15 ธันวาคม 2566
บนโพเดียมมอบรางวัลการแข่งขันเดินทน กีฬาแห่งชาติ กาญจนบุรีเกมส์ ด้านขวาสุดคือ "อาร์ต" ธีระศักดิ์ เฉลียวพงษ์ จากทีมกรุงเทพมหานคร ในวัยย่าง 49 ปี นี่คือนักกรีฑาที่อายุมากที่สุดที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้ โดยได้รับเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเดินทน 20 กิโลเมตร
หากย้อนกลับไปชายร่างเล็กคนนี้ ออกเดินทางตามล่าความฝันของตัวเอง ณ สนามแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยการเดินตามความฝันของพี่อาร์ตเริ่มต้นเมื่อเขาอายุ 40 ปี
เริ่มต้นทำตามความฝันในวัย 40
อ.ศักดิ์ชาย สมุทรเก่า อดีตนักเดินทนทีมชาติไทย ซึ่งติดทีมชาติในวัย 43 ปี คือผู้จุดประกายความฝันที่พี่อาร์ต ธีระศักดิ์ เก็บใส่ลิ้นชักไปแล้ว เพราะคิดเอาเองว่ามันเป็นแค่ฝันวัยเด็ก ที่อยากเข้าแข่งขันกีฬาแห่งชาติ อยากเดินพาเหรดในสนามกีฬา ที่ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด เป็นรายการแข่งแห่งประเทศไทยที่ยิ่งใหญ่มากในสมัยนั้น
พี่อาร์ตเองเป็นนักวิ่งระยะสั้นร้อยเมตรมาตั้งแต่เด็ก แต่ชีวิตในบ้านนอกไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝัน การจะเป็นนักกีฬาแต่ไม่มีใครสนับสนุนในยุค 30 ปีก่อน เป็นเรื่องไกลเกินฝันของเด็กยุคนั้น เขาจึงทำได้แค่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และความสนุก โดยเก็บความฝันวัยเด็กของตัวเองเอาไว้ในลิ้นชักของความทรงจำ
กระทั่งเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน จากเด็กอุบลราชธานี ได้ย้ายมากรุงเทพ พี่อาร์ตได้รู้จักกับสนามเทพหัสดิน สนามกีฬาที่รวมคนเก่งไว้มากมาย รวมถึง พี่ติ๋ม ธนภรณ์ อัศววงศ์เจริญ อดีตนักเดินทนทีมชาติไทย "สมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลเลย เราเข้ามาที่สนามเทพ แล้วเจอพี่ติ๋มเขากำลังซ้อมเดิน เห็นท่าเดินสวยมาก เป็นแรงบันดาลใจ ก็ไปลองเดินตามเค้า"
ในตอนนั้นพี่อาร์ตอายุใกล้เข้า 40 ปีแล้ว แต่การได้ลองซ้อมเดินทนกับนักกีฬาตัวจริง ทำให้เขาหวนนึกถึงความฝันวัยเด็กที่อยากแข่งกีฬาแห่งชาติ บวกกับพี่ติ๋ม ธนภรณ์ ก็ชักชวนให้เขาตั้งใจซ้อม พัฒนาตัวเอง แล้วลองส่งชื่อไปแข่งให้อุบลราชธานี บ้านเกิด
"แรกๆ เดินตามพี่ติ๋ม ผิดบ้างถูกบ้าง ดูท่าทางเขา ทำให้เหมือนเขา ได้รู้เทคนิกกติกา พี่ติ๋มบอกว่าถ้าชอบจริงๆ ให้ลองทำให้เต็มที่ แล้วมาเล่นกีฬาแห่งชาติ พี่ก็ซ้อมไป ตอนนั้นก็วิ่งด้วยสลับเดิน แข่งวิ่งถนนบ้าง แต่ตั้งใจเลยว่าอยากเดินทนให้บ้านเกิด อุบลฯ สักครั้ง"
กีฬาแห่งชาติครั้งแรกในชีวิต
