14 ธันวาคม 2566
เหรียญเงินจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์หางโจว 2023 คือบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของทีมกรีฑาระยะสั้นไทย และเป็นการทวงเหรียญรางวัลจากการแข่งขันประเภททีมผลัดหญิงได้อย่างสง่างามอีกครั้ง ซึ่งหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนทำให้ทีมผลัดไต้ฝุ่นหญิงไทยประสบความสำเร็จได้ คือ ไม้ผลัดที่ 4 ถู สุกานดา...นี่คือเรื่องราวของเธอ จากตัวสำรองสู่บทบาทตัวจริงครั้งแรก และกลายเป็นฮีโร่คนใหม่ของประเทศไทย
4 เหรียญทองตั้งแต่แข่งวิ่งครั้งแรก
"ถู" สุกานดา เพชรรักษา เป็นเด็กจากจังหวัดตรัง เริ่มต้นชีวิตนักกีฬาตั้งแต่ชั้นประถม เพราะต้องย้ายไปเรียนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อตามพ่อและแม่ซึ่งไปทำงานที่นั่น และพรสวรรค์ทำให้ถูไปได้ไกลถึงระดับอำเภอ “หนูเริ่มวิ่งตอนเจ็ดขวบ ไปเรียนที่สุราษฎร์ เพราะพ่อแม่ทำงานที่นู่น ครูชวนให้วิ่ง ตอนนั้นอยู่โรงเรียนบ้านพรุยายชี อำเภอไชยา ครูก็ให้ซ้อมและแข่ง“
แต่เพราะเป็นลูกสาวคนเล็ก และไม่เคยห่างจากพ่อแม่ แม้จะแข่งขันแล้วชนะมาตั้งแต่เด็กแต่ความผูกพันในครอบครัวก็ทำให้ถูยังไม่รู้สึกชอบในการวิ่งมากนัก เพราะไม่อยากอยู่ไกลจากพ่อแม่ กระทั่งคัดผ่านเป็นนักวิ่งของอำเภอ ถูก็ยังคงความรู้สึกเดิม
“ตอนนั้นไม่ได้ชอบ แต่แข่งแล้วชนะ แข่งครั้งแรกก็ 4 เหรียญทองเลย ก็เลยได้ไปคัดตัวแทนของอำเภอ ตอนนั้นยังเด็กมากก็อยากลองอยากสนุก ที่ไม่ชอบเพราะต้องห่างจากแม่กับพ่อ ตอนไปเก็บตัวร้องไห้ทุกวัน พ่อแม่ก็มารับทุกวัน ไม่งั้นซ้อมเสร็จก็มีพี่สาวกับพี่ชายมารับ เพราะอายุห่างกันเยอะ 5 ปี”
ถึงแม้จะบอกว่าไม่ได้ชอบในการวิ่งแต่ถูก็ยังเก็บตัวฝึกซ้อมจนถึงชั้น ป. 6 และได้ย้ายมาเรียนที่จังหวัดตรัง คือ โรงเรียนวิเชียรมาตุ “ก็เป็นตัวแทนโรงเรียน แข่งกีฬาระหว่างโรงเรียน และภายในอำเภอ ยังชนะมาตลอด เป็นการวิ่งระยะสั้นมาตลอด ตอนนั้นหนูก็สู้มาก เพราะพ่อแม่ก็สนับสนุน เพราะเค้าก็ชอบกีฬาเหมือนกัน”
เมื่อขึ้นชั้นมัธยมถูย้ายไปเรียนที่โรงเรียนบ้านลำปลอกเหนือ อำเภอปะเหลียน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดก้าวเข้าสู่การแข่งขันกีฬาระดับเยาวชน
สู่แคมป์เยาวชนทีมชาติในวัย 14 ปี
เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 2 ถูได้ร่วมแข่งกีฬานักเรียน แล้วชนะแชมป์เก่า ทำให้สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยเห็นแวว จึงให้ถูมาเก็บตัวในแคมป์ ในตอนนั้นเธออายุเพียง 14 ปี “ตอนนั้นหนูก็ไม่อยากมานะเพราะอยากอยู่บ้านกับพ่อแม่ก็มา ๆ ไป ๆ กลับ ๆ มาตลอด”
แม้ตอนเริ่มต้นจะยังเด็กมาก แต่การเก็บตัวก็ราบรื่น มีเพียงความรู้สึกคิดถึงบ้านเท่านั้น ผ่านไประยะหนึ่งเมื่อเริ่มโตขึ้น ถูก็คิดได้ว่านี่คือเส้นทางที่เธอเลือกแล้ว ความพยายามก็นำมาสู่ความสำเร็จ ก้าวแรกในการติดทีมชาติชุดใหญ่ คือ เอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซีย ซึ่งแข่งขันก่อนโควิดจะระบาด ถูได้ติดเป็นตัวสำรองของทีมผลัดหญิง จากนั้นก็เป็น ซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ เป็นตัวสำรองเช่นกัน
