stadium

สำรวจความคิด เอรียา จุฑานุกาล สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็นมือ 1 ของโลก

17 พฤษภาคม 2563

เรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ชอบวิ่งเล่นซุกซนเหมือนเด็กทั่วไป สิ่งที่แตกต่างก็คือการวิ่งเล่นในร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟของครอบครัวในวันนั้น ทำให้เธอถูกพ่อดุด่า และไล่ให้ไปเล่นกอล์ฟเพราะไม่อยากให้มาเกะกะในร้าน หลังจากนั้นชีวิตเธอถูกเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก เบื้องหลังชีวิตต้องทรหดอดทนมากๆ กว่าจะสามารถเทิร์นโปรและกลายเป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนแรกที่ขึ้นครองมือ 1 ของโลกในปี 2017 หลังจากนั้น 4 ปี เส้นทางชีวิตของเธอถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทั้งประเทศ เชื่อว่าหากใครได้ดูแล้วเหมือนผมคงจะได้รับแรงบันดาลใจมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน

 

ดีกรีของเธอตอนนี้ไม่ธรรมดา นักกอล์ฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี LPGA 2 ปีซ้อน นักกอล์ฟสาวที่กวาดทุกรางวัลของ LPGA ปี 2016 มีเธอเทคนิคการไดร์ฟที่ทรงพลัง หวดลูกได้ไกลในระยะเทียบเท่าผู้ชาย ใช่แล้วครับ เธอก็คือ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล และในวันนี้เราจะพาไปสำรวจความคิดของเธอกันว่า สิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการเป็นมือ 1 ของโลกคืออะไร ไปติดตามกันเลย

 

ความเชื่อของครอบครัว จุฑานุกาล 

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ประโยคคลาสสิคสั้นๆ 4 พยางค์ ฟังดูเชยๆ แต่กลับทรงพลัง เป็นประโยคที่ครอบครัวจุฑานุกาลทุกคนยึดถือเป็นหลักในการใช้ชีวิตมาตลอด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ในวันนี้ โปรเม ประสบความสำเร็จการเล่นกอล์ฟอาชีพ

 

“เมย์ ว่าอย่างแรกเราต้องเชื่อในตัวเองก่อน เชื่อว่าเราทำได้แล้วก็ไม่หยุดทำ” โปรกอล์ฟสาวเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงสบายๆ แต่แววตามุ่งมั่น “เมย์ เชื่อว่าจริง ๆ ว่าถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เราจะทำมันอย่างเต็มที่ แล้วไม่หยุดทำจริง ๆ ถึงแม้ว่าวิธีที่ 1 วิธีที่  2 วิธีที่ 3 มันจะยังไม่ประสบความสำเร็จ เราก็จะหาวิธีที่ 4 วิธีที่ 5 วิธีที่ 6 ต่อไปแค่นั้นเอง แล้วตราบใดที่เรายังไม่หยุด”

 

“เป้าหมาย กับความหมายของมัน คือเป้าหมาย เมย์ ว่าใคร ๆก็ตั้งเป้าได้ แต่พอวันนึงเรามีความหมายให้เป้าหมาย จะทำให้เราไม่ใช่แค่ไปถึงแล้วก็ได้เงิน แต่มันมีความหมายมากกว่าแค่หาเงิน เมย์ ว่ามันก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะไปให้ถึงมันได้ค่ะ”

 

ความหมายของเป้าหมาย ได้ยินแล้วก็ชวนสงสัยอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อคุณอ่านเรื่องราวของเธอจบ หรือเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่องโปรเม อัจฉริยะต้องสร้าง ก็จะเข้าใจประโยคนี้ของเธอมากขึ้น ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวถ่ายทอดชีวิตของโปรเมตั้งแต่จุดเริ่มต้น เส้นทางชีวิตที่ต้องเหนื่อยกว่าเด็กๆทั่วไป ทุ่มเท อดทน ฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เช้ายันค่ำ เป็นเวลานับสิบปี กว่าจะได้ขึ้นครอง มือ 1 ของโลกครั้งแรกในปี 2017 

 

 

 

 

ความหมายของการเป็นมือ 1 โลก

ย้อนกลับไปเหตุการณ์ในวันนั้น เมย์ ลงแข่งขันรายการ “แมนูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก” ที่ประเทศแคนาดา ด้วยความผิดหวังที่อดขึ้นมือ 1 ของโลกในสัปดาห์ก่อน เพราะการคำนวณคะแนนที่ผิดพลาดของ แอลพีจีเอ อย่างไรก็ตามในรายการนี้ ความพยายามของ โปรเมย์ ก็เห็นผล การพัตต์เบอร์ดี้ระยะ 25 ฟุต ลงไป ทำให้เธอชนะในการดวลเพลออฟ 2 คู่แข่งจากสหรัฐฯและเกาหลีใต้