สิบปีก่อนโซเชียลยังไม่แพร่หลาย การจะติดต่อขอคัดตัวหรือดำเนินการอะไร จะต้องใช้โทรศัพท์เป็นหลัก หรือนั่งรถไปเจอตัวจริงเท่านั้น พี่อาร์ตที่ซ้อมเดินมาถึงจุดที่คิดว่า ตัวเองพอจะแข่งขันได้ ก็เริ่มหาช่องทางเพื่อได้แข่งให้จังหวัดอุบลราชธานี
"กว่าจะสมัครได้ กว่าจะเจอคนที่เกี่ยวข้อง กว่าจะได้ไปคัดตัว ตอนนั้น ตื๊อจนได้แข่ง ยังจำได้ว่าคัดที่สนามศรีณรงค์ เดินทางไปคนเดียว เอาเต็นท์ไปกางนอนในสนาม ไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้จักใครเลย มาแบบมุ่งมั่นอย่างเดียว" แล้วความฝันของพี่อาร์ตก็เป็นจริงจากการคัดตัวกีฬาแห่งชาติในปีนั้น
"คัดได้ที่ 1 ของภาคอีสานเลย 20 กว่าจังหวัด เป็นหน้าใหม่ ม้ามืด อายุ 40 ที่วิ่งชนะเด็ก ๆ ดีใจมากแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำคนเดียว เพราะตั้งใจจริง ๆ อยากแข่ง ตอนทำงานก็หางานที่ใกล้สนามที่สุดจะได้มีเวลาซ้อม ทุ่มเทมาก ๆ ซ้อมอยู่ 2 เกือบ 3 ปี กว่าจะได้คัด พอชนะก็เอาเหรียญคล้องคอขึ้นรถลงเรือ ใส่ไว้ตลอดเวลา ภูมิใจมาก เราอายุขนาดนี้ ชนะเด็ก ๆ ได้ คิดว่า เราทำได้แล้ว"
วันลงสนาม ณ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 43 ที่นครราชสีมา พี่อาร์ตสวมเสื้อทีมอุบลราชธานี ลงแข่งด้วยความตื้นตันและมั่นใจ "ตอนไปแข่งจริงๆ ก็ตื้นตันมาก ดีใจแบบบอกไม่ถูก จากเด็กบ้านนอกที่เคยใฝ่ฝันแล้วเป็นจริง ไม่ได้หวังเหรียญเลย เพราะคิดว่าแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว เรา 40 แล้ว คนอื่นเขามีดีกรี แต่เราก็เต็มที่ของเรา"
สุดท้ายพี่อาร์ตเข้าเส้นชัยอันดับ 2 ด้วยเวลา 1.40.06 ชั่วโมง แพ้ให้กับดาวรุ่งนักเรียนอาเซียน "เบส" กิตติพงศ์ จอนด้วง (ยศปัจจุบัน พันจ่าอากาศโท กิตติพงศ์ จอนด้วง โค้ชทีมเดินทนทีมชาติไทย) นับเป็นปีที่การแข่งขันเดินทนกีฬาแห่งชาติมีสถิติที่ดีที่สุดปีหนึ่ง
จากนั้นเส้นทางความฝันของพี่อาร์ตก็เดินหน้าต่อ จากครั้งแรกสู่ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป อาร์ต ธีระศักดิ์ ร่วมแข่งกีฬาแห่งชาติมาแล้ว 6 ครั้ง รวม 4 เหรียญรางวัล เป็น 1 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง
สิงหาคม 2566 ณ ถนนสกายวอล์ก ที่สวยงาม ริมแม่น้ำแคว ของจังหวัดกาญจนบุรี เหล่านักเดินทนจากทั่วประเทศไทย รวมตัวกันราว 50 คน เพื่อพิชิตเป้าหมายเดียวกัน ในสนามมีตั้งแต่เด็กอายุ 16 ปี และพี่อาร์ตในวัยย่าง 49 ปี ก็กลับมาล่าฝันของเขาอีกครั้ง ในนามนักกีฬากรุงเทพมหานคร
