3 เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับวงการกีฬาไทย

ในปี 2024 วงการกีฬาไทยยังมีหลายเรื่องราวที่น่าสนใจที่น่าติดตามกันตลอดทั้งปี ซึ่งในวันนี้เราคัดมาเน้นๆ 3 เรื่อง ที่มีสิทธิ์เกิดแล้วเป็นประวัติศาสตร์

ลุ้น “เทนนิส” พาณิภัค เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 3 สมัย

ในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยมีนักกีฬาไทยเพียง 4 คนเท่านั้นที่คว้าเหรียญรางวัลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้ 2 สมัย ประกอบด้วย มนัส บุญจำนงค์  2004-2008 จากมวยสากล 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน, วันดี คำเอี่ยม 2004-2008 ได้ 2 เหรียญทองแดงจากยกน้ำหนัก, พิมศิริ ศิริแก้ว 2 เหรียญเงินจากกีฬายกน้ำหนักในปี 2012-2016 และพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง จากเทควันโด ปี 2016-2020 

แต่ในปัจจุบัน “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เป็นนักกีฬาเพียงคนเดียวจากทั้งหมด 4 คนที่กล่าวมา ที่ยังคงความเป็นนักกีฬาอยู่ ส่วนนอกนั้นอีก 3 คนต่างก็เลิกเล่นและผันตัวไปเป็นผู้ฝึกสอนกันหลายปีแล้ว และเมื่อดูจากผลงานตลอดปี 2023 “เทนนิส“ ที่กำลังจะอำลาทีมชาติไทยหลังจบโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ยังคงมีฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงคว้าแชมป์ไป 6 รายการ และจบปีด้วยการครองมือ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก.หญิง 

จากความไร้เทียมทานในขณะนี้ ทำให้ในปารีส 2024 เธอยังคงเป็นเต็ง 1 ที่มีโอกาสจะคว้าเหรียญทองรางวัลติดมือได้อีกครั้ง ซึ่งถ้าหากทำได้สำเร็จจริง จะทำให้เธออำลาทีมชาติไทยได้อย่างสวยงาม ด้วยการเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ได้ 3 สมัย

ลุ้นชนิดกีฬาที่ 4 ของไทยคว้าเหรียญโอลิมปิก

ยังอยู่กันในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจากอดีตจนถึงปัจจุบันนักกีฬาไทยทำผลงานคว้าไปแล้ว 10 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง รวมเป็นจำนวน 25 เหรียญ ทั้งหมดนี้เกิดจากผลงานของ 3 ชนิดกีฬาเท่านั้น มวยสากล ยกน้ำหนัก และเทควันโด

อย่างไรก็ตามจากความพยายามพัฒนานักกีฬาของทุกสมาคมฯ ทำให้ในช่วงหลัง ๆ มีบางชนิดกีฬาที่เริ่มขยับขึ้นมามีลุ้นเหรียญรางวัลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแบดมินตันที่แม้ว่าจะทำได้เพียงแค่ใกล้เคียงมาตลอด แต่ก็ยังมีนักกีฬาที่เติบโตขึ้นมาให้ได้ลุ้นกันทุกครั้ง ซึ่งในปีปารีส 2024 แน่นอนว่าแบดมินตันยังคงเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้เป็นครั้งแรก 

ความหวังอยู่ที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แชมป์โลกชายเดี่ยวคนล่าสุด รวมถึง "บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่หูแร็กทอง แม้ว่าผลงานจะดรอปลงมา แต่ก็ยังคงเป็นคู่ที่ดีที่สุดของไทยและมีแชมป์ติดมือในปี 2023

นอกจากนี้กอล์ฟยังคงเป็นอีกชนิดกีฬาที่ไทยเรามีลุ้นเช่นกัน จาก 2 โปรสาวไทยซึ่งคนที่มีคะแนนติดโควตาโอลิมปิกอยู่ในตอนนี้คือ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล และ "โปรพราว" ชเนตตี วรรณแสน โดยรายแรกนั้นในฤดูกาล 2023 แม้ว่าจะไม่มีแชมป์ติดมือเลยสักรายการ ผลงานดีสุดคือการคว้าอันดับ 2 แต่โปรจีนยังคงเป็นนักกอล์ฟหญิงที่มีผลงานดีสุดในแอลพีจีเอ จากการจบท็อปเทนมากที่สุดและมีค่าเฉลี่ยในการตีดีที่สุดของทัวร์ ส่วนโปรพราวเพิ่งแจ้งเกิดจากการคว้าแชมป์แอลพีจีเอได้เป็นครั้งแรก และเป็นโปรสาวไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์กอล์ฟระดับแอลพีจีเอมาครอง

น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมากว่าทั้งแบดมินตันและกอล์ฟจะถึงเวลาปลดล็อกความสำเร็จในโอลิมปิมเกมส์แล้วหรือยัง หรือว่าจะมีชนิดกีฬาใดที่จะสอดแทรกขึ้นมาได้ น่าติดตามจริง ๆ สำหรับโอลิมปิก 2024

เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับ 1 ที่ได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาและสื่อมวลที่เฝ้าจับตามองการบริหารกันแบบตาไม่กระพริบ ซึ่งในปี 2024 วงการฟุตบอลไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นก็คือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 หลังจากที่ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนปัจจุบันพร้อมคณะกรรมการประกาศลงจากตำแหน่งในวันดังกล่าว หลังทำหน้าที่มาแล้ว 2 สมัย 

ซึ่งท่ามกลางมรสุมต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ เพราะผู้นำคนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงานในช่วงมีนาคมเป็นต้นไปนั้น มีภารกิจสำคัญในระยะสั้นวางแผนเตรียมทีมชาติไทยลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 รวมถึงการเร่งสร้างมูลค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกให้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ส่วนในระยะยาวคือการเดินหน้าต่อยอดฟุตบอลระดับเยาวชนและส่งออกไปค้าแข้งในต่างประเทศให้ได้มากขึ้น ซึ่งพื้นฐานสำคัญในสร้างขุมกำลังทีมชาติไทยให้แข็งแกร่ง