stadium

World Cup กับ โอกาสของ "ทีมชาติไทย"

24 ตุลาคม 2566

World Cup กับ โอกาสของ "ทีมชาติไทย"

 

ถือเป็นรูปแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติ หรือ "ฟุตบอลโลก 2026" ศึกลูกหนังที่ทั่วโลกรอคอย โดยครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นบนทวีปอเมริกาเหนือ ใน 16 เมือง จากการเป็นเจ้าภาพร่วมกัน 3 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ถือเป็นรูปเเบบการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุด และเเข่งขันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

 

เดิมทีศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จะมี 32 ทีม จากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขัน แต่ใน ฟุตบอลโลก 2026 ได้มีการปรับเพิ่มจำนวนทีมเป็น 48 ทีม นั่นหมายความว่าในแต่ละทวีปจะมีโควตาเพิ่มขึ้น และสำหรับโซนเอเชีย จากเดิมที่มีเพียง 4 ทีมครึ่ง ก็ถูกปรับเป็น 8 ทีมครึ่ง หรือเพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งหากพูดกันตามตรงคือโอกาสของทุกๆทีมในเอเชียมีมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจนถึงขั้นที่ว่าหลายๆชาติพร้อมเทหมดหน้าตัก เพื่อการได้ไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นหนแรก รวมถึง ทีมชาติไทย ก็เช่นกัน

 

และในเมื่อโอกาสของแต่ละทีมมีมากขึ้นจากโควตาโซนเอเชีย 8 ทีมครึ่ง วันนี้เรามาดูกันว่า "โอกาส" ที่มีมากขึ้นนั้น "ทีมชาติไทย" จะต้องฝ่าด่านอรหันต์กี่ด่าน ถึงจะได้เป็นหนึ่งใน 8 ทีมครึ่งจากโซนเอเชีย ในศึกฟุตบอลโลก 2026

 

รอบคัดเลือก รอบสอง : ในรอบนี้มีจำนวน 36 ทีม โดย "ทีมชาติไทย" อยู่ในรอบนี้ตั้งแต่แรก เนื่องจาก 25 ทีมแรกที่อยู่ในรอบนี้ มาจากทีมที่มีอันดับใน "FIFA Rangking" อันดับ 1 ถึง 25 ของเอเชีย ซึ่งทีมชาติไทย อยู่ในอันดับที่ 21 และจะไปรวมกับอีก 11 ทีม ที่มาจากรอบคัดเลือก รอบแรก (แข่งขันเสร็จสิ้นไปแล้ว) รวมเป็น 36 ทีม และทั้ง 36 ทีม จะถูกแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม

 

  • ทีมชาติไทย อยู่ใน กลุ่มซี ประกอบด้วย เกาหลีใต้, จีน, ไทย และ สิงคโปร์

 

โดยแต่ละทีมในกลุ่มจะแข่งขันแบบเหย้าและเยือน ทีมแชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม จาก 9 กลุ่ม รวมเป็น 18 ทีม จะผ่านเข้าสู่ "รอบคัดเลือก รอบสาม" (พร้อมสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่น เอเชียน คัพ 2027 รอบสุดท้าย) ในขณะที่ทีมอันดับสาม และ สี่ จะหมดสิทธิ์ในการไปฟุตบอลโลกครั้งนี้ทันที! (แถมยังต้องไปแข่งขัน เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก อีกด้วย)

 

เพราะฉะนั้น ทางเดียวที่ทีมชาติไทยจะได้ลุ้นไปฟุตบอลโลกต่อ คือต้องจบการแข่งขันในรอบนี้ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม หรือ รองแชมป์กลุ่ม ให้ได้สถานเดียว

 

 

รอบคัดเลือก รอบสาม : ทั้ง 18 ทีม ที่ผ่านมาจากรอบคัดเลือก รอบสอง จะเข้าสู่ "รอบคัดเลือก รอบสาม" โดยในรอบนี้ถือเป็นรอบที่สำคัญที่สุดในการล่าตั๋วไปฟุตบอลโลกเลยก็ว่าได้ เพราะ 18 ทีมในรอบนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งขันกันแบบเหย้าและเยือน (รวมแล้วแต่ละทีมจะแข่งขันในรอบนี้ทีมละ 10 นัด) ทีมแชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม จาก 3 กลุ่ม รวมเป็น 6 ทีม จะได้สิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2026 ทันที!

