stadium

ชยุตม์ คงประสิทธิ์ ทายาทไม้ 3 แห่งทีมผลัด 4x100

19 พฤษภาคม 2563

ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักกรีฑาหนุ่ม ผู้ซึ่งยังไม่เคยมีประสบการณ์จาการแข่งขันกีฬาซีเกมส์มาก่อน กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด จากการคว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรได้อย่างเซอร์ไพรซ์ ก่อนจะให้ลมกรดผู้นี้ แจ้งเกิดในวงการกรีฑาไทยได้อย่างเต็มตัว เขาคนนี้มีนามว่า ชยุตม์ คงประสิทธิ์ หรือเจ้าไอซ์ นั่นเอง

 

ไม้ประดับ

ก่อนไปแข่งขัน หลายคนต่างมองว่า นักวิ่งวัย 21 ปีจากสุราษฎร์ธานีรายนี้ คงเป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น หากได้เพียงเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ก็นับเป็นผลงานที่เกินคาดแล้ว แต่ผลงานที่ออกมากลับดีเกินคาด พร้อมกับทำสถิติได้ 20.71 วินาที ลบคำสบประมาทของใครหลายๆคนได้สำเร็จ และจากผลงานการวิ่งเข้าเส้นชัย ด้วยสถิติ 20.71 วินาที ได้กลายเป็นสถิติวิ่ง 200 เมตรชาย ที่ดีที่สุดในกีฬาซีเกมส์ ในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว นับตั้งแต่ผลงานของ “อุลตร้าเหรียญ” เหรียญชัย สีหะวงศ์ ที่คว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตรชาย ในซีเกมส์ครั้งที่ 20 เมื่อปี 1999 ที่ประเทศบรูไน ซึ่งในครั้งนั้น เหรียญชัย ทำได้ 20.69 วินาที พร้อมกับกลายเป็นสถิติประเทศไทยและสถิติกีฬาซีเกมส์ ที่ยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้

 

เหรียญชัย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวิ่งระยะสั้นให้กับกรีฑาทีมชาติไทย มองว่า เจ้าไอซ์ เป็นนักวิ่งที่ดี จากผลงานในซีเกมส์ครั้งล่าสุด ยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ชยุตม์ พลาดการทำลายสถิติประเทศไทยของเขาไปเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า ชยุตม์ คงประสิทธิ์ จะสามารถพอที่จะทำลายสถิติประเทศไทยในรายการวิ่ง 200 เมตรชายของตัวเองได้ในอนาคต

 

ด้าน ชยุตม์ ได้กล่าวถึงผลงานการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2019 ของตัวเองว่า นับเป็นผลงานที่ดีเกินคาดพอสมควร ก่อนเดินทางไปแข่งขันไม่ได้คิดว่าจะได้เหรียญด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม จากการที่เป็นนักวิ่งม้านอกสายตา จึงทำให้ตัวเองไม่กดดันมากนัก ก่อนจะทำผลงานออกมาดี ตั้งแต่การออกตัวจากบล็อกสตาร์ท จนกระทั่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก

 

 

ย้อนกลับไปในสมัยยังเป็นดาวรุ่ง เจ้าตัวเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเปี่ยมรัก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีบ้านเกิด ซึ่งในขณะนั้น เขาได้เข้ามาเป็นนักวิ่ง จากการชักชวนของอาจารย์ ก่อนจะตัวฉายแววของการเป็นยอดนักลมกรด ด้วยการคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกรีฑาภายในจังหวัดเป็นประจำ ก่อนจะเริ่มฉายแววไปทั่วประเทศตอนอายุ 15 และถูกดึงตัวมาร่วมเรียนต่อยังโรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา ๖ จังหวัดนนทบุรี พร้อมกับเป็นตัวแทนทีมจังหวัดนนทบุรี ไปแข่งขันในรายการต่างๆระดับประเทศ ก่อนจะสามารถทำลายสถิติประเทศไทย ในรุ่นอนุชนจากการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายได้สำเร็จ

 

หลังจากนั้น 2 ปี เขาก็ได้ก้าวขึ้นมาติดเยาวชนทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก โดยลงแข่งในศึกกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2016 ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ เป็นรายการแรก แต่ว่าในปีนั้น ชยุตม์ ได้ลงวิ่งในตำแหน่งไม้ที่ 1 ให้กับทีมวิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย ก่อนจะคว้าเหรียญทองแดงมาครอง โดยแพ้ให้กับไต้หวัน แชมป์ และมาเลเซีย รองแชมป์

 