 

สำหรับคนอื่นนี่คือการก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงอันดับ 1 ของโลกอย่างสมศักดิ์ศรี แต่สำหรับโปรเม มันคือจุดเริ่มต้นที่จะได้ทำให้คำว่า มือ 1 ของโลกมันมีความหมายมากกว่าความยอดเยี่ยมส่วนตัว

 

“ดีใจค่ะ เพราะว่ามันเป็นความภูมิใจ เหมือนเรามีเป้าหมาย แล้วเราทำมันได้ จริง ๆ ช่วงที่เป็นมือ 2 ของโลกก็มีความสุขนะ ก็รู้สึกว่าชีวิตก็ดี ดูแลคนที่เรารักได้ ทำงานหาเงิน เป็นแชมป์ไปเรื่อย ๆ ชีวิตมันก็ดีค่ะ แต่มีวันนึง อยู่ ๆก็คิดขึ้นมาว่าอยากเป็นมือ 1 แล้ว เรากถามตัวเองว่าอยากเป็นเพราะอะไร” 

 

“ก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุผล วันที่อยากเป็น เรารู้สึกอยากมีมูลนิธิเป็นของตัวเอง เราอยากช่วยเด็ก เราอยากให้ชีวิตของเราเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก หรือให้คนอื่นต่อ ๆไปได้ เรารู้สึกว่าคำว่ามือ 1 ของโลกมันจะทำให้คำพูดเรามันดูมีความหมายมากขึ้น คนจะฟังเรามากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าโอเค งั้นตั้งแต่วินาทีนี้ไป เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้เป็นมือ 1 ของโลก จากวันนั้นก็ทำทุก ๆอย่างจนได้เป็นมือ 1 ของโลกค่ะ”

 

ความสำเร็จในวันนั้น ทำให้เสียงชื่นชมในตัวเธอดังขึ้นเรื่อยๆจากทุกสารทิศ ทั้งสื่อไทยและต่างประเทศ ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศก็ออกมายกย่องโปรกอล์ฟสาวไทยว่าเป็นนักกีฬาตัวอย่าง เยาวชนที่อยากประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬาควรนำมาเป็นตัวอย่างทั้งความพยายาม และทัศคติในการใช้ชีวิต

 

เมื่อผมบอกว่าสิ่งที่เธอทำอยู่มันคือการทำเพื่อคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่ความฝันของตัวเอง แต่เธอก็ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ใช่ เธอก็ทำเพื่อตัวเอง เพราะเธอมีความสุขเวลาได้เห็นคนอื่นมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำ

 

“เมย์ ไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นนะ แค่รู้สึกว่าการที่เมย์เห็นคนอื่นมีความสุข มันคือความสุขของเรา การที่ได้ช่วยมันคือความสุขของเรา ไม่ได้คิดว่ามันคือการทำเพื่อคนอื่น แต่ทำเพื่อตัวเอง พอได้ขึ้นมือ 1 ก็ดีใจค่ะ เพราะรู้สึกว่าหลังจากนั้น เราจะทำอะไรได้อีกเยอะมากเลย คำพูดเรามันจะมีความหมายมากขึ้น การที่เราจะช่วยเด็ก เราก็มีโอกาสที่จะทำมากขึ้น เสียงของเรา มันจะเป็นเสียงที่คนอื่นฟังเรามากขึ้น”

 

“ความฝัน จุดมุ่งหมาย มันทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีค่า มันทำให้เรารู้ว่าเราตื่นมา รู้ว่าต้องทำอะไรที่สำคัญก็อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครค่ะ ไม่มีใครดีกว่าเรา เราไม่ได้แย่กว่าใคร ทุกคนแค่มีเป้าหมายที่แตกต่างกัน มันทำให้คำว่าประสบความสำเร็จของเราไม่เหมือนกัน แล้วสุดท้ายแล้วเริ่มต้นจากคำว่ารัก เมย์ว่ามันสวยงามและมันก็ถูกต้องเสมอ”

 

มูลนิธิโมรียา-เอรียา

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะได้รับการหยิบยื่นโอกาสมาก่อนเช่นกัน อย่างที่โปรเมบอกไว้ การขึ้นมือ 1 ของโลกเป็นเพราะเธอมีเป้าหมายอยากที่จะแบ่งปันโอกาสให้กับคนอื่นบ้าง จึงร่วมกับพี่สาว โปรโม โมรียา จุฑานุกาล ก่อตั้ง “มูลนิธิโมรียา-เอรียา” ขึ้น เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษา การกีฬา รวมทั้งหาทุนให้กับนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ฐานะยากจน