 

นั่นเท่ากับว่าหลังจบการแข่งขัน "รอบคัดเลือก รอบสาม" โซนเอเชีย จะได้โควตาไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 แล้วทั้งสิ้น 6 ทีม ยังเหลือโควตาว่างอีก 2 ทีมครึ่ง ที่ยังต้องแข่งขันกันต่อในรอบเพลย์ออฟ (Playoff)

 

รอบเพลย์ออฟ : ในรอบนี้จะนำเอา ทีมอันดับสาม และอันดับสี่ จากทั้ง 3 กลุ่ม ใน "รอบคัดเลือก รอบสาม" รวมเป็น 6 ทีม มาจับสลากแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม เพื่อแข่งขันกันในกลุ่มแบบนัดเดียว ทีมแชมป์กลุ่ม จากทั้ง 2 กลุ่ม รวมเป็น 2 ทีม จะได้สิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2026 ทันที!

 

หลังจบรอบเพลย์ออฟ จะเห็นได้ว่า โควตาของโซนเอเชียที่จะได้ไปฟุตบอลโลก 2026 ถูกจองไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 8 ทีม คือ แชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม จาก รอบคัดเลือก รอบสาม จำนวน 6 ทีม และ แชมป์กลุ่ม จากรอบเพลย์ออฟ อีก 2 ทีม ยังเหลืออีก "ครึ่งโควตา" จาก 8 ทีมครึ่ง ที่ยังต้องแข่งขันต่อเพื่อลุ้นเป็นโควตาสุดท้ายของโซนเอเชีย

 

 

"ครึ่งโควตา" ที่เหลือ คือ ทีมอันดับสอง จากทั้ง 2 กลุ่ม ในรอบเพลย์ออฟ จะต้องมาแข่งขันกัน เพื่อหาผู้ชนะ เพื่อเป็นตัวแทนของโซนเอเชีย ไปแข่งขันกับตัวแทนจากทวีปอื่นในรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป (Intercontinental Playoff)

 

รอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป : จะเป็นการแข่งขันกับตัวแทนแต่ละทวีปรวม 6 ทีม ประกอบด้วย เอเชีย, แอฟริกา, อเมริกาใต้, โอเชียเนีย และอีก 2 ทีมจาก โซนคอนคาเคฟ (อเมริกาเหนือ) โดยจะมีการจัดอันดับตาม FIFA Rangking ซึ่ง 4 ทีม ที่มีอันดับต่ำสุด จะถูกประกบคู่แข่งขันแบบสองนัด ผู้ชนะจำนวน 2 ทีม จะผ่านเข้าไปพบกับทีมวางอีก 2 ทีม ที่มีอันดับใน FIFA Rangking สูงสุด เพื่อหา 2 ทีมสุดท้าย คว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026

 

จะเห็นได้ว่าแม้โควตาโซนเอเชียมีมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ทำให้โอกาสของทุกๆทีมมีมากขึ้นไปพร้อมกัน ที่สำคัญตลอดเส้นทางการไปฟุตบอลโลกของทีมชาติไทย จะต้องพบกับทีมหัวแถวของเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เสียงเชียร์และกำลังใจเท่านั้น ที่พวกเรา "ช้างศึกเบอร์ 12" จะสามารถร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของทัพช้างศึก ในภารกิจล่าตั๋วฟุตบอลโลก 2026

 

16 พฤศจิกายนนี้ กับนัดแรกในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ทีมชาติไทย พบ สาธารณะรัฐประชาชนจีน เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32

 

มาร่วมเชียร์ทีมชาติไทย ให้กระหึ่มสนามราชมังฯ ไปด้วยกัน!

 

ซื้อบัตรได้ที่  https://bit.ly/3Q9Vqyh


stadium

author

Ice Assist

เพราะในโลกนี้ ไม่มีอะไรเท่ไปกว่า "ฟุตบอล"