2 พฤษภาคม 2567
"เขาเห็นว่าผมรูปร่างใหญ่เกินไป หาคู่ชกยากสำหรับมวยไทย แต่หมัดผมหนัก และแม่นยำ จึงแนะนำให้ผมเปลี่ยนมาชกมวยสากล นั่นคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม"
อาคม เฉ่งไล่ สุดยอดนักมวยที่สร้างชื่อคว้าเหรียญทองแดงในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 1992 ที่ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และยังเป็นนักมวยอีกคนที่ไต่เต้ามาจากการชกมวยไทย จุดเริ่มต้นของ อาคม ในการเข้าสู่วงการหมัดมวยนั้น คงต้องบอกว่ามันอยู่ในสายเลือดที่ไหลพล่านอยู่ในร่าง เพราะ "พ่อแวก" บิดาของ อาคม เฉ่งไล่ เป็นนักมวยเก่ามาก่อน แม้แรกเริ่มเดิมที่เด็กหนุ่มวัยกลัดมัน จะชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจก็ตาม
แต่แล้ววันหนึ่ง ลูกไม้ยังไงย่อมไม่ไกลต้น วันนั้นเป็นวันที่ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เกมลูกหนังที่เคยไล่เตะอยู่ทุกวันนั้นต้องหยุดพัก ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำจึงตามไปดูพี่ชายที่กำลังซ้อมมวย เด็กน้อยเห็นพี่ชายทำท่าทางก็เริ่มอยากจะทำตามจึงหัดชก หัดเตะอย่างที่พี่ชายทำ จนหน่วยก้านและท่าทางไปเตะตาหัวหน้าค่ายจึงจับมาฝึกซ้อมอย่างจริงจังจนขึ้นสังเวียนในนาม "อิสระ เกียรติอินทรีดา" รับค่าตัวครั้งแรก 50 บาท
ขณะที่ตัวเองอายุได้ 12 ขวบเศษ ชื่อของเขาเริ่มโด่งดังในแวดวงมวยไทย ได้เข้ามาในกรุงเทพ ใช้ชีวิตอยู่กับค่ายศักดิ์กรีรินทร์ ขึ้นชกเวทีลุมพินีจนได้รับค่าตัวสูงสุดแตะหลักแสน โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำพอสมควร แต่แล้วเส้นทางมวยไทยก็ไม่ได้ราบรื่นไปถึงตลอดรอดฝั่ง ด้วยความที่ตัวใหญ่เกินไปจึงไม่ค่อยจะมีคู่ชกด้วย ทีนี้จะทำอย่างไรล่ะในเมื่อตัวเองนั้นมีดีที่หมัดคู่ใจที่สุดแสนจะหนักหน่วง ในเวลานั้นเองก็มีผู้ใหญ่หลายคนแนะนำให้เขาเปลี่ยนมาชกมวยสากล อาคมจึงใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน
หลังจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป อาคม เฉ่งไล่ เปลี่ยนมาชกมวยสากลสมัครเล่นอย่างเต็มตัว คว้าเหรียญทองกีฬาแห่งชาติที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปี 2534 จากนั้น 1 ปีถัดมา เขาก็สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมคว้าเหรียญทองแดงในศึกชิงแชมป์เอเชีย ก่อนจะได้ตั๋วไปโอลิมปิก ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
เมื่อโอกาสมาถึง อาคม ก็ไม่ปล่อยให้หลุดลอย เขาขึ้นชกในรุ่นเวลเตอร์เวต ไล่เก็บคู่แข่งทีละคน ชนะยูเซฟ คาเตรี จากอิหร่าน, ชนะ นิก โอโดเร จากเคนยา ก่อนจะมาชนะ วิทาลิยาส การ์ปาเซียสกัส จากลิทัวเนีย คว้าเหรียญทองแดงมาครองแล้วแน่ ๆ ในมือ แต่สุดท้ายมาพ่าย ไมเคิล คาร์รูท จากไอร์แลนด์
"ผมบนไว้ก่อนไปโอลิมปิก ถ้าได้เหรียญจะโกนหัว และผมก็ได้โกนจริงๆหลังชนะคู่ชกจากลิทัวเนีย ในรอบ 8 คน ซึ่งรอบ 4 คน ผมขึ้นชกแบบสกินเฮดเลย" อาคม เฉ่งไล่ ย้อนอดีตถึงบาร์เซโลนาเกมส์ ปี 1992
หลังประสบความสำเร็จในโอลิมปิก 1992 ที่สเปน อาคม เฉ่งไล่ ยังคงอยู่ในเส้นทางทีมชาติไทยต่อ ช่วงบั้นปลายก่อนจะเลิกเขายังติดทีมชาติไปลุยเอเชียนเกมส์ 1994 ที่ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น และคว้าเหรียญเงินมาครอง
"การได้เหรียญในโอลิมปิก ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดแล้วในชีวิตของผม" อาคม กล่าวสั้นๆ ถึงความภาคภูมิใจในการเป็นฮีโร่เหรียญโอลิมปิก
แม้ปัจจุบัน อาคม เฉ่งไล่ จะมีธุรกิจ เปิดร้านอาหารที่บ้านเกิด จังหวัดตรัง ร่วมกับพี่ชาย และภรรยา ไม่ได้อยู่ในเส้นทางวงการมวยอีกแล้ว แต่ชื่อของเขาก็ยังถูกจารึกไว้ว่าเป็นหนึ่งในฮีโร่เหรียญโอลิมปิกของไทย
TAG ที่เกี่ยวข้อง