ย้อนความสำเร็จวอลเลย์บอลหญิงในโอลิมปิกเกมส์ 14 ครั้ง เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงในมหกรรมกีฬา “โอลิมปิกเกมส์” ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่แฟนกีฬาชาวไทยให้ความสนใจ เพราะว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ทีมลูกยางสาวไทย” สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก้าวขึ้นไปสู้กับ “ทีมระดับโลก” ได้อย่างใกล้เคียง แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว “ตบสาวไทย” ยังไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย “โอลิมปิกเกมส์” ได้เลยสักครั้ง รวมในการแข่งขัน “โตเกียวเกมส์” ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้

โดยในรอบสุดท้าย “โอลิมปิกเกมส์” วอลเลย์บอลในร่ม(หญิง)ถูกจัดให้มีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1964 เช่นเดียวกับวอลเลย์บอลชาย และแน่นอนว่าในครั้งนั้นจัดการแข่งขันที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และนี่คือการกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้งในรอบ 57 ปี และถือเป็นการรับหน้าเสื่อ “เจ้าภาพ” ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งในครั้งนี้จะมี 12 ทีมเข้าร่วมชิงชัย ประกอบด้วย “เจ้าภาพ” ญี่ปุ่น, “แชมป์เก่า” จีน, เซอร์เบีย, สหรัฐอเมริกา, บราซิล, รัสเซีย, อิตาลี, เคนย่า, อาร์เจนตินา, เกาหลีใต้, ตุรกี และ สาธารณรัฐโดมินิกัน

ตบสาวญี่ปุ่น ขาประจำ “โอลิมปิกฯ”

ตลอดการแข่งขันวอลเลย์บอล 14 ครั้งที่ผ่านมาใน “โอลิมปิกเกมส์” นับตั้งแต่ปี 1964 มาจนถึง 2016 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือ ญี่ปุ่น โดยถ้านับรวมกับการแข่งขันในปี 2020 ญี่ปุ่น ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้มากสุด 13 ครั้ง(เจ้าภาพ 2 ครั้ง) พลาดไปเพียงแค่ปี 1980 ที่พวกเขาและอีกหลายประเทศ “บอยคอต์” ไม่เข้าร่วมแข่งขันที่ กรุงมอสโกว์ สหภาพโซเวียต(ขณะนั้น) ทั้งที่จริงๆแล้ว ญี่ปุ่น ได้สิทธิ์ เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายอย่างแน่นอน ในฐานะแชมป์เก่าปี 1976 และอีกครั้งที่พลาดคือปี 2000 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และพวกเขายังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกจากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงมาครองได้สำเร็จ

ขณะที่ เกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย “โอลิมปิกเกมส์” ได้ทั้งหมด 12 ครั้ง โดยเฉพาะในรายของ “สาวกิมจิ” ที่สามารถตีตั๋วทะลุเข้าสู่รอบสุดท้าย “โตเกียวเกมส์” ได้แบบหวุดหวิด หลังจากเอาชนะ ทีมชาติไทย ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ “โอลิมปิกเกมส์” รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนชาติมหาอำนาจอย่าง บราซิล ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทั้งหมด 11 ครั้ง เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1980 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รองลงมาคือ “แชมป์เก่า” จีน ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทั้งหมด 10 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปี 2020

• ทวนความทรงจำโอลิมปิก 14 ครั้ง วอลเลย์บอลชายเกิดอะไรขึ้นบ้าง
• ไขข้อสงสัย เหตุใดวอลเลย์บอลหญิงสหรัฐอเมริกาถึงไม่เคยเป็นแชมป์โอลิมปิก?
• เหตุใด คิวบา มหาอำนาจวอลเลย์บอลยุค 90s ห่างหายจากความสำเร็จในปัจจุบัน
• ตุรกีทำอย่างไรถึงขึ้นไปเป็นแถวหน้าของวงการวอลเลย์บอลหญิง
• ทิยาน่า บอสโกวิช เส้นทางชีวิตแห่งวงการตบลูกยาง
• คิม ยอน คยอง ยอดนักตบจากนอกโลก

