stadium

จอย & ไวน์ บันไดก้าวแรกสู่โอลิมปิก

13 มีนาคม 2563

            ในโอลิมปิกเกมส์ ตั้งแต่หนแรกจนถึงปี 2016 มีนักกีฬาว่ายน้ำไทยเข้าไปมีส่วนร่วมมาแล้ว 20 คน ครั้งแรกใน โอลิมปิกครั้งที่ 18 โตเกียวเกมส์ 1964 ที่ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนั้นมี สมชาย ลิมปิชาติ, สมชาย เผือกใจแก้ว, ณรงค์ โชคอำนวย, วีนะยุทธ คุ้มบรรจง เป็น 4 คนที่นำร่องให้วงการว่ายน้ำบ้านเรา

            ล่าสุดโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง กับ “ฉลามต่อ” รดมยศ มาตเจือ เป็น 2 คนที่ได้สิทธิ์ไวล์ดการ์ดให้เข้าร่วมโอลิมปิก นอกจากนี้ เงือกอุ้ม ยังเป็นนักว่ายน้ำไทยที่ได้ไปโอลิมปิกมากที่สุดถึง 3 ครั้งด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2008-2016

            ส่วนโตเกียว 2020 โอลิมปิกหนนี้ เหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนในการควอลิฟายสำหรับกีฬาว่ายน้ำถึงตอนนี้มี เงือก-ฉลามไทยอยู่ 2 คนที่ทำเวลาเข้าเกณฑ์จะได้ไปโอลิมปิก

 

เปิดกฎคัดโอลิมปิกของฟีน่า

            ว่ายน้ำในโอลิมปิก 2020 ชิงชัยทั้งหมด 33 เหรียญทอง ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.-2 ส.ค.  ที่โอลิมปิก อควาติกเซนเตอร์ จะมีนักว่ายน้ำ 878 คนจากทั่วโลก ที่ได้เข้าร่วมโอลิมปิก แต่ทั้งหมดจะต้องทำเวลาให้ได้ตามเงื่อนไขที่สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) กำหนดไว้ โดยช่วงเวลาที่จะพิจารณาสถิติ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2019 – 10 มิถุนายน 2020

  1. ทำเวลาผ่านเกณฑ์คัดเลือกโอลิมปิก หรือเกณฑ์มาตรฐาน A ซึ่งถ้านักกีฬาว่ายน้ำคนไหนทำเวลาได้ดีกว่าที่กำหนดไว้ จะได้ไปโอลิมปิกแบบไม่มีเงื่อนไขทันที
  2. เวลาที่โอลิมปิกเลือก หรือเกณฑ์มาตรฐาน B นักกีฬาที่ทำเวลาผ่านเกณฑ์ B แต่ไม่ถึงเกณฑ์ A ถือว่ายังทำเวลาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีสิทธ์ลุ้นตั๋วโอลิมปิกจากสิทธิ์ไวล์ดการ์ด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องผ่านการเข้าร่วมในศึกว่ายน้ำชิงแชมป์โลก 2019 ที่เกาหลีใต้
  3. ถ้าหากประเทศใดไม่มีนักกีฬาทำเวลาผ่านเกณฑ์มาตรฐานเลย ก็มีสิทธิ์ได้รับเลือก 1 คน ถ้าหากว่าฟีน่า เห็นว่าคนๆนั้นสมควรได้เข้าร่วมการแข่งขัน

 

 

6 แคนดิเดตเงือก-ฉลามไทยลุ้นโอลิมปิก

            ว่ายน้ำชิงแชมป์โลก 2019 มีนักกีฬาว่ายน้ำไทย เข้าร่วมทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็น ชาย 3 คน กศิภัทร ช่อกระถิน , นวพรรษ วงค์เจริญ และ แอนดรูว์ เจมส์ ดิ๊กบี้ ส่วนหญิง 3 คน ณัชฐานัน จันทร์กระจ่าง , เจนจิรา ศรีสอาด และ เอมมิกา หิมะทองคำ ทำให้มีแค่ 6 คนนี้ที่มีสิทธิ์ลุ้นโอลิมปิกจากสิทธิ์ไวลด์การ์ด นอกนั้นจะต้องทำเวลาให้ผ้านเกณฑ์ A ให้ได้เท่านั้น

            อย่างไรก็ตามถ้าเจาะให้ลึกลงไปในเรื่องของสถิติ ใน 6 คนนี้มีเพียงแค่ 2 คน ที่เข้าเกณฑ์ครบทุกอย่าง 1.เจนจิรา ศรีสะอาด ที่ทำเวลาผ่านเกณฑ์ B ในท่าฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิง เวลา 25.32 วินาที มีคะแนนฟีน่าพ้อยช์ 817 คะแนน 2. นวพรรษ วงค์เจริญ ทำเวลาผ่านเกณฑ์ B ในท่าผีเสื้อ 100 เมตรชาย เวลา 1:59.80 น. คะแนนฟีน่าพ้อยช์ 789 แต้ม ส่วน ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ เป็นอีก 1 คนที่ทำเวลาผ่านเกณฑ์ B แต่ว่าเขาไม่ได้ลงแข่งว่ายน้ำชิงแชมป์โลก 2019 ดังนั้นจะไปโอลิมปิกได้ต้องทำเวลาให้ดีกว่าเกณฑ์ A เท่านั้น

 

 

เจนจิรา ศรีสอาด - นวพรรษ วงค์เจริญ คือใคร?

            ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากไม่นับรวม เงือกอุ้ม ที่สร้างความสำเร็จมาตลอด 10 กว่าปี เชื่อว่าชื่อของ ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ และ เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก คงเป็น 2 คนที่ชื่อคุ้นหูแฟนกีฬาไทยมากที่สุด เพราะทั้งคู่ช่วยกันคว้าเหรียญทองซีเกมส์ใน 2-3 ครั้งหลังสุดให้กับว่ายน้ำไทย

            แต่ว่าโอลิมปิก 2020 ชื่อของ เจนจิรา ศรีสอาดและนวพรรษ วงษ์เจริญ กลับเป็น 2 คนที่มีโอกาสได้ตั๋วโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งทั้งสองคนนี้คือใคร?

            ปัจจุบันทั้ง จอยและไวน์ สังกัดอยู่ที่สระว่ายน้ำ BEST Bangkok Swim Academy ในย่านสุขุมวิท โดยมี ไซม่อน โจน โค้ชชาวอังกฤษซึ่งเป็นอดีตผู้ฝึกสอนว่ายน้ำทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์เป็นคนคอยดูแลการฝึกซ้อม

            ใน่สวนของ “จอย” เจนจิรา ศรีสอาด เป็นผลผลิตจากสโมสรว่ายอาร์เอสซี จ.สมุทรปราการ อายุ 25 ปี ติดทีมชาติมาตั้งแต่ซีเกมส์ 2011 ที่อินโดนีเซีย ผ่านซีเกมส์ 5 ครั้ง หากนับเฉพาะประเภทเดี่ยว ยังไม่เคยได้เหรียญทอง ผลงานดีสุด 4 เงิน 2 ทองแดง เป็นสปริ้นท์เตอร์ที่จัดจ้านที่สุด ครองสถิติประเทศไทย ระยะ 50 เมตรถึง 3 จาก 4 รายการ  ฟรีสไตล์ , กบ และผีเสื้อ ตลอดปี 2019 ต้องบอกว่าเป็นปีที่ฟอร์มดีมากๆ ทำลายสถิติประเทศไทยไปถึง 6 ครั้งด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงในท่าฟรีสไตล์ ที่ทำลายสถิติประเทศไทย ในซีเกมส์ 2019 เวลา 25.32 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่ทำให้เธอมีสิทธิ์ได้ไปโอลิมปิกเป็นครั้งแรก

            ส่วน “ไวน์” นวพรรษ วงค์เจริญ ฉลามหนุ่มวัย 22 ปี เป็นเด็กหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นมาก ถนัดในท่าผีเสื้อ เป็นเจ้าของสถิติประเทศไทย ระยะ 100 และ 200 เมตร ในซีเกมส์ต้องเจอคู่แข่งอย่าง โจเซฟ สคูลลิ่ง แชมป์โอลิมปิก 2016 เขาก็ไม่เคยหวั่น ขอโฟกัสกับการทำสถิติตัวเองให้ดีขึ้นเท่านั้น

ปี 2019 เป็นนักกีฬาว่ายน้ำชายที่ฟอร์มดีที่สุด ทำลายสถิติประเทศไทยไปถึง 6 ครั้ง โดยเฉพาะในระย 100 เมตร ทำลายสถิติไปถึง 4 ครั้ง แถมฟอร์มยังแรงต่อเนื่อง เปิดปี 2020 มาแค่เดือนเดียวก็ทำลายสถิติประเทศไทย ท่าผีเสื้อระยะ 100 เมตร ซึ่งเป็นเวลาที่ทำให้เขามีสิทธิ์ได้ไปโอลิมปิกเช่นกัน

 

พิสูจน์ตัวเองอีก 4 รายการ

          เหลือเวลาคัดโอลิมปิกโอลิมปิกอีกประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ทั้ง จอยและไวน์ มีโปรแกรมที่ต้องทดสอบตัวเองกันอีก 4 รายการ เริ่มจาก ว่ายน้ำชิงแชมป์ประเทศไทย ในช่วงวันที่ 3-8 เมษายน ต่อด้วย มาเลเซีย โอเพ่น 16-19 เมษายน , สิงคโปร์ โอเพ่น วันที่ 14-17 พฤษภาคม และปิดท้ายในเดือนมิถุนายน ด้วยรายการเจแปน โอเพ่น 4-7 มิถุนายน 

          กีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาที่แข่งขันกับตัวเอง กฎเกณฑ์สถิติชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นหากจะทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงได้ ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองกับ 4 รายการที่เหลือให้ได้

 


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator

stadium olympic