stadium

อาร์ม็องด์ ดูพลานติส เจ้าเวหาจอมทุบสถิติโลก

15 มิถุนายน 2564

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักกีฬาเข้ามาพลิกโฉมหน้าทำให้กีฬาที่ตัวเองลงเล่น ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เหมือนอย่างเช่น ไมเคิล จอร์แดน ทำกับ บาสเกตบอล, ไทเกอร์ วู้ดส์ ทำกับกีฬากอล์ฟ หรือ ยูเซน โบลต์ ทำกับกรีฑาระยะสั้น

 

แต่ล่าสุด อาร์ม็องด์ หรือ มอนโด้ ดูพลานติส กำลังทำอย่างเดียวกันนั้นกีฬากระโดดค้ำ เพราะนับตั้งแต่จอมเหินหาวชาวสวีเดนผู้เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯ ก้าวเข้าสู่กีฬาชนิดนี้ เขาก็ไล่ทุบทำลายสถิติโลกในทุกช่วงอายุ จนเป็นผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดในปัจจุบัน พร้อมกับทำให้กีฬากระโดดค้ำน่าติดตามกว่าที่เคย

 

นอกจากนั้น ด้วยส่วนผสมระหว่างเรื่องราวชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์, บุคลิกที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งทำให้เขาได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งด้วยการที่ โอลิมปิก เกมส์ โตเกียว 2020 กำลังจะอุบัติขึ้น เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับตัวเต็งเหรียญทองที่หลายคนวางให้เขาเป็นแม่เหล็กคนต่อไปของวงการกรีฑา

 

 

จุดเริ่มจากสวนหลังบ้าน และทางแยกที่เกือบไม่ไปต่อ

 

ดูพลานติส เริ่มต้นรู้จักกีฬากระโดดค้ำตั้งแต่อายุเพียงแค่ 3 ขวบ จากสวนหลังบ้านที่ เกร็ก พ่อของเขาทำเอาไว้ให้ลูก ๆ ได้เล่น เนื่องจากตัวเองเป็นอดีตนักกีฬากระโดดค้ำระดับสถิติ 5.80 เมตร ขณะที่ เฮเลน่า แม่ของเขาก็เป็นอดีตนักกีฬาประเภทสัตตกรีฑาและวอลเลย์บอลระดับมหาวิทยาลัยของ หลุยส์เซียน่า สเตต ซึ่งทำสถิติกระโดดไกลได้ 6.01 เมตร และกระโดดสูงได้ 1.5 เมตร พูดง่าย ๆ คือทุกอย่างเริ่มต้นมาจากสายเลือด ซึ่งพี่น้องของดูพลานติสทุกคนล้วนเป็นนักกีฬาทั้งหมด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังทำหน้าที่โค้ชและดูแลเรื่องโภชนาการให้กับเขาอีกด้วย  

 

อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะไปได้สวยกับการเล่นกีฬาชนิดเดียวกับพ่อ โดยทำลายสถิติโลกรุ่นอายุ 7 ขวบ รวมทั้งทำลายสถิติโลกรุ่นอายุ 11 และ 12 ปี ได้ตั้งแต่อายุ 10 ปี แต่ดูพลานติสก็ไม่ได้เล่นแค่กระโดดค้ำอย่างเดียว เขายังเล่นฟุตบอลและเบสบอลอีกด้วย ซึ่งเกือบทำให้เจ้าตัวไม่ได้เดินตามเส้นทางอย่างทุกวันนี้ เพราะในช่วงหน้าร้อนหนึ่งตอนอายุ 12 ปี ดูพลานติสได้ทิ้งไม้ค้ำหันไปจับไม้เบสบอลอย่างจริงจัง แต่โชคดีที่เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเขาเลือกกรีฑา

 

นับจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาดึงสมาธิเขาได้อีกต่อไป เพียง 3 เดือนหลังออกจากมหาวิทยาลัย ดูพลานติสในวัย 18 ปี ก็กลายเป็นแชมป์ยุโรป หลังทำสถิติดีที่สุดของตัวเอง 6.05 เมตรจากการแข่งที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังเป็นสถิติสูงสุดของสวีเดนและสหรัฐฯ รวมทั้งยังทำให้เขาขึ้นไปครองตำแหน่งอันดับ 2 ตลอดกาลเป็นรองเพียง เซอร์เก บุบก้า ตำนานชาวยูเครน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกปี 1988

 

 

เจ้าของสถิติโลกผู้ไม่กินผัก

 

