stadium

ย้อนความสำเร็จวอลเลย์บอลหญิงในโอลิมปิกเกมส์ 15 ครั้ง เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

3 มิถุนายน 2567

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงในมหกรรมกีฬา “โอลิมปิกเกมส์” ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่แฟนกีฬาชาวไทยให้ความสนใจ เพราะว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “ทีมลูกยางสาวไทย” สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก้าวขึ้นไปสู้กับ “ทีมระดับโลก” ได้อย่างใกล้เคียง และการได้ไปเล่นใน “โอลิมปิกเกมส์” สักครั้งถือเป็นความฝันของคนทั้งประเทศไปแล้ว

 

โดยในรอบสุดท้าย “โอลิมปิกเกมส์” วอลเลย์บอลในร่ม(หญิง)ถูกจัดให้มีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1964 เช่นเดียวกับวอลเลย์บอลชาย และแน่นอนว่าในครั้งนั้นจัดการแข่งขันที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มาถึงครั้งปัจจุบันคือ "ปารีส 2024" จะเป็นครั้งที่ 16 ของกีฬาชนิดนี้ในโอลิมปิกเกมส์ แล้ว 15 ครั้งที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง ติดตามได้ที่นี่

 

 

ตบสาวญี่ปุ่น ขาประจำ “โอลิมปิกฯ”

 

ตลอดการแข่งขันวอลเลย์บอล 15 ครั้งที่ผ่านมาใน “โอลิมปิกเกมส์” นับตั้งแต่ปี 1964 มาจนถึง 2020 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือ ญี่ปุ่น โดยถ้านับรวมกับการแข่งขันในปี 2024 ญี่ปุ่น (ซึ่งน่าจะไม่พลาดโควตาแน่ ๆ จากกรณีแรงกิ้งโลก) ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้มากสุด 14 ครั้ง(เจ้าภาพ 2 ครั้ง) พลาดไปเพียงแค่ปี 1980 ที่พวกเธอและอีกหลายประเทศ “บอยคอตต์” ไม่เข้าร่วมแข่งขันที่ กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต(ขณะนั้น) ทั้งที่จริงๆแล้ว ญี่ปุ่น ได้สิทธิ์ เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายอย่างแน่นอน ในฐานะแชมป์เก่าปี 1976 และอีกครั้งที่พลาดคือปี 2000 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และพวกเธอยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกจากการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงมาครองได้สำเร็จ

 

ขณะที่ สหรัฐอเมริกา แชมป์เก่าที่เพิ่งคว้าเหรียญทองได้สำเร็จเป็นสมัยแรกใน "โตเกียว 2020" ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย “โอลิมปิกเกมส์” ได้ทั้งหมด 13 ครั้ง ส่วน เกาหลีใต้ ที่เข้ารอบสุดท้ายมาแล้ว 12 ครั้งยังต้องลุ้นโควตาในโค้งสุดท้าย ส่วนชาติมหาอำนาจอย่าง บราซิล ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทั้งหมด 12 ครั้ง เริ่มต้นครั้งแรกในปี 1980 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รองลงมาคือ "จีน" ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ทั้งหมด 10 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปี 2020 และกำลังจะเป็นครั้งที่ 11 ในปี 2024

 

 

จีนหวังเก็บแชมป์ ทำสถิติเทียบเท่าโซเวียต

 

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงใน “โอลิมปิก 2024” ไฮไลท์สำคัญคือการลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 ของทีมชาติจีน หากว่าพวกเธอสามารถทำได้สำเร็จตามที่หวังไว้ “มังกรสาว” จะกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับเจ้าของสถิติสูงสุดอย่าง สหภาพโซเวียต ที่ปัจจุบันได้แยกประเทศไปแล้ว ขณะเดียวกันภารกิจป้องกันแชมป์ของตบสาวมะกัน สหรัฐอเมริกา ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะหากพวกเธอคว้าเหรียญทองได้อีกสมัยก็จะกลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ต่อจาก สหภาพโซเวียต, คิวบา และ บราซิล ที่สามารถครองแชมป์ติดต่อกันได้ 2 สมัย โดยตลอดการแข่งขัน 15 ครั้งที่ผ่านมา คิวบา เป็นเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่เคยคว้า “เหรียญทอง” ติดต่อกันเป็นสถิติสูงสุด 3 สมัย ตั้งแต่ปี 1992-2000