จีนหวังเก็บแชมป์ ทำสถิติเทียบเท่าโซเวียต

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงใน “โอลิมปิกฯ 2020” ไฮไลท์สำคัญคือการลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 ของทีมชาติจีน หากว่าพวกเขาสามารถทำได้สำเร็จตามที่หวังไว้ “มังกรสาว” จะกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับเจ้าของสถิติสูงสุดอย่าง สหภาพโซเวียต ที่ปัจจุบันได้แยกประเทศไปแล้ว รวมทั้งถ้าทำได้สำเร็จ จีน จะเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก สหภาพโซเวียต, คิวบา และ บราซิล ที่สามารถครองแชมป์ติดต่อกันได้ 2 สมัย โดยตลอดการแข่งขัน 14 ครั้งที่ผ่านมา คิวบา เป็นเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่เคยคว้า “เหรียญทอง” ติดต่อกันเป็นสถิติสูงสุด 3 สมัย ตั้งแต่ปี 1992-2000

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่แฟนๆทั่วโลกให้ความสนใจเช่นเดียวกัน นั่นก็คือการคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ของ สหรัฐอเมริกา ใครจะไปเชื่อว่าทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของโลกในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาอย่าง “สาวมะกัน” กลับไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ “โอลิมปิกเกมส์” มาครองได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว สวนทางกับทีมชายที่เคยหยิบแชมป์มาแล้วถึง 3 สมัย โดยที่ผ่านมา “สาวมะกัน” ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น และยังเป็นทีมที่อกหักมากที่สุดในรอบชิงชนะเลิศจากผลงาน 3 เหรียญเงิน 

เจ้าภาพผลงานไม่โดดเด่น เคยครองแชมป์แค่ 2 ครั้ง 

ย้อนกลับไปในปี 2016 ที่กรุงริโอฯ บราซิล ในฐานะ “เจ้าภาพ” หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างยิ่งว่าจะคว้า “เหรียญทอง” มาครองเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ เพื่อทำสถิติครองแชมป์สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 เทียบเท่ากับ คิวบา และยังจะเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก คิวบา ที่ครองแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันอีกด้วย แต่สุดท้าย “สาวแซมบ้า” กลับทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ รอบก่อนรองชนะเลิศ เท่านั้น หลังจากพ่ายต่อ ทีมชาติจีน ไปแบบหวุดหวิด 2-3 เซต ทั้งที่คะแนนรวมทั้ง 5 เซต บราซิล ทำได้มากกว่าถึง 6 คะแนน(108-102) นับเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ “โอลิมปิกเกมส์” เมื่อปี 1992 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

โดยในอดีตที่ผ่านมา ญี่ปุ่น และ สหภาพโซเวียต เป็นเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้น ที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จในฐานะ “เจ้าภาพ” เริ่มจากเมื่อปี 1964 ที่กรุงโตเกียว “สาวปลาดิบ” เอาชนะได้ทั้ง สหภาพโซเวียต, โปแลนด์, โรมาเนีย, สหรัฐอเมริกา และ เกาหลีใต้ คว้าแชมป์ไปครองด้วยสถิติชนะรวด 5 นัด ซึ่งครั้งนั้นแข่งขันแบบพบกันหมด และทีมที่ผลงานดีที่สุดจะคว้า “เหรียญทอง” ไปครอง

ขณะที่ สหภาพโซเวียต ครองแชมป์ในบ้านเมื่อปี 1980 ที่กรุงมอสโกว์ แต่ว่าเป็นสถิติที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก เพราะว่าเป็น “โอลิมปิกเกมส์” ที่หลายสิบชาติประกาศ “บอยคอตต์” ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมโดยเฉพาะในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง 3 ทีมบิ๊กเนมอย่าง สหรัฐอเมริกา, จีน และ ญี่ปุ่น ประกาศขอถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ ส่งผลให้ บราซิล, บัลแกเรีย และ ฮังการี รับหน้าที่เป็น “มวยแทน” เดินทางมาเข้าร่วมแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ฯ” ก่อนสุดท้าย “เหรียญทอง” จะตกเป็นของ สหภาพโซเวียต ที่เอาชนะ เยอรมันตะวันออก 3-1 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