stadium

ทำความรู้จัก "สมดวน-พาดา" 2 คู่พี่น้องดาวรุ่งนักวิ่งไทย

12 ธันวาคม 2566

ฉายแววโดดเด่นชัดเจนในฐานะนักวิ่งรุ่นใหม่ของการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กาญจนบุรีเกมส์ 2566 โดย 2 คู่พี่น้องตระกูล "พาดา" และ "สมดวน" ได้กลายเป็นนักวิ่งทางไกลที่น่าจับตามองของยุคนี้ 1 คู่เป็นฝาแฝด และอีก 1 คู่คือพี่น้องร่วมสายเลือด นี่คือเรื่องราวของนักวิ่งเด็กไทยยุคใหม่ ที่อาจกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในยุคต่อไป

 

 

"พี่น้องสมดวน" นักวิ่งวิบากและทางไกล

 

แฟนพันธุ์แท้การวิ่งไทยอาจเคยผ่านตาชื่อ "คิง" ธเนศ สมดวน มาก่อนแล้ว จากการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นการติดทีมชาติของธเนศครั้งแรก ในรายการวิบาก 3,000 เมตร แม้จะไม่ชนะไม่ติดเหรียญ แต่ก็แข่งขันได้จนจบและทำสถิติใหม่ให้ตัวเองได้

 

และกีฬาแห่งชาติกาญจนบุรีเกมส์ในปีเดียวกันนี้ "คิง ธเนศ" ในวัย 19 ปี โชว์ฟอร์มโดดเด่นด้วย 1 เหรียญทองจากวิบาก 3,000 เมตร และ 1 เหรียญเงินจากวิ่ง 1,500 เมตร โดยคิงนั้นได้ไปเก็บตัวกับโค้ชเชือน ศรีจุดานุ โค้ชทีมชาติไทยนาน 2 เดือนก่อนการแข่งขันครั้งนี้

 

"ประทับใจมากที่กีฬาแห่งชาติ วิบากผมก็ตั้งใจซ้อม รู้ว่าจะเจอแชมป์เก่าคนเก่งๆ ทั้งเฟรม (ชยพล บุญอุปละ แชมป์กีฬาแห่งชาติ) เดี่ยว (ปฏิการณ์ เพชรศรีชา อดีตทีมชาติไทย) และปาล์ม พงษ์สุรเชษฐ์ วงค์ไชย ดาวรุ่งจากพะเยา ตอนแรกผมกดดันมาก เพราะชอบคิดว่าอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนคู่แข่ง แต่ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามที่ตั้งใจฝึกซ้อม"

 

คิงบอกว่า เขารู้สึกว่าชัยชนะครั้งนี้ เป็นความคุ้มค่ากับการทุ่มเทซ้อมหนักที่ผ่านมา เพราะซ้อมหนักและเหนื่อยมาก สุดท้ายได้เป็นความภูมิใจของพ่อแม่ที่ลูกชายมาได้ไกลกว่าที่เคยคิดไว้ จบรายการนี้ คิง ธเนศ ทำสถิติใหม่ของตัวเองในวิบาก 3,000 เมตรไว้ที่ 9.32 นาที

 

ส่วนพี่ชาย "เจษ เจษฎา สมดวน" ซึ่งอายุห่างกัน 2 ปี ลงแข่ง วิ่งวิบาก 3,000 เมตร 10,000 เมตร และ 5,000 เมตร ได้สถิติใหม่ให้ตัวเองเช่นกันในการแข่งวิ่งวิบาก (9.48 นาที) ส่วน 10,000 เมตรทำเวลาได้ 34.12 นาทีเป็นอันดับ 6 ของการแข่งขัน

 

"ผมชอบวิ่งวิบาก ก็จะพยายามทำสถิติให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คู่กับการวิ่งทางไกล ผมเพิ่งเพิ่มระยะเป็นฮาล์ฟมาราธอนลงแข่งถนนได้ 2 งาน ผลงานดีได้ที่ 1 โอเวอร์ออล รู้สึกชอบฮาล์ฟมาก ก็จะตั้งใจมุ่งมั่นต่อไป ตอนนี้ผมซ้อมกับพี่ปลา (ลินดา จันทะชิด นักวิ่งหญิงทีมชาติไทย) อยู่ที่อุดรฯ เหมือนกัน ผมเจอกันตอนมาเรียนมหาลัย แล้วพี่ปลาเป็นอาจารย์ที่นี่"

 

 

เบื้องหลังของพี่น้อง "สมดวน"