ในตอนนั้น ความตั้งใจของถูคือการได้ลงตัวจริงสักครั้ง แต่หลัง 2 รายการแข่งใหญ่จบ ก็เจอปัญหาการบาดเจ็บ ต่อด้วยโควิดระบาด ไม่มีการแข่งขัน และต้องพักยาว “มีเคยท้อช่วงที่เจ็บ ช่วงก่อนโควิดจะระบาด แล้วก็พักยาวไม่ได้แข่งเลย พอโควิดจบก็คัดตัวไปซีเกมส์ที่ฮานอย“
ถูเล่าว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่พักยาวและไม่ได้ซ้อม การคัดตัวจึงไม่ผ่าน เพราะอาการบาดเจ็บ และไม่ฟิต ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า จึงคัดไม่ติด กระทั่งความฟิตกลับมาในซีเกมส์ที่พนมเปญ
ตัวจริงครั้งแรกในเอเชียนเกมส์หางโจว
”หนูรู้สึกว่านานมากกว่าจะได้เป็นตัวจริง“ ถูเล่าถึงความรู้สึกของเธอ ตลอดช่วงเวลาหกปีที่เก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ ในฐานะนักวิ่งระยะสั้นทีมชาติไทย ผ่านการติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยลงแข่งในฐานะตัวจริง รวมถึงซีเกมส์ที่พนมเปญ 2023 ก็ยังคงเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น แต่แล้วโอกาสของเธอมาถึงในเอเชียนเกมส์หางโจว
“สมาคมให้หนูซ้อมตีไม้ตั้งแต่ก่อนไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าหนูจะได้เป็นตัวจริง หนูเองคิดว่าเป็นน้องไอซ์ (อธิชา เพ็ชรกุล) มาตลอด จนกระทั่งวันที่ไปแข่ง หนูก็ยังไม่คิดว่าจะได้ลง ขนาดลงไปวอร์มแล้วก็ยังไม่คิด ตอนนั้นคิดแค่ว่า ก็จะทำให้ดีที่สุด”
ในตอนนั้นถูถูกวางตัวให้เป็นผลัดไม้สุดท้ายของทีมผลัด 4×100 เมตรหญิง โดยไม้หนึ่งคือ "ลูกกบ" สุภาวรรณ ธิปัตย์ ไม้สอง "น่าน" ศุภานิช พูลเกิด และไม้สาม "มาย" อรอุมา เชษฐา “หนูก็รู้นะว่าคนสุดท้ายมันกดดัน ก็กลัวว่าจะรับไม้ไม่ดี เพราะรู้ด้วยว่าทีมอื่นเค้าวิ่งดีมาก ก็กลัวจะโดนแซง แต่ทุกคนในทีมไม่กดดันเลย แค่บอกให้ทำดีที่สุด ให้มีสมาธิ ก่อนจะวิ่งหนูตื่นเต้นมาก ถึงกับนอนไม่หลับ คิดว่าถ้าทำไม่ได้คงจะเลิกวิ่งไปเลย”
สุดท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ทีมไต้ฝุ่นหญิงไทย เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่สอง คว้าเหรียญเงินให้กับทัพกรีฑาไทยได้สำเร็จ “หนูไม่คิดเลยว่าจะทำได้แบบนั้น รู้สึกเหลือเชื่อมาก ร้องไห้ออกมาเลย พอรู้ว่าได้เหรียญน้ำตาไหล คิดอะไรไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกของหนู และทำได้ขนาดนี้“
”สำหรับหนูมันยิ่งใหญ่มาก และสำหรับคนทั่วประเทศมันก็ยิ่งใหญ่เหมือนกัน ที่คิดจะเลิกก่อนหน้านี้ตอนที่เจ็บ หนูเคยคิดว่าตัวเองไม่พัฒนา แต่ตอนนี้ก็พร้อมที่จะสู้ต่อไป”
ณ วันนี้ ถูและทีมไต้ฝุ่นหญิงไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในทีมผลัดหญิงไทยที่ดีที่สุด ทั้งหมดก็เกิดขึ้นมาจากทีมเวิร์ก และความพยายามของทุกคน ”เอาจริงๆเหรียญเงินเอเชียนเกมส์เราไม่ได้หวัง แค่วิ่งโอเคคือเกินคาดแล้ว ตอนแรกเราคิดแค่ว่าติดเหรียญใดเหรียญหนึ่งก็ดี พอเป็นเหรียญเงินก็เลยดีใจกันมาก ทุกคนร้องไห้ เพราะเราเหนื่อยกันมาก มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา“
6 ปี บนเส้นทางการวิ่งของ ถู สุกานดา จากเด็กประถมสู่ระดับเยาวชน สู่แคมป์ทีมชาติ จากตำแหน่งตัวสำรอง สู่ไม้ผลัดที่สี่ของทีมไต้ฝุ่นหญิงไทย สำหรับนักวิ่งอายุ 20 ปี หลังจากนี้ยังมีเส้นทางอีกยาวไกล เพื่อสร้างชื่อเสียงและความสุขให้กับคนไทยต่อไป
TAG ที่เกี่ยวข้อง