ก็ขอเลือกข้าง เคเล็บ เดรสเซล ฉลามหนุ่มอเมริกันเอาไว้ก่อน
ตัวเต็งจ้าวสระฝ่ายหญิง โตเกียวโอลิมปิกเกมส์ 2020
การที่โอลิมปิกเกมส์เพิ่มท่าฟรีสไตล์ 1,500 เมตรเข้ามา ทำให้โอกาสของ เคธี่ เลเด็คกี้ ในการครองจ้าวสระโอลิมปิกเกมส์สดใสขึ้นไปอีกเพราะเป็นระยะที่เธอถนัด ในโอลิมปิกครั้งเธอมีลุ้นเต็ม ๆ ถึง 5 เหรียญทองจากท่าเดี่ยว 4 ท่าคือ ฟรีสไตล์ 200, 400, 800 และ1,500 เมตร บวกกับท่าผลัดฟรีสไตล์ 4*200 เมตรอีกหนึ่งท่า ถึงในท่าฟรีสไตล์ 200 และ400 เมตร จะมี แอเรียน ทิตมัส เงือกสาวของออสเตรเลียที่ร้อนแรงขึ้นมาในปี 2021 แต่นั้นก็ทำให้บัลลังค์ของเธอสั่นคลอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนคนที่อาจมีโอกาสท้าชิงบัลลังค์ของเธอถึงอาจแทบมองไม่เห็น แต่ถ้าควานหาผู้ท้าชิงกันจริง ๆ เราอาจต้องมองไปที่ 2 สาวออสเตรเลียชื่อคล้ายกันอย่าง เอ็มม่า แมคคีออน และเคลี่ย์ แมคคีโอน
ทำไม 2 สาวออสซี่ถึงน่าสนใจ และมีสิทธิ์เป็นผู้ท้าชิง
เริ่มที่ เอ็มม่า แมคคีออน เงือกสาววัย 27 ปี จากรัฐนิวเซาท์เวล ปี 2021 นี้ เธอทำเวลาเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ถึง 2 ท่า ในท่าฟรีสไตล์ 50 เมตร และ100 เมตร นั้นทำให้เธอเป็นเต็งจ๋าในท่าเดี่ยว นอกจากนั้นเธอยังเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมผลัดออสเตรเลีย ซึ่งมีทีมผลัดหญิงที่แกร่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งในปี 2016 ทีริโอเกมส์เธอลงว่ายถึง 3 ท่าผลัด ในปีนี้เธอก็น่าจะลงว่ายอีก 3 หรือ 4 ท่าผลัดเลยทีเดียวทำให้เธอมีโอกาสเก็บได้หลายเหรียญทองแน่นอน
ส่วนเคลี่ย์ แมคคีโอน เงือกสาววัย 19 ปี ที่ในปี 2021 นี้ร้อนแรงเหลือเกินทำเวลาเป็นอันดับ 1 ของโลกถึง 3 ท่า ในท่ากรรเชียง 100 เมตร (เป็นเจ้าของสถิติโลก) กรรเชียง 200 เมตร และท่าเดี่ยวผสม 200 เมตร นั้นทำให้เธอมีโอกาสถึง 3 เหรียญแน่ ๆ บวกกับท่าผลัดที่เธออาจลงว่าย 1-2 รายการ นั้นทำให้เธออาจเป็นม้ามืดที่ปาดหน้าเค้กคว้าตำแหน่งจ้าวสระโอลิมปิกเกมส์ฝ่ายหญิงไปครอง แต่ถึง 2 สาว ออสซี่จะดูดี แต่ให้ฟันธงอีกครั้งก็ขอเลือกประสบการณ์ และความแน่นอนของ เคธี่ เลเด็คกี้ เงือกสาวเลือดมะกันไว้ก่อน
“โอลิมปิกเกมส์” ไม่เคยง่ายถึงจะเป็นตัวเต็งแค่ไหน ความกดดันก็ซัดคุณจนเป๋ได้เหมือนกัน ทำให้ไม่สามารถการันตีเหรียญรางวัลให้ใครได้เลย ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งหนึ่งที่ว่ายน้ำจะได้ลุ้นกันสนุกสุด ๆ นอกจากตำแหน่งจ้าวสระแล้ว ในท่าเดี่ยวต่าง ๆ ยังมี ซุปเปอร์สตาร์ ลงทำการแข่งขันอย่างครบถ้วน และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
TAG ที่เกี่ยวข้อง