เรื่องโภชนาการคือสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาระดับโลก และผักคือหนึ่งในสิ่งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงรวมทั้งเหมาะกับนักกีฬาที่ต้องควบคุมอาหาร อย่างไรก็ตาม ดูพลานติส เกลียดผักเข้าไส้ เขาถึงกับยอมรับว่าตัวเองทานแต่ลูกอมก่อนทำสถิติ 5.90 เมตร ในการแข่งรายการ Texas Relays ด้วยซ้ำ

 

เรื่องนี้แม้แต่ เฮเลน่า แม่ของเขาที่เป็นนักโภชนาการด้วยยังต้องยอมแพ้ โดยเธอเปิดเผยว่า "มอนโด้ไม่เคยชอบกินผัก เขามักจะเขี่ยพวกมันไปข้างๆ จานอยู่เสมอ ซึ่งเราจะมีผักหนึ่งอย่างต่อมื้อ" อย่างไรก็ตาม ดูพลานติส ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงนิสัยการกินของตัวเองเมื่อเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ

 

บางทีการหันมาควบคุมอาหารในช่วงต้นปี 2020 อาจเป็นสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้ผลงานของเขาพัฒนาขึ้นอย่างพรวดพราด เพราะ ดูพลานติส ทำลายสถิติโลก 2 หนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกระโดดได้ 6.18 เมตรในการแข่งที่กลาสโกว์ ซึ่งเป็นเวลาให้หลังเพียง 1 สัปดาห์ต่อจากที่เขาทำลายสถิติโลกของ เรอนัวด์ ลาวิลเลนี่ ด้วยสถิติ 6.17 เมตร และทั้งหมดนี้ ดูพลานติส ทำได้ในวัย 20 ปีเท่านั้น  

 

เมื่อเอามาเทียบกันแล้ว ยูเซน โบลต์ ก็ทำลายสถิติโลกครั้งแรกได้ตอนอายุ 21 ปี ซึ่งดูพลานติสมีอายุเท่ากันเมื่อลงแข่ง โอลิมปิก เกมส์ ในปีนี้ และจากการที่นักกีฬากระโดดค้ำมักจะขึ้นไปสู่จุดพีกของตัวเองในช่วงอายุ 20 กลาง ๆ ถึง 20 ปลาย ๆ แล้ว ดูพลานติส อาจครองบัลลังก์ได้เกินทศวรรษเลยทีเดียว

 

 

คุณทำได้ ผมทำได้ แต่เป้าหมายคือทำให้เหนือกว่า

 

แซม เคนดริกส์ แชมป์โลกกระโดดค้ำปี 2017 เปิดเผยว่า ดูพลานติส มีความสามารถที่น่าทึ่งคือสามารถลอกเลียนแบบทักษะของคู่แข่งได้ทั้งหมด

 

"เขาสามารถใช้เทคนิคของผมได้ หากผมขอให้เขาทำ เขาสามารถใช้เทคนิคของ เรอนัวด์ ลาวิลเลนี่ (เหรียญทองโอลิมปิก 2012) หรือคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด แต่ในการแข่งขันเขาจะทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำ ไม่ได้เลียนแบบจากคนอื่น ๆ"

 

จากความสำเร็จที่ว่ามา เราคงหวังได้ว่าวันหนึ่ง ดูพลานติส จะก้าวขึ้นไปทาบชั้นตำนานอย่าง เซอร์เก บุบก้า หลังจากเพิ่งทำลายสถิติกลางแจ้งที่ยืนยงมานานถึง 26 ปีของเจ้าตัว ในการแข่งไดมอนด์ลีกที่กรุงโรม ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว และ โอลิมปิก เกมส์ ปีนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ของนักกระโดดค้ำที่เข้าใกล้ท้องฟ้ามากที่สุดในโลก

 

"บุบก้ายังคงได้รับการยกย่องให้เป็นนักกระโดดค้ำที่ยิ่งที่สุดตลอดกาล ซึ่งผมอยากจะเป็นเช่นนั้น และผมอยากประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเขารวมทั้งทำให้ดีกว่า ผมอยากกระโดดให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ และลงแข่งให้มากขึ้นเรื่อย ๆ  ผมอยากทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แม้มันจะเป็นหนทางที่ยาวไกล แต่ผมก็เริ่มต้นได้ดีแล้ว" ดูพลานติส เจ้าของรางวัลนักกรีฑายอดเยี่ยมของสหพันธ์กรีฑานานาชาติปี 2020 กล่าวถึงเป้าหมายในอาชีพของตัวเอง


stadium

author

ณัฐกร ทองนพเก้า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic