10 มิถุนายน 2564
กีฬา “ยิงปืนเป้าบิน” อาจจะไม่ใช่กีฬาในกระแสสังคม แต่ยามใดที่ไปแข่งในนาม “ทีมชาติไทย” มักจะเป็นกีฬาแรก ๆ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้ตลอดเวลา ถ้าหากจะหานักกีฬา “ยิงปืนเป้าบิน” ที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดหรือมีชื่อเสียงมากที่สุดในแผนดินสยาม ชื่อของ "ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร น่าจะเป็นชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึง
“สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” เดินบนเส้นทางของกีฬา “ยิงปืนเป้าบิน” และติดทีมชาติไทยมาตั้งแต่ปี 2003 สร้างชื่อให้กับตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่ระดับอาเซียน, เอเชีย ต้องบอกว่า “เธอ” กวาดเหรียญรางวัลมาคล้องคอได้เกือบทุกรายการไม่ว่าจะเป็น เหรียญทองซีเกมส์, เอเชียนเกมส์ หรือ แชมป์เอเชีย
เท่านั้นยังไม่พอผลงานของระดับโลก “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” นั้นเคยก้าวขึ้นไปยืนในตำแหน่ง “เบอร์ 1 ของโลก” พร้อมกับ “คว้าแชมป์โลก” มาแล้ว ณ ปัจจุบัน “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” ถือเป็น “นักกีฬายิงปืนเป้าบินระดับโลก”
ผลงานที่ผ่านมาของ "ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ในฐานะ “นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย” ประเภท “สกีตหญิง” เริ่มจากการคว้าแชมป์ ซีเกมส์ 3 สมัย ไล่มาตั้งแต่ปี 2003 ที่ เวียดนาม ตามมาด้วย 2005 ที่ฟิลิปปินส์ และ ซีเกมส์ 2007 ที่ ไทย ส่วนในระดับเอเชียก็มีในเหรียญทองแดงศึกเอเชียนเกมส์ 2010 และ 2014 ก่อนที่ครั้งล่าสุดเอเชียนเกมส์ 2018 สุธิยา จะคว้าเหรียญทอง มาครองได้
ขณะที่ผลงานในระดับโลกนั้นใน 2016 เธอก็ควงปืนคู่กายลั่นกระสุนผงาดคว้าตำแหน่ง “คว้าแชมป์โลก" มาครองได้ถึง 2 สนาม จนพร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็น “นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย” คนแรกที่สามารถก้าวขึ้นครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก อีกทั้งยังผ่านเวลาเวทีโอลิมปิกเกมส์ มาแล้วถึง 3 สมัย ทำให้ “เธอ” เป็นหนึ่งในนักกีฬาความหวัง “เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์” ของ “นักกีฬาทีมชาติไทย” ตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา
ทว่าใน “โอลิมปิกเกมส์” 3 หนที่ผ่านมา "ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ไม่สามารถก้าวผ่านความกดดัน เพื่อพาตัวเองขึ้นไปยืนบน “โพเดียมรับเหรียญรางวัล” ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “ตัวเต็ง” ที่คว้าเหรียญรางวัลในแทบทุกครั้ง
จากความล้มเหลวใน “โอลิมปิมเกมส์” ทั้ง 3 หน นั้นจึงกลายเปิดบาดแผลที่บาดลึกอยู่ในใจของ “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” มาโดยตลอด
มาถึงตรงนี้น่าจะทำให้หลายคนอย่างรู้แล้วว่า “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” ก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และเป้าหมายในเส้นทาง “นักกีฬายิงเป้าบิน” ใน “โอลิมปิกเกมส์” สมัยที่ 4 กำลังจะมาถึงของ “เธอ” เป็นอย่างไรนั้นตามมาครับ
กุญแจสำคัญคือ “จิตใจ”
ที่ผ่านมาภาพจำของหลายคนที่เคยได้เห็น “สุธิยา” แข่งขันยิงเป้าบิน จะเป็นท่วงท่าที่ดูสง่าและน่าเกรงขาม สายตาจับจ้องอย่างมีเป้าหมาย พร้อมยกปืนลูกซองขึ้นมาประทับบ่าด้วยความมั่นคง พร้อมเปร่งเสียงเรียกเป้าที่เบาบางแต่ดูทรงพลัง และเหนี่ยวไกโป้งเดียวจอด สอยเหรียญรางวัลคล้องคอมาแล้วนักต่อนักจนหลายคนอยากจะรู้เคล็ดลับว่าเพราะอะไร "ณี" ถึงประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้
“การฝึกซ้อมคือหัวใจสำคัญ ซึ่งก็โชคดีที่ได้โค้ชที่เก่งมีความสามารถทั้งโค้ชชาวเยอรมันที่ได้ร่วมฝึกซ้อมด้วยกันมาถึง 7 ปี นอกจากนี้ยังมีโค้ชชาวอิตาลี จนปัจจุบันเป็นโค้ชชาวนอร์เวย์ อีกทั้งการแข่งขันในแต่ละรายการมันมีหลายตัวแปรต่อผลงานทั้งสภาพอากาศในวันที่แข่งขัน หรือ สภาพแวดล้อมของการแข่งขัน” “สุธิยา” เริ่มกล่าว
“ทำให้ที่ผ่านมาตนเองขอให้ อ.พิชิต เมืองนาโพธิ์ นักจิตวิทยาการกีฬามือ 1 ของไทย เข้ามาดูแลและปรับสภาพจิตใจในเรื่องต่าง ๆ หากว่าเรามีสมาธิไม่คิดหรือกังวลเรื่องใด ๆ การลั่นไกออกไปย่อมมีความแม่นยำ”
“ยกตัวอย่างในรอบชิงชนะเลิศของเอเชียนเกมส์ 2018 ที่เป็นครั้งแรกในการเปลี่ยนกฎรอบไฟนัล 6 คนสุดท้ายเป็นการดวลเป้าต่อเป้าใครยิงไม่เข้าก็ออกไป จนมาถึง 2 คนสุดท้ายซึ่ง "ณี" ต้องมาดวลเดือดกับ เว่ยเหม่ง นักแม่นเป้าจากจีน แต่ด้วยความนิ่งและเยือกเย็นของ สุธิยา ก็เฉือนชนะไป 55-54 นี่แหละคือจิตใจที่นิ่งจะทำให้ผลการแข่งขันออกมาดีเสมอ”
“กุญแจที่ไขความสำเร็จให้กับตนในช่วงที่ผ่านมาก็ คือจิตใจ ฉะนั้นความสำเร็จต่อไปนี้ที่จะเกิดขึ้นก็มาจากจิตใจเช่นกัน” ณี กล่าว
เส้นทางสายนี้อย่าถามถึงเป้าหมาย
“สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” เผยว่า ใน “โอลิมเกมส์ 2020” ที่กำลังจะมาถึงแน่นอนเป็นอีกเป้าหมายหนูอยากจะผ่านไปให้ได้ แต่หลายคนมักจะตั้งเป้าหมาย คาดไปล่วงหน้าว่าผลงานต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และจะทำอะไรกับเกมการแข่งขันที่รออยู่ตรงหน้า แต่สำหรับหนูในวันนี้ อย่าถามถึงเป้าหมายกับหนูเลย เพราะการแข่งขันยิงเป้าบินแต่ละครั้งเราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์อะไรได้เลยถึงแม้ในวันที่ฟอร์มการเล่นของเราจะแม่นมากแค่ไหน แต่ถึงเวลาลงสนามจริง ๆ ฟอร์ม นั้นก็อาจจะไม่ได้ติดตัวเข้ามาในสนามด้วย”
“ทำให้ในทุกครั้งหนูต้องตั้งสติและเคลียร์จิตใจทุกอย่างให้โล่งและว่างเปล่า ซึ่งเป็นธรรมดาของนักกีฬายิงเป้าบินที่มักจะตอบไม่ได้เรื่องเป้าหมายของการแข่งขัน เพราะหากเราตอบไปว่ามั่นใจมากน้อยขนาดไหน มันก็จะไปกดดันเอาตอนแข่งทำให้ผลงานออกมาไม่ดี”
“ทุกคนเข้าใจของธรรมชาติและสภาพจิตใจของนักกีฬายิงเป้าบินก็จะรู้ได้ทันทีว่าการยิงแต่ละนัดมันยากขนาดไหน ความสัมพันธ์ของร่างกายมันต้องพอดีกันทั้งสายตาจังหวะการเหนี่ยวไก ซึ่งไม่มีอะไรที่ง่ายเลยในกีฬาชนิดนี้ และถ้าเราทำมันสำเร็จก็จะเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย”
“ถ้าอยากรู้จริงๆว่าเป้าหมายของตัวเอง คืออะไร คำตอบที่ดีที่สุดคือ “การซ้อม” แต่การซ้อมไม่ใช่ซ้อมให้เยอะ แต่เป็นการซ้อมให้ดีที่สุด ซ้อมอย่างไรให้ดีที่สุด นักกีฬาทุกคนมีเทคนิคของตัวเองและรู้ตัวเองดีว่าทำอย่างไร
โอลิมปิกเกมส์ยังไม่ใช่สถานีสุดท้ายในชิวิต
ส่วนในประเด็นที่ว่า “โอลิมปิกเกมส์” หนนี้จะเป็น ครั้งสุดท้ายในชีวิตหรือไม่ “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” กล่าวว่า “หลายคนมักจะบอกว่าจุดสูงสุดของชีวิตนักกีฬา คือ การไป “โอลิมปิกเกมส์” สักครั้งในชีวิต นั้นคือเส้นชัยใน “ชีวิตนักกีฬา” และพร้อมจะยุติการเป็นนักกีฬา นั้นไม่ใช่แนวคิดของหนู และไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในหัวเลยสักนิด”
“เพราะสำหรับตัวหนูเอง หากเรายังใจและสภาพร่างกายที่พร้อมเสมอต่อทุกการแข่งขัน มันทำให้หนูเองยิงมีความทะเย่อทะยานอยากก้าวเดินในเส้นทางนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีเหตุจำเป็นเลยที่จะต้องกำหนดว่าถึงรายการนี้หรือเราผ่านตรงนี้มาได้แล้วจะต้องเลิกเล่นทีมชาติ ถ้าตอนนี้ยังเล่นไหวก็เล่นต่อไปเรื่อยๆ” ยอดนักยิงเป้าบินสาวทีมชาติไทย กล่าว
ทั้งหมดนั้นก็เป็น แนวคิด เส้นทาง และ เป้าหมายในอนาคตของ “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ยอดนักเป้าบินสาวทีมชาติไทย
“เธอ” จะประสบความสำเร็จใน “โอลิมปิกเกมส์” เวอร์ชั่น “ญี่ปุ่น” หรือไม่นั้นก็คงไม่มีใครรู้
สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ “สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” ก้าวคว้าความสำเร็จใน “โตเกียวเกมส์” มาให้ได้
TAG ที่เกี่ยวข้อง