 

ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่แฟนๆทั่วโลกให้ความสนใจเช่นเดียวกัน ในโอลิมปิกเกมส์หนนี้จะมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ หลังจากมีหลายทีมที่ฟอร์มแรงขึ้นมาในช่วงหลัง ไม่ว่าจะเป็น ตุรกี ทีมอันดับ 1 ของโลกปัจจุบัน, โปแลนด์ ทีมอันดับ 3 ของโลก, อิตาลี แชมป์เนชันส์ลีก 2022 ที่ยังไม่เคยได้เหรียญโอลิมปิก รวมทั้งเซอร์เบีย ที่เซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองแดงโตเกียวเกมส์

 

 

เจ้าภาพผลงานไม่โดดเด่น เคยครองแชมป์แค่ 2 ครั้ง 

 

ย้อนกลับไปในปี 2016 ที่นครริโอฯ บราซิล ในฐานะ “เจ้าภาพ” หมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างยิ่งว่าจะคว้า “เหรียญทอง” มาครองเป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ เพื่อทำสถิติครองแชมป์สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 เทียบเท่ากับ คิวบา และยังจะเป็นทีมที่ 2 ต่อจาก คิวบา ที่ครองแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันอีกด้วย แต่สุดท้าย “สาวแซมบ้า” กลับทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ รอบก่อนรองชนะเลิศ เท่านั้น หลังจากพ่ายต่อ ทีมชาติจีน ไปแบบหวุดหวิด 2-3 เซต ทั้งที่คะแนนรวมทั้ง 5 เซต บราซิล ทำได้มากกว่าถึง 6 คะแนน(108-102) นับเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ “โอลิมปิกเกมส์” เมื่อปี 1992 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

 

โดยในอดีตที่ผ่านมา ญี่ปุ่น และ สหภาพโซเวียต เป็นเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้น ที่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จในฐานะ “เจ้าภาพ” เริ่มจากเมื่อปี 1964 ที่กรุงโตเกียว “สาวปลาดิบ” เอาชนะได้ทั้ง สหภาพโซเวียต, โปแลนด์, โรมาเนีย, สหรัฐอเมริกา และ เกาหลีใต้ คว้าแชมป์ไปครองด้วยสถิติชนะรวด 5 นัด ซึ่งครั้งนั้นแข่งขันแบบพบกันหมด และทีมที่ผลงานดีที่สุดจะคว้า “เหรียญทอง” ไปครอง

 

 

ขณะที่ สหภาพโซเวียต ครองแชมป์ในบ้านเมื่อปี 1980 ที่กรุงมอสโก แต่ว่าเป็นสถิติที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก เพราะว่าเป็น “โอลิมปิกเกมส์” ที่หลายสิบชาติประกาศ “บอยคอตต์” ไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมโดยเฉพาะในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง 3 ทีมบิ๊กเนมอย่าง สหรัฐอเมริกา, จีน และ ญี่ปุ่น ประกาศขอถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์ ส่งผลให้ บราซิล, บัลแกเรีย และ ฮังการี รับหน้าที่เป็น “มวยแทน” เดินทางมาเข้าร่วมแข่งขัน “โอลิมปิกเกมส์ฯ” ก่อนสุดท้าย “เหรียญทอง” จะตกเป็นของ สหภาพโซเวียต ที่เอาชนะ เยอรมันตะวันออก 3-1 เซต ในรอบชิงชนะเลิศ

 

ขณะที่โอลิมปิกหนนี้ให้พูดว่าวอลเลย์บอลสาวเจ้าภาพ "ฝรั่งเศส" จะลุ้นไปถึงแชมป์คงเป็นเรื่องยาก เพราะพวกเธอเพิ่งจะได้โอกาสเข้าแข่งเป็นหนแรก ส่วนเรื่องแรงกิ้งโลกก็อยู่ในอันดับ 19 โดยที่ฝีมือเป็นรองหลาย ๆ ทีมที่ไม่ได้ตั๋วไปแข่ง "ปารีส 2024" ด้วยซ้ำ


stadium

author

ภุมเรศ เอี่ยมเชย

StadiumTH Content Creator / เจ้าของเพจ Wantleyball

stadium olympic