stadium

"ตาต้า" ชุติทัศน์ พฤกษ์สรนันทน์ ดาวดวงใหม่กรีฑาไทย

20 ธันวาคม 2566

10.70 วินาที คือ สถิติที่ดีที่สุดในการวิ่ง 100 เมตรของ "ตาต้า" ชุติทัศน์ พฤกษ์สรนันทน์ ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่ที่มีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

 

จากก้าวแรกในการติดทีมชาติไทยชุดยุวชน ที่อุซเบกิสถาน สู่การติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกที่ไต้หวันโอเพ่น และกลับมาทำสถิติที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้สำเร็จ นี่คือเรื่องราวของ ตาต้า เด็กชายผู้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สู่เส้นทางนักวิ่งทีมชาติไทย

 

 

ดาวรุ่งจากสาธิตพิบูลบำเพ็ญฯ

 

ตาต้าเริ่มเส้นทางนักวิ่งของตัวเองตั้งแต่อายุ 11 ปี จากการเข้าชมรมวิ่ง โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญมหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี จากคำแนะนำของอาจารย์ ขวัญตา บุญจันทร์ พาเขามาพบกับโค้ชของทีมโรงเรียน คือ อาจารย์มุรธา นามพลกรัง และอาจารย์จิรศักดิ์ สืบสากล นำทางเข้าสู่การแข่งกีฬาสาธิตสามัคคี

 

"อ.ขวัญตามาชวนไปเข้าชมรมวิ่ง เขาเห็นผมตอนวิ่งเล่น ก็เริ่มจากวิ่งระยะสั้น 60 เมตรได้เจอกับโค้ช อาจารย์มุรธากับอาจารย์จิรศักดิ์ สนุกตั้งแต่เริ่มต้น ได้วิ่งกับเพื่อน ก็ซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวัน พอซ้อมได้ 6 เดือนก็ไปแข่งกีฬาสาธิตสามัคคี ลงแข่ง 100 เมตร ได้เหรียญเงิน"

 

ตาต้าเล่าว่า หลังแข่งจบเขาร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ จากการคาดหวังและตั้งใจมากในการซ้อม "ก็ห่างจากที่ 1 ไม่เยอะแพ้รุ่นพี่ป.6 ตอนนั้นผม ป.5 หลังจากนั้นก็กลับมาตั้งใจซ้อมมากขึ้นอีก"

 

ช่วงเวลานั้นตาต้าลงแข่งกรีฑาประเภทอื่นไปด้วย ทั้งการกระโดดไกล และวิ่งข้ามรั้ว แต่ชอบการวิ่ง 100 เมตรมากกว่า เพราะรู้สึกสนุกกว่า ซึ่งครอบครัวเองก็สนับสนุนมาตั้งแต่แรก บวกกับความสนิทสนนและทุ่มเทละหว่างนักเรียนและอาจารย์ทำให้พัฒนาแบบต่อเนื่อง

 

อาจารย์มุรธา ซึ่งดูแลตาต้ามาตั้งแต่แรกในฐานะโค้ช เล่าว่า หลังจากซ้อมด้วยกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ ป.4 จนเข้า ม.1 ตาต้าก็เลิกวิ่งไป แต่ตัวอาจารย์มุรธายังเห็นว่า ตาต้ามีพรสวรรค์และควรไปต่อ จึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดึงให้ตาต้ากลับมา

 

"จนม.1 เขาเลิกเล่นไป เป็นจุดผกผันเลย เพราะติดเพื่อน ตอนนั้นผมเสียใจอยู่เหมือนกัน พ่อแม่เขาก็ไม่สบายใจ ผมก็เลย ช่วงนั้นเขาไปเล่นกีฬาอะไรผมก็ตามไปเล่นด้วย ทั้งปิงปอง ทั้งบาสฯ จนวันนึงผมก็คุยกับเขา บอกเขาว่าผมเห็นว่าเขามีฝีมือจริง ๆ แววตาเขามันฟ้องเลยว่าคิดยังไง ผมมองแล้วรู้คำตอบทันที แล้วเขาก็กลับมา" อาจารย์มุรธาเล่า

 

 

สู่สถิติ 100 เมตร ต่ำกว่า 11 วินาที

 