ถึงเวลาแจ้งเกิด

นับจากนั้น ลมกรดดาวรุ่งรายนี้ ได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเต็มตัว โดยเป็นตัวสำรองในทีมวิ่งผลัด 4X100 เมตรชายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ชยุตม์ ได้กล่าวว่า จากการที่เจ้าตัวมีจุดเด่นในเรื่องการออกตัว อีกทั้งเป็นคนที่มีรูปร่างตัวเล็กและคล่อง จึงวิ่งทางโค้งได้ดี ทำให้โค้ชได้วางให้วิ่งในตำแหน่งไม้ 1 กับไม้ 3 มาโดยตลอด

 

จนกระทั่งในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2018 ซึ่งในขณะนั้น นักวิ่งทีมชาติไทยชุดใหญ่หลายคนโดนลงโทษแบน จึงทำให้ลมกรดจากเมืองร้อยเกาะรายนี้ ได้รับโอกาสลงแข่งขันให้กับทีมผลัด 4X100 เมตร ในนามทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยในรอบชิงชนะเลิศ ได้รับมอบหมายให้วิ่งในไม้ที่ 3 ก่อนจะเข้าอันดับที่ 6 พลาดการคว้าเหรียญรางวัลอย่างน่าเสียดาย

 

ลมกรดจากเมืองคนดี ได้กล่าวถึงการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่ดินแดนอิเหนาว่า แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า ที่ทำให้เขาแกร่งขึ้น จากการได้ร่วมประลองแข่งขันกับนักกีฬาชุดใหญ่ของชาติอื่นๆและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยหล่อหลอมให้เขา ประสบความสำเร็จกับการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 30 จากการวิ่ง 200 เมตรชาย ในอีก 1 ปีต่อมา

 

 

ทายาทไม้ 3 ต่อจาก “ยูเซ็นมิ้ว”

หลังจบการแข่งขันซีเกมส์ที่แดนตากาล็อก เมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมผลัด 4X100 เมตรชายของไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ “ยูเซ็นมิ้ว” จิระพงศ์ มีนาพระ ผู้ครองตำแหน่งไม้ 3 ตัวหลักให้กับทีมผลัด 4X100 เมตรไทยมานานกว่า 10 ปี ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับการพาทีมไต้ฝุ่นไทย คว้าทั้งแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และแชมป์ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อปีที่แล้ว แถมยังสร้างสถิติประเทศไทยขึ้นมาใหม่อีกต่างหาก จากศึกชิงแชมป์เอเชียครั้งดังกล่าว ด้วยสถิติ 38.72 วินาที ได้ตัดสินใจประกาศอำลาทีม จึงทำให้สต๊าฟโค้ชทีมวิ่งระยะสั้นของไทย ตัดสินใจดึง ชยุตม์ คงประสิทธิ์ ขึ้นมาวิ่งไม้ 3 แทนที่ จิระพงศ์ มีนาพระ ผู้เป็นเสมือนไอดอลของ ชยุตม์ เอง โดยมีเป้าหมายก็คือ การคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นให้ได้

 

ชยุตม์ บอกว่า แม้เขาจะประสบความสำเร็จจากการคว้าเหรียญทองในการวิ่ง 200 เมตรชายในซีเกมส์ครั้งล่าสุด แต่การขึ้นมาเป็นทายาทไม้ 3 ต่อจาก “ยูเซ็นมิ้ว” ในทีมวิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย นับเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะตลอดกว่า 10 ปี ไอดอลของเขาคนนี้ วิ่งในตำแหน่งไม้ 3 ได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง และพาทีมไต้ฝุ่นไทยประสบความสำเร็จมานับครั้งไม่ถ้วน

 

นับเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย หลังจากกีฬาโอลิมปิก 2020 ได้เลื่อนการแข่งขันจากเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมในปีนี้ ไปแข่งขันในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมในปีหน้าแทน เนื่องด้วยผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะจะทำให้เจ้าตัวได้มีเวลาในการพัฒนาตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม และเชื่อว่าหลังจากนี้ ตนเองจะมีเวลามากพอ ที่จะปรับตัวให้เข้ากับทีมผลัด 4X100 เมตรชายได้ดีขึ้น

 

ลมกรดหนุ่มจากเมืองร้อยเกาะกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าเป้าหมายตนเองในขณะนี้ คือการพาทีมไต้ฝุ่นไทย คว้าโควตาไปแข่งขันโตเกียวเกมส์ให้ได้ ส่วนอีกเป้าหมายสำคัญก็คือ จะต้องทำลายสถิติประเทศไทย ในรายการวิ่ง 200 เมตรชายของพี่เหรียญชัย สีหะวงศ์ ให้ได้เช่นกัน หลังจากสถิตินี้ อยู่ยาวมานานเกิน 2 ทศวรรษแล้ว


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

stadium olympic