 

“จริง ๆเป้าหมายตอนนี้ ก็อย่างที่บอกค่ะ วันนึงเมย์ขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกแล้ว ก็อยากจะช่วยเหลือเด็กๆที่ยากไร้ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้น เป้าหมายตอนนี้ก็โฟกัสไปตรงนั้นค่ะ”

 

“เมย์ แค่รู้สึกว่าการที่คนอื่นมองเราว่าเราดีแค่ไหน มีเงินแค่ไหน เก่งแค่ไหน เราไม่ได้โฟกัสกับความเป็นจริงในชีวิต ความเป็นจริงในชีวิตคือเราเป็นคนดีแค่ไหน เป็นคนที่พร้อมจะให้คนอื่นแค่ไหน เป็นคนที่พร้อมจะรักคนอื่นแค่ไหน นั่นคือความเป็นคนที่แท้จริงในความรู้สึกของเมย์นะ”

“ความเป็นคนที่แท้จริง ไม่ได้มีอะไร แต่แค่เป็นอะไร พี่เป็นคนที่ดีไหม พี่มีความคิดที่ดีไหม รู้จักรักคนอื่นและให้คนอื่นไหม อันนี้คือความเป็นพี่ สิ่งที่พี่มีไม่ได้บอกว่าพี่เป็นอะไร”

 

ทัศนคติของแชมป์เปี้ยน

อันดับโลกอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทัศนคติจะอยู่ติดตัวเราไปตลอด แม้ว่าวันนี้ โปรเม ไม่ได้รั้งอันดับ 1 ของโลก แต่ความมุ่งมั่นของเธอไม่ได้ลดน้อยลง กอลืฟยังคงเป็นความฝันที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้กับเธอ และยังเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสามารถแบ่งปันโอกาสดีดีให้กับเยาวชนที่ยากไร้ได้อีกจำนวนมาก ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับเธอทำให้ผมเชื่อว่าทัศนคติการใช้ชีวิตที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เด็กจะติดตัวเธอไปตลอด

 

”แข่งกับตัวเองเป็นสิ่งที่ชนะแล้วภูมิใจนะ เพราะว่าวันที่เราชนะคนอื่น มันก็ดีใจแหละ เราก็ถือถ้วยแล้วก็ดีใจ แต่สุดท้ายแล้วเมย์ว่าชนะตัวเองมันเป็นส่งที่เราภูมิใจมากที่สุด ชนะความกลัวของตัวเอง ชนะความกดดันของตัวเอง ชนะความขี้เกียจของตัวเอง ชนะความท้อของตัวเอง บางวันเราแค่อยากนอนอยู่เฉยๆ แต่ว่าชนะตัวเองคือการลุกขึ้นมาแล้วทำอะไรให้แต่ละวันมันดีขึ้น”

 

“จริง ๆ ต้องบอกว่าวันนึงที่เราขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว เราไม่ได้คิดถึงอันดับโลก ไม่ได้คิดถึงเงินรางวัล ไม่ได้คิดว่าเราจะเป็นมือ 1 นานไหม มือ 10 นานเท่าไหร่ เราแค่รู้สึกว่าหน้าที่ในทุก ๆ วัน คือการออกไปทำให้มันดีที่สุด ออกไปทำให้มันใกล้กับเป้าหมายเราที่สุด เรียนรู้กับประสบการณ์ทุก ๆอย่างที่เจอ แล้วก็รู้เสมอว่าคนเรามีขึ้นแล้วก็มีลงเสมอไม่มีใครขึ้นตลอด และไม่มีวันลงตลอด”

 

“เราแค่เป็นเราให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ของเราให้มันดีที่สุด แล้วก็มองข้ามในสิ่งที่เราคอนโทรไม่ได้ อันดับโลกเป็นสิ่งที่เราคอนโทรไม่ได้ เมย์ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้อีกกี่ปี ไม่รู้ว่าลงแล้วลงอีกนานไหม หรือว่าขึ้นแล้วขึ้นอีกนานไหม มันเป็นสิ่งที่เราคอนโทรไม่ได้ สิ่งที่เราคอนโทรได้คือวันนี้เราจะทำอะไร ให้มันดีที่สุดในชีวิตเรา” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟ อดีตมือ 1 ของโลกทิ้งท้าย


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

stadium olympic