stadium

ทวนความทรงจำโอลิมปิก 14 ครั้ง วอลเลย์บอลชายเกิดอะไรขึ้นบ้าง

7 กรกฎาคม 2564

การแข่งขันวอลเลย์บอลในร่ม “โอลิมปิกเกมส์” เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1964 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสมัยนั้นแบ่ง “เจ้าภาพ” ออกเป็น 2 เมืองหลัก คือ โยโกฮาม่า และ โตเกียว ซึ่งเท่ากับว่า “โอลิมปิกเกมส์ 2020” ที่กำลังจะจัดขึ้นในปี 2021(ปลายเดือนกรกฎาคมนี้) จะเป็นเหมือนการกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการแข่งขันวอลเลย์บอลในร่ม โดยตำแหน่ง “แชมป์ทีมชาย” ที่เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ “โอลิมปิกฯ” คือ สหภาพโซเวียต

 

แม้ว่าในทุก ๆ ปี สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ “เอฟไอวีบี” จะเตรียมทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ ไว้รองรับ “ทีมบิ๊กเนม” ของวงการลูกยางโลกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “เนชั่นส์ลีก” ที่แข่งเป็นประจำทุกปี , วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก ที่จัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี และ วอลเลย์บอลเวิลด์คัพ ที่จัดขึ้นทุก ๆ 4 ปีเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วรายการที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของทุก ๆทีมก็ยังเป็น “โอลิมปิกเกมส์” โดยทุก ๆ ทีมจะส่ง “สุดยอดผู้เล่น” ที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขามีจำนวน 12 คน เข้าร่วมแข่งขันทุกครั้ง ต่างจากบางรายการที่อาจเป็น ผู้เล่นดาวรุ่ง หรือ ผู้เล่นชุดผสม

 

 

14 สมัย แชมป์ 8 ทีม 

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “โอลิมปิก” จัดการแข่งขัน “วอลเลย์บอลในร่ม” มาแล้วทั้งหมด 14 ครั้ง มีทีมเคยผ่านเข้าร่วมแข่งขัน “รอบสุดท้าย” มาแล้วทั้งหมด 37 ประเทศ (นับรวม เชโกสโลวาเกีย, สหพันธ์สาธารณรัฐเช็กและสโลวัก, เยอรมันตะวันออก, เยอรมันตะวันตก, ยูโกสลาเวีย, และ สหภาพโซเวียต) โดยขาประจำที่ล่าแชมป์มากที่สุดคือ บราซิล 14 สมัย ซึ่งถ้ารวมกับใน “โตเกียวเกมส์ 2020” ที่กำลังจะเริ่มขึ้น “หนุ่มแซมบ้า” คือทีมเดียวที่ทะลุผ่านเข้าสู่ “รอบสุดท้าย” ได้ครบทุกครั้ง 

 

ส่วนทีมประสบความสำเร็จใน “โอลิมปิกเกมส์” มีทั้งหมด 8 ชาติ ประกอบด้วย บราซิล, สหภาพโซเวียต, สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, ยูโกสลาเวีย และ โปแลนด์ ส่วนทีมที่กวาด “เหรียญทอง” ไปครองได้มากที่สุดคือ บราซิล, สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต ซึ่งทุกทีมต่างเคยคว้า “เหรียญทอง” มาครองแล้ว 3 ครั้ง นอกนั้นทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ทีมละ 1 ครั้งเท่านั้น

 

 

 

บราซิล - สหรัฐฯ ลุ้นเก็บแชมป์สมัยที่ 4 

 

การแข่งขัน “โอลิมปิก” ครั้งล่าสุดที่ ริโอ เดอ จาเนโร เมื่อปี 2016 ประเภททีมชาย “เหรียญทอง” ตกเป็นของ “เจ้าภาพ” บราซิล หลังจากตบสอนเชิง อิตาลี ไปแบบขาดลอย 3 เซตรวด ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ส่งผลให้พวกเขาทำสถิติเป็นแชมป์สมัยที่ 3 มากที่สุดเทียบเท่ากับ สหรัฐฯ และ โซเวียต เท่ากับว่าใน “โตเกียวเกมส์” ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น สหรัฐฯ และ บราซิล มีโอกาสจะสร้างสถิติเป็น “แชมป์” ครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเป็นกลายทีมที่มีสถิติดีที่สุดใน “โอลิมปิกเกมส์” 