"ตอนปล่อยตัวนะ เขามีคู่ๆ กัน พี่มาคนเดียวเลย เราก็คิดแล้วว่า เราก็ไปในแบบของเรา ทำแบบที่ซ้อมมา เขาออกตัวกันแรงมาก พี่ก็เกาะติดกลุ่มนำตลอด พี่ตั้งใจมากจนมองข้ามทุกอย่าง ไม่คิดว่ามีอะไรเป็นอุปสรรคเลย ไม่เหนื่อย ไม่เครียด พร้อมมาก ซ้อมมา 5 เดือนเต็ม คิดแต่ว่าต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้"
นักกรีฑาอายุมากที่สุดที่ได้เหรียญในกาญจนบุรีเกมส์
ก่อนหน้าการแข่งครั้งนี้ พี่อาร์ตต้องกลับไปอยู่บ้าน เพราะพ่อป่วยหนัก และเสียชีวิตลงอย่างสงบ ช่วงที่ได้ดูแลพ่อ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่อาร์ตยังหยิบรองเท้าออกมาซ้อมเดินบนถนนในหมู่บ้าน หลายคนที่ไม่เข้าใจก็หัวเราะเยาะ ด่าทอว่าท่าทางเดินเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย แต่พี่อาร์ตเอาเสียงเหล่านั้นมาเป็นพลังให้ตัวเองตั้งใจยิ่งขึ้น และมุ่งมั่นกว่าเดิม
แล้วผลสำเร็จก็เป็นรางวัลของความตั้งใจ พี่อาร์ตเบียดเอาชนะเด็กรุ่นหลาน คว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเดินทน 20 กิโลเมตรได้สำเร็จ กลายเป็นนักกรีฑาอายุมากที่สุดที่ได้รางวัลจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้
"พี่เป็นคนตั้งใจมาก ทุ่มเทมาก เต็มร้อยทุกเรื่อง จบครั้งแรกก็คิดเลยว่าจะไปต่อ พี่เคยฝันจากติดธงชาติที่หน้าอก อยากไปแข่งซีเกมส์เหมือน อ.ศักดิ์ชาย (อ.ศักดิ์ชาย สมุทรเก่า อดีตนักเดินทนทีมชาติไทย) ที่เขาเคยติดตอนอายุ 43 ตอนนี้ถึงจะยากแล้ว แต่ก็ยังอยากเดินทนต่อไป"
9 ปีเต็มจากวันที่อายุเข้าเลข 4 จนถึงปัจจุบันที่อายุใกล้เลข 5 พี่อาร์ตบอกกับเราด้วยเสียงที่มีความสุขว่า "อายุไม่ใช่อุปสรรคนะ พี่อยากให้สว.(สูงวัย) ทุกคนอย่าคิดว่าตัวเองอายุเยอะแล้วหยุดฝัน เลิกวิ่งเลิกเดิน ถ้าเรายังแข็งแรง หัวใจพร้อม ร่างกายพร้อม ก็อยากให้ทำต่อไป ดูอย่างพี่อายุขนาดนี้ แข่งกีฬามหาชน พี่ก็ยังมีที่ยืนได้ ยังสู้กับเด็กๆได้"
นอกจากจะฝากถึงคนสูงวัยแล้ว พี่อาร์ตก็ยังห่วงใยไปถึงเด็กรุ่นเยาวชน ที่อาจจะท้อแท้จากการพ่ายแพ้ในวันนี้ แล้วหยุดความฝันไปโดยยังไม่พยายามให้เต็มที่ "กาญจนบุรีเกมส์คนที่อายุน้อยสุดแค่ 16-17 เอง ที่หนึ่งก็ 20 กว่าๆ ไม่อยากให้เด็กๆ ท้อแล้วรีบเลิก อยากให้เห็นลุงแล้วสู้ต่อไป โอกาสของน้องๆ ยังมีอีกเยอะ ลุงแก่ขนาดนี้แล้วก็ยังสู้เลย ต้องสู้นะ"
อีกหนึ่งความหวังของพี่อาร์ต ก็คือการปลุกกระแสให้การเดินทนกลับมาได้รับความนิยมเหมือนการแข่งชนิดอื่น เพื่อเปิดเวทีให้เด็กๆ นักเดินได้แข่งขันกันมากขึ้น เหมือนในต่างประเทศ เพื่อวันหนึ่งกีฬาชนิดนี้ จะมีนักกีฬาไทยพัฒนาได้ทัดเทียมกับนานาชาติ
TAG ที่เกี่ยวข้อง