6 กำปั้นหญิงแกร่ง ที่นักชกสาวไทยต้องเฝ้าระวัง

ระหว่างวันที่ 3 – 11 มีนาคม 2563 การคัดเลือกมวยสากลสมัครเล่นที่ถูกเลื่อนมาจากช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะระเบิดศึกขึ้นที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน แน่นอนว่าภารกิจของกำปั้นสาวไทยซึ่งหนนี้ได้โอกาสเข้าร่วมคัดเลือกเพื่อไปโอลิมปิกในแถบโซนเอเชีย - โอเชียเนีย คือการคว้าตั๋วให้ได้มากที่สุด หลังจากโตเกียว 2020 ประกาศให้มีการแข่งขันเพิ่มขึ้นมาอีก 2 รุ่นจาก ริโอ เกมส์ 2016 ซึ่งนักชกหญิงจากไทยก็ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันครบทั้ง 5 รุ่น แต่เส้นทางของพวกเธอคงไม่ง่าย เพราะในโซนเอเชีย – โอเชียเนีย ยังมีคู่แข่งที่น่ากลัวและเป็นตัวเต็งของแต่ละรุ่นขวางทางอยู่

ย้อนทำความเข้าใจ โควตามวยสากลสมัครเล่นหญิง 2020 

จากจำนวนทั้งหมด 5 รุ่น มีโควตาทั้งหมด 100 คน (ซึ่งเพิ่มจากริโอเกมส์ ที่มีเพียงแค่ 36 คน) ประกอบด้วย 

- รุ่น 51 กิโลกรัม หรือ รุ่นฟลายเวต มีโควตาทั้งหมด 26 คน

- รุ่น 57 กิโลกรัม หรือ รุ่นเฟเธอร์เวต มีโควตาทั้งหมด 20คน

- รุ่น 60 กิโลกรัม หรือ รุ่นไลท์เวต มีโควตาทั้งหมด 20 คน

- รุ่น 69 กิโลกรัม หรือ รุ่นเวลเตอร์เวต มีโควตาทั้งหมด18 คน

- รุ่น 75 กิโลกรัม หรือ รุ่นมิดเดิลเวต มีโควตาทั้งหมด 16 คน

ทั้งนี้ เจ้าภาพเลือกส่งได้ไม่เกิน 2 คน จากรุ่น 51 /57 /60และ 69 กิโลกรัม 

ส่วนชาติรับเชิญ หรือ ไวน์การ์ด จะมี 3 คน โดยคณะกรรมการจดัการแข่งขนัจะมอบให้ชาติตา่งๆ ในรุ่น 51 กิโลกรัม 1 คน รุ่น 57 กิโลกรัม 1 คน และรุ่น 60 กิโลกรัม 1 คน

มาดูโควตาเฉพาะการแข่งขันคัดเลือกโซนเอเชีย – โอเชียเนียกันบ้าง

         โอกาสของนักชกหญิงไทยนั้นมี 2 เวทีด้วยกัน นั่นคือ 1. การแข่งขันโซนเอเชีย - โอเชียเนีย ที่เริ่มแล้วและหากพลาดหวังก็สามาถร่วมแข่งขันรอบคัดเลือกครั้งสุดท้าย ในระดับโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามคงเป็นเรื่องที่ดีเพราะ โควตาจากการแข่งขันคัดเลือกทวีป ก็ให้สิทธิ์ถึง 22 ที่นั่งด้วยกันได้แก่

- รุ่น 51 กิโลกรัม หรือ รุ่นฟลายเวต มีโควตาทั้งหมด 6 คน

- รุ่น 57 กิโลกรัม หรือ รุ่นเฟเธอร์เวต มีโควตาทั้งหมด 4 คน

- รุ่น 60 กิโลกรัม หรือ รุ่นไลท์เวต มีโควตาทั้งหมด 4 คน

- รุ่น 69 กิโลกรัม หรือ รุ่นเวลเตอร์เวต มีโควตาทั้งหมด 4 คน

- รุ่น 75 กิโลกรัม หรือ รุ่นมิดเดิลเวต มีโควตาทั้งหมด 4 คน

          จากเงื่อนไขที่กำหนดส่งผลให้ขอแค่นักชกสาวไทยทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ ก็จะการันตีตั๋วไปโอลิมปิก 2020 ทันที ยกเว้นเพียงแต่รุ่น 51 กิโลกรัม ที่มี 6 ที่นั่ง ซึ่งผู้แพ้ในรอบก่อนรองชนะเลิศต่อแชมป์และรองแชมป์ ก็จะสามารถคว้าสิทธิ์ขึ้นชกที่โตเกียวได้ด้วยเช่นกัน