 

อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นทีมเดียวเท่านั้นที่ไม่เคยพ่ายในรอบชิงฯ หลังจากผ่านเข้าสู่ รอบชิงฯ ทั้งหมด 3 ครั้ง (1984, 1988, 2008) และเก็บชัยมาครองได้หมดทั้ง 3 ครั้ง ต่างจาก บราซิล และ สหภาพโซเวียต ที่เคยเสียน้ำตากันมาแล้วทั้งนั้น โดยเป็นทาง บราซิล ที่ผ่านเข้าชิงมากที่สุด 6 ครั้ง และผิดหวังในรอบชิงฯมากที่สุด 3 ครั้ง ขณะที่ สหภาพโซเวียต ผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ 5 ครั้ง และอกหักไป 2 ครั้ง 

 

นอกจากนี้ สหรัฐฯ และ โซเวียต ยังเป็นเพียง 2 ทีมเท่านั้น ที่เคยคว้าแชมป์ “โอลิมปิกฯ” มาครองได้ 2 สมัยติดต่อกัน ส่วนทาง บราซิล เป็นเจ้าของสถิติผ่านเข้าสู่รอบชิงฯติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตลอด 4 ครั้งหลังสุด “หนุ่มแซมบ้า” ทะลุเข้าสู่ รอบชิงฯ ได้ทุกครั้ง(2004-2016) 

 

 

 

“เจ้าภาพ” ไม่การันตรี “แชมป์” 

 

หากมองย้อนกลับไปดูสถิติที่ผ่านๆมา บราซิล, สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา เป็นเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้น ที่เคยประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่และคว้า “เหรียญทอง” ต่อหน้าแฟนๆในบ้านได้สำเร็จ โดยเริ่มจาก โซเวียต ที่เคยทำได้ที กรุงมอสโคว์ ในปี 1980 ตามด้วย สหรัฐฯ ที่ทำได้เมื่อปี 1984 ในกรุงลอสแอนเจลิส และปิดท้ายด้วย บราซิล ที่คว้าแชมป์ครั้งล่าสุดปี 2016 ต่อหน้าแฟนที่ กรุงริโอฯ 

 

รวมทั้งตลอดการแข่งขันวอลเลย์บอลใน “โอลิมปิกฯ” ทั้งหมด 14 ครั้งที่ผ่านมา “เจ้าภาพ” ก็สามารถหลุดเข้าสู่ รอบชิงฯ ได้เพียงแค่ 4 ครั้งเท่านั้น โดยนอกจาก 3 ทีมที่คว้าแชมป์มาครองได้ อีกทีมที่เหลือคือ เยอรมันตะวันออก ที่แพ้ต่อ ญี่ปุ่น กลางกรุงมิวนิค 1-3 เซต เมื่อปี 1972  

 

 

ญี่ปุ่น ความหวังสูงสุดของเอเชีย

 

ในการแข่งขัน “โตเกียวเกมส์” ที่จะเริ่มขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ “หนุ่มปลาดิบ” ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าจะกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังจากที่ ญี่ปุ่น เคยไปไกลถึง “รอบชิงชนะเลิศ” มาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 1 ครั้งเมื่อปี 1972 ซึ่งนั่นคือครั้งสุดท้ายของพวกเขาที่มีโอกาสขึ้นไปยืนอย่างสง่างามบนโพเดียม

 

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่น ก็ยังคงเป็นชาติเดียวในเอเชีย ที่ตีตั๋วผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ และถ้ามองไปที่ผลงานของทีมจากเอเชียรายอื่นๆแล้ว ตลอดการแข่งขัน 14 ครั้งที่ผ่านมา ทีมจากเอเชีย(ยกเว้นญี่ปุ่น) ยังไม่เคยมีใครผ่านเข้าสู่ รอบรองชนะเลิศ ได้เลยสักครั้ง ผลงานดีที่สุดคือ จีน, เกาหลีใต้ และ อิหร่าน ที่จบเป็น อันดับ 5 ของทัวร์นาเมนต์ หรือพูดง่ายๆคือไปไกลที่สุดแค่ รอบก่อนรองชนะเลิศ(8 ทีมสุดท้าย) เพียงเท่านั้น


stadium

author

ภุมเรศ เอี่ยมเชย

StadiumTH Content Creator / เจ้าของเพจ Wantleyball

La Vie en Rose
stadium olympic