stadium

อาร์มันด์ ดูพลานติส เจ้าเวหาจอมทุบสถิติโลก

10 กรกฎาคม 2567

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักกีฬาเข้ามาพลิกโฉมหน้าทำให้กีฬาที่ตัวเองลงเล่น ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เหมือนอย่างเช่น ไมเคิล จอร์แดน ทำกับ บาสเกตบอล, ไทเกอร์ วู้ดส์ ทำกับกีฬากอล์ฟ หรือ ยูเซน โบลต์ ทำกับกรีฑาระยะสั้น

 

แต่ล่าสุด อาร์มันด์ หรือ มอนโด้ ดูพลานติส กำลังทำอย่างเดียวกันนั้นกีฬากระโดดค้ำ เพราะนับตั้งแต่จอมเหินหาวชาวสวีเดนผู้เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯ ก้าวเข้าสู่กีฬาชนิดนี้ เขาก็ไล่ทุบทำลายสถิติโลกในทุกช่วงอายุ จนเป็นผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดในปัจจุบัน พร้อมกับทำให้กีฬากระโดดค้ำน่าติดตามกว่าที่เคย

 

นอกจากนั้น ด้วยส่วนผสมระหว่างเรื่องราวชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์, บุคลิกที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยพรสวรรค์อันโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งทำให้เขาได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งด้วยการที่ โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 กำลังจะอุบัติขึ้น เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเจ้าของเหรียญทองจากโตเกียวเกมส์ เต็งจ๋าของปีนี้ และนักกีฬาที่เป็นแม่เหล็กของวงการกรีฑาคนปัจจุบัน

 

 

จุดเริ่มจากสวนหลังบ้าน และทางแยกที่เกือบไม่ไปต่อ

 

ดูพลานติส เริ่มต้นรู้จักกีฬากระโดดค้ำตั้งแต่อายุเพียงแค่ 3 ขวบ จากสวนหลังบ้านที่ เกร็ก พ่อของเขาทำเอาไว้ให้ลูก ๆ ได้เล่น เนื่องจากตัวเองเป็นอดีตนักกีฬากระโดดค้ำระดับสถิติ 5.80 เมตร ขณะที่ เฮเลน่า แม่ของเขาก็เป็นอดีตนักกีฬาประเภทสัตตกรีฑาและวอลเลย์บอลระดับมหาวิทยาลัยของ หลุยส์เซียน่า สเตต ซึ่งทำสถิติกระโดดไกลได้ 6.01 เมตร และกระโดดสูงได้ 1.5 เมตร พูดง่าย ๆ คือทุกอย่างเริ่มต้นมาจากสายเลือด ซึ่งพี่น้องของดูพลานติสทุกคนล้วนเป็นนักกีฬาทั้งหมด นอกจากนั้นทั้งคู่ยังทำหน้าที่โค้ชและดูแลเรื่องโภชนาการให้กับเขาอีกด้วย  

 

อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะไปได้สวยกับการเล่นกีฬาชนิดเดียวกับพ่อ โดยทำลายสถิติโลกรุ่นอายุ 7 ขวบ รวมทั้งทำลายสถิติโลกรุ่นอายุ 11 และ 12 ปี ได้ตั้งแต่อายุ 10 ปี แต่ดูพลานติสก็ไม่ได้เล่นแค่กระโดดค้ำอย่างเดียว เขายังเล่นฟุตบอลและเบสบอลอีกด้วย ซึ่งเกือบทำให้เจ้าตัวไม่ได้เดินตามเส้นทางอย่างทุกวันนี้ เพราะในช่วงหน้าร้อนหนึ่งตอนอายุ 12 ปี ดูพลานติสได้ทิ้งไม้ค้ำหันไปจับไม้เบสบอลอย่างจริงจัง แต่โชคดีที่เมื่อถึงจุดที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเขาเลือกกรีฑา

 

นับจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาดึงสมาธิเขาได้อีกต่อไป เพียง 3 เดือนหลังออกจากมหาวิทยาลัย ดูพลานติสในวัย 18 ปี ก็กลายเป็นแชมป์ยุโรป หลังทำสถิติดีที่สุดของตัวเอง 6.05 เมตรจากการแข่งที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังเป็นสถิติสูงสุดของสวีเดนและสหรัฐฯ รวมทั้งยังทำให้เขาขึ้นไปครองตำแหน่งอันดับ 2 ตลอดกาลเป็นรองเพียง เซอร์เก บุบก้า ตำนานชาวยูเครน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกปี 1988

 

 

เจ้าของสถิติโลกผู้ไม่กินผัก

 

เรื่องโภชนาการคือสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬาระดับโลก และผักคือหนึ่งในสิ่งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงรวมทั้งเหมาะกับนักกีฬาที่ต้องควบคุมอาหาร อย่างไรก็ตาม ดูพลานติส เกลียดผักเข้าไส้ เขาถึงกับยอมรับว่าตัวเองทานแต่ลูกอมก่อนทำสถิติ 5.90 เมตร ในการแข่งรายการ Texas Relays ด้วยซ้ำ

 

เรื่องนี้แม้แต่ เฮเลน่า แม่ของเขาที่เป็นนักโภชนาการด้วยยังต้องยอมแพ้ โดยเธอเปิดเผยว่า "มอนโด้ไม่เคยชอบกินผัก เขามักจะเขี่ยพวกมันไปข้างๆ จานอยู่เสมอ ซึ่งเราจะมีผักหนึ่งอย่างต่อมื้อ" อย่างไรก็ตาม ดูพลานติส ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงนิสัยการกินของตัวเองเมื่อเข้าสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ

 

บางทีการหันมาควบคุมอาหารในช่วงต้นปี 2020 อาจเป็นสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้ผลงานของเขาพัฒนาขึ้นอย่างพรวดพราด เพราะ ดูพลานติส ทำลายสถิติโลกกรีฑาในร่ม 2 หนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกระโดดได้ 6.18 เมตรในการแข่งที่กลาสโกว์ ซึ่งเป็นเวลาให้หลังเพียง 1 สัปดาห์ต่อจากที่เขาทำลายสถิติโลกของ เรอนัวด์ ลาวิลเลนี่ ด้วยสถิติ 6.17 เมตร และทั้งหมดนี้ ดูพลานติส ทำได้ในวัย 20 ปีเท่านั้น  

 

เหรียญทองโอลิมปิกประกาศศักดาเจ้าเวหา

 

ดูพลานติสเข้าแข่งขันโอลิมปิกหนแรกในชีวิต โดยถูกยกให้เป็นตัวเต็งเนื่องจากถือครองสถิติโลกมาจากกรีฑาในร่ม และเพียงแค่การกระโดดครั้งแรกเขาก็การันตีเหรียญทองไว้ในมือทันทีจากสถิติ 6.02 ม. อย่างไรก็ตาม แม้จะน่าเสียดายที่ในการเรียกความสูงครั้งต่อมาเขาทำลายสถิติโลกไม่สำเร็จ แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกให้โลกรู้ว่า ต่อไปนี้อนาคตของกีฬากระโดดค้ำจะอยู่ในมือของ อาร์มันด์ ดูพลานติส นี่เอง 

 

ผู้ที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีคือ คริส นิลเซ่น เจ้าของเหรียญเงินโตเกียว 2020 ที่ได้เห็นความสามารถของดูพลานติสกับสองตาของตัวเองมาหลายหน โดยเจ้าตัวเปรียบเปรยว่าการแข่งกับดูพลานติสนั้น ไม่ต่างจากนักฟุตบอลธรรมดาทั่วไปที่พยายามแข่งกับ ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้เลยก็ว่าได้ และความสามารถของเจ้าตัวนั้นทั้งน่าทึ่งและน่าประทับใจไปพร้อม ๆ กัน

 

 

ข้ามผ่าน เซอร์เก บุบก้า ราชากระโดดค้ำ

 

เหรียญทองโอลิมปิกยิ่งเหมือนพลังขับเคลื่อนให้ดูพลานติสยกระดับตัวเองขึ้นไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาควบแชมป์โลกทั้งในร่มและกลางแจ้งในปีต่อมา ซึ่งเป็นสมัยแรกของตัวเองทั้งสองรายการ นอกจากนั้นในศึกชิงแชมป์โลกที่ยูจีน ดูพลานติส ยังทำลายสถิติโลกกลางแจ้งขึ้นมาใหม่ด้วยความสูง 6.21 ม. หลังจากที่บุบก้าครองสถิตินี้มายาวนานเกือบ 30 ปี ซึ่งตำนานชาวยูเครนรายนี้คือหนึ่งในคนที่ดูพลานติสยกให้เป็นต้นแบบของเขานั่นเอง

 

"บุบก้ายังคงได้รับการยกย่องให้เป็นนักกระโดดค้ำที่ยิ่งที่สุดตลอดกาล ซึ่งผมอยากจะเป็นเช่นนั้น และผมอยากประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับเขารวมทั้งทำให้ดีกว่า ผมอยากกระโดดให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ และลงแข่งให้มากขึ้นเรื่อย ๆ  ผมอยากทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แม้มันจะเป็นหนทางที่ยาวไกล แต่ผมก็เริ่มต้นได้ดีแล้ว" ดูพลานติส เจ้าของรางวัลนักกรีฑายอดเยี่ยมของกรีฑาโลก 3 สมัย กล่าวถึงเป้าหมายในอาชีพของตัวเอง

 

 

ผู้ไร้เทียมทานสู่ปารีส 2024

 

ปี 2023 ดูพลานติส ยังไม่มีแผ่วหลังป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จในการแข่งที่กรุงบูดาเปสต์ รวมทั้งทำลายถิติโลกได้อีก 2 หนในปีนั้น ซึ่งในปีนี้ยิ่งเพิ่มดีกรีความแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยฟอร์มไร้พ่าย นักกระโดดค้ำชาวสวีเดนป้องกันแชมป์โลกอินดอร์ได้อีกสมัย ก่อนจะทำลายสถิติโลกได้อีกหนในการแข่งไดมอนด์ลีกที่เซียะเหมินประเทศจีนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยสถิติ 6.24 ม. ตามด้วยแชมป์ยุโรปที่กรุงโรม

 

ส่วนรายการล่าสุดที่กรุงปารีส ดูพลานติสพยายามทำลายสถิติโลกของตัวเองอีกครั้ง โดยเรียกความสูงที่ 6.25 ม. แต่กระโดดไม่ผ่าน แต่ตามเขายังคงคว้าแชมป์ไปครองด้วยสถิติ 6.00 ม.

 

จากผลงานที่ผ่านมาในปีนี้ เชื่อได้เลยว่าในศึกโอลิมปิกที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ยอดนักกระโดดค้ำแห่งยุครายนี้จะขอลองทำลายสถิติโลกของตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่ง ณตอนนี้เรื่องทำลายสถิติของดูพลานติสน่าสนใจกว่าการลุ้นว่าเขาจะได้เหรียญทองหรือไม่ไปเสียแล้ว

 

 

ความสำเร็จทั้งหมดจนถึงวันนี้ คงไม่ใช่เรื่องเคอะเขินที่เราจะพูดว่า ดูพลานติส กำลังทาบชั้นตำนานอย่าง เซอร์เก บุบก้า และมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าหากเจ้าตัวป้องกันแชมป์โอลิมปิกได้สำเร็จ


stadium

author

ณัฐกร ทองนพเก้า

StadiumTH Content Creator

stadium olympic