นักมวยสากลสมัครเล่นหญิงไทย ที่ร่วมชิงชัยที่จอร์แดน

         สำหรับนักมวยสากลสมัครเล่นหญิงไทย ที่จะร่วมคัดเลือกในการแข่งขันที่จอร์แดน มีทั้งหมด 5 คน

ประกอบไปด้วย

รุ่น 51 กก. หรือ รุ่นฟลายเวต               จุฑามาศ จิตรพงษ์   

รุ่น 57 กก. หรือ รุ่นเฟเธอร์เวต             นิลาวัลย์ เตชะสืบ           

รุ่น 60 กก. หรือ รุ่นไลท์เวต                  สุดาพร สีสอนดี           

รุ่น 69 กก. หรือ รุ่นเวลเตอร์เวต            ใบสน มณีก้อน             

รุ่น 75 กก. หรือ รุ่นมิดเดิ้ลเวต              พรนิภา ชูศรี      

ซึ่งทั้งหมดคือความหวังของขุนพลเสื้อกล้ามไทยในเวทีโอลิมปิกเกมส์ 2020 อย่างไรก็ตามแต่ละคนอาจจะต้องเจองานที่ยากพอสมควรเพราะคู่แข่งร่วมสายก็มีผลงานและดีกรีที่ไม่ธรรมดาเลย มาไล่ดูว่าแต่ละรุ่นมีใครและมีโอกาสที่เจอกับนักชกคนไหนของไทยบ้าง

หลี่ เชี่ยน 

นักชกจากสาธารณรัฐประชาชนจีนคือเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 รุ่น มิดเดิลเวต รวมทั้งยังเคยคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018 และ เพิ่งคว้าแชมป์ชิงแชมป์เอเชียที่ไทย ในรุ่นดังกล่าวมาแล้วด้วย โดยที่จอร์แดน เธอมีโอกาสปะทะกับ พรนิภา ชูศรี

ลอฟลิน่า บอร์โกเฮน

นักมวยหญิงชาวอินเดีย ซึ่งเคยคว้า 2 เหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก ในรุ่นเวลเตอร์เวต รวมถึงเหรียญทองแดงในศึกชิงแชมป์เอเชียปี 2017 มีโอกาสต้องเจอกับ ใบสน มณีก้อนของไทย

เนสตี้ เปเตซิโอ้ 

นักมวยฟิลิปปินส์ ซึ่งพึ่งสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าเหรียญทองชิงแชมป์โลก 2019 รุ่นเฟเธอร์เวต รวมถึงแชมป์มวยสากลสมัครเล่นซีเกมส์ 2019 โดยเนสตี้ ถือเป็นเต็งจ๋าในรุ่นนี้ และมีโอกาสปะทะ นิลาวัลย์ เตชะสืบ

หวง เฉา เว่ย

ยอดนักชกจากไต้หวัน เจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์โลก 2019 และ รองแชมป์มวยสากลชิงแชมป์เอเชียหญิง

ที่ประเทศไทยในรุ่นแบนตั้มเวต ซึ่งลดน้ำหนักลงมาลุ้นโควตารุ่นเดียวกับ จุฑามาศ จิตรพงษ์ 

อันย่า สตริดแมน 

นักสู้สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเกิดในประเทศสวีเดน เป็นเจ้าของเหรียญทองคอมมอนเวลซ์ เกมส์ 2018 ในรุ่นไลท์เวต และล่าสุดเพิ่งมาคว้าแชมป์รายการไทยแลนด์โอเพ่นอีกด้วย มีโอกาสปะทะ สุดาพร สีสอนดี

แมรี่ คอม

นักชกจอมเก๋าจากอินเดีย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2012 รุ่น ฟลายเวต และเป็นตำนานผู้กวาด 8 เหรียญทองศึกชิงแชมป์โลก ได้ถูกจับตาว่าเป็นม้ามืดในครั้งนี้ ซึ่งมีโอกาสปะทะ จุฑามาศ จิตรพงษ์ อีกคน