 

เจษเล่าว่าปลา ลินดา เป็นไอดอลในการวิ่งของเขา จากการเป็นผู้หญิงตัวเล็ก แต่มุ่งมั่น ตั้งใจ วินัยสูง ซ้อมหนักได้มากกว่าผู้ชาย นั่นทำให้เขามุ่งมั่นอยากทำได้แบบเดียวกัน ซึ่งตอนนี้โค้ชที่ดูแลเจษอยู่ก็คือ ปลา ลินดานั่นเอง "พี่ปลาเขาแข็งแกร่ง เป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่ก็ทำได้ ผมมองว่าสุดยอด ผมก็รอเวลาและจังหวะเหมาะที่จะเพิ่มระยะไปมาราธอนเหมือนพี่ปลา"

 

ผลงานสร้างชื่อก่อนหน้านี้ของเจษฎา สมดวน คือกีฬามหาวิทยาลัยที่อุดรธานี ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทำสถิติใหม่ให้ตัวเอง 34.07 นาที ได้เหรียญเงิน แพ้แค่ เบล ณัฐวุฒิ อินนุ่ม คู่แฝดมหากาฬอดีตทีมชาติไทยเท่านั้น ซึ่งเจษในตอนนี้กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 ก็จะกลับไปล้างตาในการแข่งขันครั้งหน้า ต้นปี 2567 ต่อไป

 

2 ปีน้องสมดวน ยกความดีให้ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จจากจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนมัธยม บ้านไกลจากตัวเมืองอุดรฯ เป็นร้อยกิโล ตอนนั้นพี่น้องสมดวนมีครูเพชรสุพร ขันทะพล เห็นแวว และชักชวนมาซ้อม ขัดเกลาจนเติบโตส่งต่อสู่การแข่งขันระดับประเทศได้ "ถ้าไม่รู้จักครู ผมก็คงไม่รู้จักการวิ่ง และไม่พบเจอเส้นทางนี้" เจษเล่าความรู้สึก

 

นอกจากนั้น คิง ธเนศ ยังมีโค้ชเบส พันจ่าอากาศโท กิตติพงศ์ จอนด้วง โค้ชทีมชาติไทย คอยดูแลให้คำแนะนำทุกด้าน และผลักดันจนคิงมาถึงจุดที่ยืนหยัดได้ทุกวันนี้ "พี่เบสบอกว่า ให้ผมทำต่อไป ทำเหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ทำไปเรื่อยๆ ผมก็วางเป้าหมายไว้ว่าจะติดซีเกมส์สักครั้ง เพราะไทยไม่มีนักกีฬาวิบากมานานแล้ว ผมจะทำให้ดีมากกว่านี้อีก"

 

 

จากท่าสองยางสู่โพเดียมในกาญจนบุรีเกมส์

 

สร้างชื่อในฐานะนักวิ่งทางไกลตั้งแต่ระดับมัธยม ต่อเนื่องมาในรุ่นประชาชนทั่วไป สามารถแย่งชิงพื้นที่บนโพเดียมกับนักวิ่งทางไกลรุ่นพี่ได้ โดยเฉพาะขาแรงอย่าง "บิ๊ก และเบล คู่แฝดอินนุ่ม" และสัญชัย นามเขต ที่ผูกขาดโพเดียมการแข่งวิ่งทางไกลระดับประเทศมาอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหลัง แต่ในกีฬาแห่งชาติกาญจนบุรี ได้มีคู่แฝดคู่ใหม่ เข้าป้ายเหรียญทองแดงในรายการวิ่ง 5,000 เมตรชายนั่นคือ "อนุชิต-อนุชา พาดา"

 

"ชิตและชา" เป็นพี่น้องฝาแฝด ชาวท่าสองยาง จังหวัดตาก เริ่มวิ่งเมื่ออายุ 18 จากคำชวนของอาจารย์ พร้อมพงษ์ ไอยราเศวต ครูจากโรงเรียนท่าสองยางวิทยาคม โดยมีครูพร้อมพงษ์ในฐานะโค้ช และผู้ดูแลของทีมวิ่ง "ทัพไอยรา" คอยดูแลคู่พี่น้อง ขัดเกลาให้เข้าแข่งตั้งแต่ระดับเยาวชน

 