หลังกลับมาซ้อมได้ไม่นานก็เกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นอุปสรรคสำคัญของตาต้า แต่ด้วยความมุ่งมั่น แม้ในพื้นที่จำกัดก็ตีกรอบความตั้งใจไม่ได้ "2 ปีเต็ม ๆ ช่วงนั้นก็ไปเล่นเกม (หัวเราะ) ไม่ได้แข่งเลย ก็ขี้เกียจมาก โค้ชก็ถามตลอดตามให้ซ้อมตลอด เพราะเขาอยากให้วิ่งต่อไป ไม่อยากให้เลิก" ซึ่งอาจารย์มุรธา ใช้วิธีส่งโปรแกรมซ้อมออนไลน์ ให้ตาต้าซ้อมแบบตาราง 9 ช่อง ในพื้นที่จำกัดของคอนโดฯ

 

เมื่อได้กลับมาแข่งอีกครั้ง สถิติของตาต้าก็ยังไม่ดีขึ้น ลงแข่งจันทบุรีโอเพ่นปี 65 แพ้หมดทั้ง 7 รายการ อาจารย์มุรธาบอกว่า ณ เวลานั้นเขายังเชื่อว่าตาต้าจะกลับมาได้ เขาจะสู้ต่อ และพัฒนาอีก

 

ซึ่งตาต้าก็บอกว่า "ตอนนั้นทำให้อยากกลับมาซ้อมให้หนักกว่าเดิม จนทำสถิติใหม่ระยะ 100 เมตรได้ 11.40 วินาที เป็นงานสาธิตอีกรอบ รู้สึกตกใจ เพราะเวลาลดเยอะจาก 12-13 วิฯ โค้ชก็ดีใจเพราะคิดว่ามาถูกทางแล้ว ตอนนั้นเลยหันมาวิ่งระยะสั้นอย่างเดียว"

 

รายการแข่งต่อมาคือชิงแชมป์ประเทศไทย ช่วงปลายปีเดียวกัน ตาต้ากลับมาพร้อมความมั่นใจที่มากขึ้นและทำผลงานได้ดี จนถึงช่วงสำคัญคัดตัวนักกีฬาซีเกมส์ต้นปี 2566 ทำสถิติใหม่ได้อีกครั้งที่ 10.90 นาที จนสมาคมกีฬากรีฑาฯ เห็นแววและเรียกไปทดสอบ

 

อาจารย์มุรธาบอกว่า "สมาคมก็ขอชื่อไป เพราะเขาอยากได้สปรินเตอร์ ก็เลยไปคัดซีเกมส์แล้วได้ที่ 2 คัด 2 รอบ รอบที่ 2 ก็ชนะ ก็ได้มาเทสต์อีก ผมขับรถมาจากชลบุรีพาเขามาตลอด จนได้ไปเอเชียนยูธ ที่อุซเบกิสถาน"

 

 

ก้าวแรกในฐานะทีมผลัดทีมชาติไทย

 

ด้วยผลงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องอยู่ในระดับที่แข่งขันแบบนานาชาติได้ ก.พ. 2566 ตาต้าจึงได้เริ่มเข้ามาเก็บตัวกับสมาคมฯ เพื่อแข่งขันระดับยุวชนที่อุซเบกิสถาน รายการกรีฑายุวชน ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ร่วมทีมผลัดเมดเลย์ ในฐานะไม้ผลัดแรก วิ่ง 100 เมตร กับวีรยุทธ แดนขนบ, ณัฐพล สุขเกษม และศราวุฒิ นวลศรี 

 

"ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเลย ต้องโฟกัสอย่างเดียว สุดท้ายออกบล็อกได้ดี ได้เหรียญทองกลับมา พ่อแม่ดูไลฟ์อยู่ที่บ้านก็ภูมิใจมาก" ตาต้าเล่า

 

ส่วนอาจารย์มุรธาที่ติดตามอยู่ที่เมืองไทย เล่าความรู้สึกว่าดีใจมากเช่นกัน "โค้ชคือนั่งกอดกัน รู้สึกเหมือนไปอยู่ตรงนั้นด้วยเลย ก่อนแข่งเขาบอกผมว่า จะเอาเหรียญมาฝาก แต่ไม่รู้เหรียญอะไรนะ จนกลายเป็นเซอร์ไพรส์ เพราะเราชนะเต็ง 1 อินเดียได้ แล้วทำสถิติรายการด้วย (สถิติ 1:52:59 นาที)"

