19 มีนาคม 2563
2 แชมป์โลก 1 เหรียญทองแดงโอลิมปิก ยอดรวมแชมป์ 27 รายการ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 5 ปีเท่านั้น นับเป็นความสำเร็จชี้ให้เห็นแล้ว “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เป็นนักกีฬาเทควันโดหญิงไทยที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ผลงานของ ”เทนนิส” ในปี 2019 คว้าไปทั้งหมด 6 แชมป์ โดยไม่แพ้ใครเลยสักแมตช์ แถมยังครองมือ 1 ของโลกมาตลอดทั้งปี แต่บอกไปใครจะเชื่อว่ากว่าที่เธอจะมาอยู่ในจุดนี้ได้เธอนั้นเคยถูกเรียกว่าเด็กขี้แพ้มาก่อน
เด็กขี้แพ้
เด็กผู้หญิงผอมบาง แข้งขายาว มองจากภายนอกยอมรับเลยว่า สัมผัสไม่ได้ถึงความแข็งแกร่งดุดันแบบที่เราเห็นบนเวที มีแต่ความเป็นกันเองที่เราสัมผัสได้จากรอยยิ้มที่จริงใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อเธอขึ้นเวที เธอเหมือนมีอีกคนอยู่ในร่าง ทั้งความนิ่ง สุขุม และสมาธิจดจ่ออยู่กับเกมการแข่งขัน ทำให้เธอดูน่าเกรงขามเอามากๆ เทนนิส บอกว่า ตอนเด็กๆเธออ่อนแอมากๆ อย่าว่าแต่คนด้วยกันเลย แม้กระทั่งของกินยังแพ้
“หนูเริ่มเล่นเทควันโด เพราะพี่ชายของหนูเริ่มเล่นก่อน แล้วก็ไปฝึก ไปแข่งต่างจังหวัดค่ะ ตอนแรกหนูไม่ชอบเลย เห็นพี่เล่นแล้วผู้ชายเตะกันปากแตก หนูก็กลัว ไม่กล้าเล่น แต่คือตอนนั้นก็มีซ้อมเล่นๆ แล้วก็ไปแข่งที่จังหวัดภูเก็ตค่ะ ก็อยากไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน เพราะเพื่อนไปแข่งกัน พ่อก็เลยบอกว่าถ้าอยากไปเที่ยวทะเล ก็ต้องลงแข่งในครั้งนี้ด้วย ก็เลยลงแต่ไปถึงก็แพ้รอบแรก”
“ตอนเด็ก ๆก็แพ้ตั้งแต่ลงแข่งครั้งแรก คะแนนตามหลังห่าง 0-7 หนูทำแต้มไม่ได้เลย กรรมการก็จับแพ้ เพราะว่าสกอร์มันห่างเกิน ความรู้สึกตอนนั้นก็ไม่เจ็บเลย แต่เหมือนโกรธที่ตัวเองแพ้ ตอนที่ซ้อมก็เหมือนไปเล่นๆไม่ได้จริงจัง แต่หลังจากที่กลับมาจากแข่ง ก็ขอพ่อว่าขอไปซ้อมกีฬารอบนักกีฬาเลย เพราะว่าอยากกลับไปชนะ อยากเตะได้บ้าง” จอมเตะแชมป์โลกเล่าถึงความพ่ายแพ้ครั้งแรกในวัยเด็ก
“ช่วงนั้นหนูนี่เป็นอ่อนแอมากๆเลย คือเป็นผู้หญิงรูปร่างบอบบาง ไม่แข็งแรง กินอะไรก็แพ้ไปหมด อย่างกินขนมซอง กินอาหารทะเล อย่างหนูอยู่ภาคใต้ก็แพ้อาหารทะเลที่อร่อยๆ ลมพิษขึ้นเต็มตัว พ่อเลยอยากให้ออกกำลังกาย”
สาวร่างบางหัวใจแกร่ง
หลังจากนั้น “เทนนิส” ก็เริ่มซึบซับความเป็นนักกีฬามากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จชนิดอื่นๆ แต่เมื่อเธอได้รู้จักกับกีฬาเทควันโด ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้เจออะไรที่ใช่กับตัวเองสักที ราวกับว่า “เทนนิส” กับเทควันโดนั้นเกิดมาคู่กัน
“ตอนแรกพ่อก็พาไปเล่นหลายกีฬาค่ะ ก็มีว่ายน้ำ วิ่ง วอลเลย์บอล ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่เคยติดถึงเป็นนักกีฬาจังหวัดเลยด้วยซ้ำ แต่พอมาลองเล่นเทควันโด แข่งแล้วหนูกับได้เหรียญ เลยมีโอกาสได้เข้ามาคัดตัวทีมชาติที่กรงุเทพ ตอนเข้ามาในทีมชาติเราคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในภาคใต้ แต่พอมาเจอในแคมป์ทุกคนเก่งหมด ก็เป็นความยากที่หนูต้องผ่านให้ได้ เพราะว่าการคัดตัวทีมชาติ มันเรียกจากทั่วประเทศค่ะ เราก็ต้องแข่งกับตัวเองแข่งกับคู่ต่อสู้ แล้วก็จากบ้านมาไกล จากสุราษฎร์ธานี มาอยู่กรุงเทพคนเดียวเป็นเรื่องที่ท้อมาก เวลาซ้อมหนักๆหนูก็คิดถึงพ่อคิดถึงที่บ้าน ต้องการกำลังใจ ต้องสู้กับตัวเองค่ะ”