2 พี่น้องเล่าว่า "ในตอนเริ่มแรก ผมคิดว่าจะมาวิ่งเล่นทั่วไป ตามงานในอำเภอ ไม่ได้คิดว่าจะจริงจัง" แต่ในเมื่อนักกีฬามีพรสวรรค์ โค้ชผู้ดูแลย่อมอยากผลักดันให้ไกลที่สุด จึงเริ่มลงแข่งรายการวิ่งใหญ่ระดับประเทศจากกีฬาเยาวชนแห่งชาติ สู่การเป็นตัวแทนจังหวัดตาก ลงแข่งกีฬาแห่งชาติในปัจจุบัน

 

ทั้งสองคนสร้างผลงานไว้มากมายในการแข่งรุ่นเยาวชน ทั้งการวิ่ง 800 เมตร 1,500 เมตร 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร ติดเหรียญอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมาถึงการแข่งรุ่นประชาชนในกีฬาแห่งชาติ ครั้งล่าสุด ที่กาญจนบุรี โดยอนุชาสามารถคว้าเหรียญกลับไปได้ด้วย 

 

"แข่ง 5,000 เมตร ได้เหรียญทองแดง และ 1,500 เมตรเข้าที่ 4 ผมดีใจมากที่ทำสถิติได้ดีขึ้นด้วย และได้เหรียญด้วย ก่อนหน้านี้ก็ซ้อมหนักมาก ซ้อมกลางฝน พวกผมไม่มีสนามกีฬา 400 เมตร ที่ตำบลแม่ตั้น ที่ตากไม่มีสนาม ต้องซ้อมกันบนถนน ค่อนข้างลำบากเลยครับ" อนุชาเล่าถึงการต่อสู้บนเส้นทางการเป็นนักวิ่งของทั้งคู่

 

ขณะที่ผลงานในกาญจนบุรีเกมส์ของอนุชิต คือ สถิติใหม่ 5,000 เมตร ที่เวลา 16.02 นาที กลายเป็น 1 ในนักวิ่งไทยจำนวนไม่มากที่สามารถวิ่งด้วยเวลานี้ได้

 

 

ความฝันสู่การติดทีมชาติ

 

ไม่ต่างจากนักวิ่งไทยทั่วไป "ชิตและชา" มาจากครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดีนัก จึงอยากจะหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวจากการวิ่ง ทั้งสองคนเคยลงแข่งวิ่งถนน รายการตากมาราธอน โดยคนพี่ลงแข่ง 10 กิโลเมตร และคนน้องลงแข่งฮาล์ฟมาราธอน ชนะได้โอเวอร์ออลของนักวิ่งทั้งหมด "ตอนที่ชนะครูบอกว่า ให้เราตั้งใจและพัฒนาต่อไป ครูคอยสอนและดูแลตลอด" 

 

เด็กทั้งสองคน ยังไม่ค่อยได้ลงแข่งทางถนนรายการอื่นๆ มากนัก เพราะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทำให้เลือกลงแข่งในงานที่จัดในจังหวัดใกล้เคียง "เวลาไปครูก็พาไปตลอด ที่กาญจน์ด้วย ครูดูแลพวกผมดีเหมือนพ่ออีกคนนึง ทั้งค่าสมัคร รองเท้าเสื้อผ้า ครูก็ออกให้ ถ้าไม่มีครูพวกผมก็คงไม่ได้มาวิ่งแบบนี้"

 

ในอนาคตข้างหน้า คู่พี่น้องฝาแฝดพาดาจะลงแข่งเพื่อสะสมประสบการณ์ ปูทางสู่ความฝันในก้าวต่อไป อนุชาบอกว่า "ผมอยากหารายได้จากการวิ่ง อยากติดทีมชาติ อยากมีอาชีพ พ่อกับแม่อยู่ที่บ้านก็ฐานะไม่ค่อยดี เขาก็ให้กำลังใจ บอกให้สู้ต่อไป ส่วนครูบอกว่า ให้วิ่งไปจนจบมหาลัย ให้ดูแลตัวเอง และดูแลพ่อแม่ให้ได้"

 

แม้ข้อจำกัดจะมีมากมาย แต่ 2 พี่น้องคู่แฝดคู่ล่าสุดของวงการวิ่งไทย ก็ไม่เคยคิดว่ามันคืออุปสรรค ยังเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางความฝัน พิสูจน์ตัวเองในเวทีแข่งขันอย่างต่อเนื่อง จากสถิติ ทั้ง 5,000 และ 10,000 เมตร ด้วยวัย 18 ปี ถือว่าน่าจับตามองมากที่สุด ในฐานะอนาคตเลือดใหม่ของนักวิ่งทีมชาติไทย


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

โฆษณา