 

จากอุซเบกิสถานสู่ไต้หวันโอเพ่น โชคชะตานำพาให้ตาต้าได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก เพราะโอ๊ต ธวัชชัย หีมเอียด บาดเจ็บ ตอนนั้นตาต้าในฐานะตัวสำรองจึงได้ลงสนามจริงร่วมกับ ก๊วย ชยุตม์, มอส บัณฑิต และไฟท์เตอร์ ณฐวรรธ

 

"เป็น 4x100 ทีมบี ลงเป็นไม้ 4 ผมกดดันนะ เพราะไม่คิดว่าจะได้ลง ก็ได้เหรียญเงินกลับมาก็ดีใจมาก แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองมาไกลไหม มาไกลหรือยัง แต่คิดว่าอยากทำสถิติให้ดีขึ้นมากกว่าครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ทำได้ที่ 10.80 วินาที"

 

 

ทุ่มเทเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม

 

ช่วงเวลา 5 ปี จากก้าวแรก สู่ปัจจุบัน ตาต้ายังคงมีเป้าหมายเรื่องการพัฒนาสถิติ "อยากซ้อมต่อไป อยากทำให้ดีที่สุดไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้จะไปสุดที่ไหน แต่ก็จะเต็มที่" ตาต้ายอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ แต่เขาก็ไม่หยุดที่จะฝันและทุ่มเทต่อไป

 

อาจารย์มุรธาที่เชื่อมั่นและผลักดันตาต้ามาตลอด ย้ำว่า "รู้สึกคอมพลีตมากที่ผลักดันตาต้ามาจนถึงจุดนี้ได้ จากคนที่เคยคิดว่าตัวเองช้าที่สุด แต่ผมเชื่อเสมอว่าเขาทำได้ แล้วเขาก็ทำได้จริงๆ ผมทำถูกทางแล้ว จนพาเขามาได้ไกลขนาดนี้ การขับรถพาเขามาจากชลบุรีวันนั้น คือจุดเปลี่ยนชีวิตจริงๆ" 

 

จาก 2 ความฝันของนักเรียนและอาจารย์ สู่ 1 เป้าหมายที่กำลังก้าวเดินด้วยความทุ่มเท ด้วยความเชื่อมั่นที่แน่วแน่ แม้ต้องเผชิญอุปสรรคแต่ก็สามารถเอาชนะได้ในที่สุด ตาต้าทิ้งท้ายว่า เขาจะทุ่มเทและเดินหน้าทำตามความฝันต่อไป แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ก็จะทำอย่างเต็มที่ที่สุด

 

"ตอนซ้อมก็เหนื่อยมาก แต่พอแข่งได้รางวัลก็ภูมิใจ ยิ่งซ้อมมากก็ได้มาก ทุกอย่างอยู่ที่เรา ผมก็เลยตั้งใจ อยากตั้งใจเพราะไม่อยากเสียใจทีหลังที่ไม่ทำให้เต็มที่ คำว่าทีมชาติมันยิ่งใหญ่มากสำหรับผม ก่อนหน้านี้มันเคยยิ่งใหญ่มากเกินไป เพราะไม่เคยคิดว่าจะมาถึงได้ ซึ่งผมก็ยังอยากพัฒนาอีก อยากไปซีเกมส์สักครั้ง แต่จะค่อยๆ ก้าวไปทีละสเต็ปครับ"

 

จากเด็กที่เคยออกนอกเส้นทาง ก่อนกลับมาอยู่ในลู่อีกครั้ง ตาต้า พัฒนาความสามารถของตัวเองจนเป็นที่น่าจับตามอง ทั้งในรายการกรีฑาดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิกที่ทำสถิติวิ่ง 100 ม. ในเวลา 10.70 วินาที และในกีฬาสาธิตสามัคคีที่เจ้าตัวทำสถิติวิ่ง 200 ม. ในเวลา 21.85 วินาที เชื่อได้เลยว่าชื่อของ "ตาต้า" ชุติทัศน์ พฤกษ์สรนันทน์ จะเป็นหนึ่งในความหวังของกรีฑาไทยในอนาคตอย่างแน่นอน


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

La Vie en Rose