“ช่วงนั้นก็ถอดใจค่ะ ตอนที่ขึ้นมาอาทิตย์แรก เค้าเรียกมาคัดตัวทีมชาติ ก็ต้องมาเช่าหอพักนักกีฬาอยู่ ซ้อมก็หนักมาก เพราะว่าเข้าไปเป็นเด็กที่อ่อนมาก โดนรุ่นพี่เตะปากแตกกลับบ้าน พอกลับมาจากซ้อมก็ขอพ่อว่าไม่อยากอยู่แล้ว มันเหนื่อย สู้ใครไม่ได้เลย บอกพ่อว่าหนูอ่อนที่สุดเลย หนูทำไม่ได้แน่ ๆ แล้วพ่อก็บอกว่าโอกาสมาแล้ว คนที่อยากเข้ามาคัดตัวเขายังไม่มีโอกาสเลย พอมีโอกาสแล้ว พ่อก็เลยอยากให้ทำให้เต็มที่ ถึงเวลาประกาศผลถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราจะได้ไม่เสียใจทีหลัง”
น้ำตาแห่งความผิดหวัง
แม้ว่าหนทางจะเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากขนาดไหน “เทนนิส” ในวันนี้เธอไม่ใช่เด็กขี้แพ้อีกต่อไปแล้ว เธอคัดตัวติดเยาวชนทีมชาติตอนอายุ 13 หลังจากนั้น 2 ปี เธอติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่งซีเกมส์ 2013 ในรอบชิงฯ “พาณิภัค” แพ้ให้กับเจ้าภาพไปแบบค้านสายตา ทั้งๆที่เป็นฝ่ายออกอาวุธอยู่ฝ่ายเดียว วันนั้นเธอนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นระหว่างรอรับเหรียญจนตาบวม เธอพูดทั้งน้ำตากับคนที่เข้าไปปลอบใจเธอว่า
“หนูเล่นไม่ดีเอง หนูจะไม่พลาดอีกแล้ว หนูจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ประสบการณ์ในวันนั้นทำให้เธอโตขึ้น และชนะคู่แข่งแบบขาดลอยมาตลอด และนับตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน เธอคว้าแชมป์รวมแล้ว 27 รายการ เป็นแชมป์โลก 2 สมัย 1 เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 มาถึงตรงนี้เราอาจต้องย้อนกลับขอบคุณเหตุการณ์ในรอบชิงฯซีเกมส์ครั้งนั้น ที่ทำให้เรามีนักกีฬาเทควันโดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
บทเรียนราคาแพง
อันที่จริง โอลิมปิก 2016 ที่บราซิล เทนนิส ถูกวางเป็นมือ 2 ของรายการ รับการคได้เข้าชิงฯกับ หวู จิง หยู แชมป์โอลิมปิกและแชมป์โลกอย่างละ 2 สมัย แต่ทว่าในรอบ 8 คนฯ เธอพลิกล็อค
แพ้ให้กับ คิม โซ ฮุย เต็ง 8 ของรายการ แชมป์โอลิมปิกในปีนั้น แมตช์ดังกล่าวในช่วงท้ายเกม “เทนนิส” นำอยู่ 2 แต้ม แต่กลับไปออกอาวุธแลกกับคู่แข่งจนพลาดโดนเตะเข้าที่ศรีษะในช่วง 4 วินาทีสุดท้าย ภายหลังเธอยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่สุดในชีวิต
“ตอนนั้นรอบตัดเหรียญค่ะ หนูก็ได้เจอกับเกาหลีใต้ค่ะ แล้วคะแนนของหนูนำอยู่ประมาณ 2 คะแนน แล้วเราเตะหัว แต่ว่าไม่ได้คะแนน แต่เค้าเตะหัวเรากลับมา เหลือเวลาแค่ 4 วิ จริง ๆหนูสมควรที่จะถอย ไม่ควรที่จะไปแลกกับเขา มันทำให้หนูโดนเตะหัว การแพ้ในนัดนั้นทำให้หนูเสียใจแล้วก็เสียดายมากที่สุดในชีวิต ครั้งนั้นก็เป็นประสบการณ์ให้หนูได้เรียนรู้ว่า เราต้องเร่งทำคะแนนให้ห่างๆ เวลาใกล้หมดก็ไม่สมควรที่จะไปแลก”
แชมป์โอลิมปิก เหรียญเดียวที่เหลืออยู่
หลังจบริโอเกมส์ โดยได้เหรียญทองแดงเป็นรางวัลปลอบใจ เธอเรียนรู้จากเหตุการณ์ในวันนั้น พัฒนาตัวเองจนขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกอย่างสมบูรณ์ หากนับผลงานตั้งแต่ปี 2017-2019 เธอคว้าไปทั้งหมด 18 แชมป์จาก 21 รายการที่ลงแข่ง แพ้แค่ 3 แมตช์เท่านั้น โดยเฉพาะปี 2019 ที่ไม่แพ้ให้กับใครเลย เป็นผลมาจากการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงเกินกว่าใครจะนึกภาพออก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป้าหมายเดียว คือแชมป์โอลิมปิก 2020
“หลังจากนั้นหนูก็พยายามฝึกฝน แล้วก็ซ้อมให้เต็มที่มากขึ้น อย่างตอนที่ไปวิ่งขึ้นดอยที่เชียงใหม่ หลังจากแพ้เกาหลีมา หนูก็ท่องไว้ในใจเลยว่าต้องกลับไปชนะ ต้องกลับไปชนะ ขาก็จะหยุด แต่ใจบอกไปๆ แล้วโค้ชก็ตะโกนมาว่าพ่อเชียร์อยู่ พ่อรออยู่ หนูก็แบบหยุดไม่ได้ ก็ต้องไปต่อ ก็พยายามฝึกให้หนักแล้วก็ไม่ยอมแพ้” “เทนนิส” กล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตาที่มุ่งมั่น
TAG ที่เกี่ยวข้อง