15 มีนาคม 2563
สระว่ายน้ำ สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกถือว่าเป็น ไฮไลท์เสมอเวลามีการแข่งขันโอลิมปิกทุกครั้ง เพราะการแข่งขันกีฬาทางน้ำอย่างว่ายน้ำหรือกระโดดน้ำ เป็นกีฬาที่น่าตื่นเต้นและมีการชิงชัยเหรียญทองมากที่สุดอีกหนึ่งชนิดกีฬาในโอลิมปิก วันนี้เราจะพามารู้จัก Tokyo Aquatics Center สระว่ายน้ำที่แพงที่สุด และทันสมัยที่สุดในโลกในเวลานี้
องค์ประกอบ และขนาด
Tokyo Aquatics Center ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักคือ Main pool, Sub pool และสระแข่งขันกระโดดน้ำ ภายในสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่ใช้งานถึง 700,000 ตารางฟุต ตัว Main pool จะมี 10 ลู่ และมีขนาดยาว 50 เมตร กว้าง 25 เมตร และลึก 3 เมตร ส่วนสระกระโดดแท่นที่สูงที่สุดอยู่ที่ 10 เมตร ตามมาตรฐานโอลิมปิก
หลังคายักษ์สุดอลังการ
ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Tokyo Aquatics Center คือหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์ และใหญ่เอามาก ๆ โดยมิติของหลังคามีความยาวถึง 160 เมตร กว้าง 130 เมตร และหนาถึง 10 เมตร น้ำหนักของหลังคามากถึง 7,000 ตันหรือ 7,000,000 กิโลกรัม โดยหลังคาจะถูกประกอบสร้างบนพื้นดิน เพื่อประหยัดงบประมาณ และเพื่อความปลอดภัย โดยจะถูกยกขึ้นไปเมื่อเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความใหญ่ของหลังคา มันจึงต้องถูกแบ่งเป็น 3 ตอน โดยใช้แกนหลักประคองถึง 4 แกน โดยในระหว่างก่อสร้างหลังคายังสามารถทำหน้าที่กันแดด กันฝน ให้กับเหล่าคนงานก่อสร้างได้อีกด้วย
ราคาแพงที่สุดในโลก
Tokyo Aquatics Center ใช้เงินก่อสร้างถึง 523 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 56,700 ล้านเยน ซึ่งนับว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสระว่ายน้ำโอลิมปิก เมื่อเทียบกับเจ้าภาพ 3 สมัยก่อนหน้านี้จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น Beijing Aquatics Center ที่ประเทศจีน ใช้ในโอลิมปิกปี 2008 มีมูลค่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน London Aquatics Center รัฐบาลอังกฤษทุ่มเงินสร้างถึง 354 ล้านเหรียญสหรัฐ นับว่าแพงแต่ก็ยังห่างกับราคาของ Tokyo Aquatics Center ส่วนที่ ริโอ เกมส์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว สระว่ายน้ำที่บราซิลมีมูลค่าเพียง 38 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นเอง
ความจุสนาม ความเท่าเทียม และความหลากหลาย
Tokyo Aquatics Center จะใช้แข่งทั้งโตเกียวโอลิมปิก รวมถึงพาราลิมปิกเกมส์ 2020 โดยในโอลิมปิกเกมส์ สนามนี้จะใช้เป็นเวทีสำหรับการแข่งขันว่ายน้ำ กระโดดน้ำ และระบำใต้น้ำ ส่วนความจุของสนามนี้จะอยู่ที่ 15,000 ที่นั่งซึ่งใกล้เคียงกับมาตรฐานของสระว่ายน้ำโอลิมปิกใน 4 ครั้งหลังที่อยู่ราว 15,000-17,000 ที่นั่ง โดยที่นั่งประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ จะถูกกันไว้เพื่อผู้พิการ หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และใช้วีลแชร์ ตามหลักความเท่าเทียม และหลากหลายของสากล
เทคโนโลยีสุดทันสมัย
กำแพง และผนังของสระว่ายน้ำ Tokyo Aquatics Center สามารถขยับเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งมันสามารถเปลี่ยนสระว่ายน้ำ 50 เมตร เป็นสระ 25 เมตรได้แบบสบาย ๆ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ในทุก ๆ การแข่งขัน หรือการฝึกซ้อม แม้แต่ความลึกก็ยังสามารถที่ปรับระดับความลึกได้อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าถึงจะแพงแต่ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลาย ทำให้สระนี้น่าจะใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่ามากทีเดียว
นอกจากกำแพงและผนังที่เคลื่อนไหวได้แล้ว เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะถูกติดตั้งเพื่อใช้ในช่วงการแข่งขันก็จะถูกจัดเต็มมาเช่นกัน อาทิ ไมโครชิพ touch pad ที่ช่วยจับเวลา reaction การออกสตาร์ตของนักกีฬา และช่วยกรรมการจับฟาวล์ หรือจะเป็นกล้องใต้น้ำ และกล้อง Bird’s-eye view ที่จะช่วยให้คนดูทางบ้านได้รับอรรถรสจากการแข่งขันมากขึ้น
สถานที่ตั้ง และการเดินทาง
Tokyo Aquatic Center อยู่ในโซน Tokyo Bay Zone ตั้งอยู่ที่ ทัตซึมิ ซีไซด์ ปาร์คที่ โอไดบะ อยู่ออกนอกจากใจกลางเมืองโตเกียวเล็กน้อย ที่นี่จะเป็นศูนย์การแข่งขันกีฬาทางน้ำ โดยการเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกสบาย สามารถเดินไปถึงได้จากหลายสถานี และสายรถไฟ รวมถึงรถประจำทาง ทั้งหมดเพื่อลดความแออัดในการเดินทางในช่วงการแข่งขันที่จะมีคนเดินทางมาเยอะมากๆ โดยการเดินทางที่สะดวกที่สุด คือเดิน 10 นาทีหรือ 700 เมตรจากสถานีรถไฟ ทัตซึมิ ของโตเกียวเมโทร สายยูระคูโช หรือจะเลือกเดิน 15 นาทีหรือ 900 เมตรจากสถานีรถไฟ ชิโอมิ เดินรถโดย เจอาร์ สายไคโย แต่ถ้าคุณนั่งรถประจำทาง คุณสามารถเดินแค่ 5 นาทีจาก ทัตซึมิ-ดานชิ หลังจากลงรถของโทอิ บัส เรียกได้ว่ามีการคิด และแก้ปัญหาการเดินทางที่แออัดจากเจ้าภาพไว้ล่วงหน้าแล้ว
แผนการหลังจบโอลิมปิก
ปัญหาที่พบได้บ่อยมากๆ ของเจ้าภาพโอลิมปิกทุกครั้ง คือสภาพสนามกีฬาราคาแพงทั้งหลาย ถูกทิ้งร้างโดยปราศจากการดูแลรักษา หรือใช้ประโยชน์ใดๆ เรื่องนี้เจ้าภาพญี่ปุ่นได้มีแผนการรองรับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดย โทโมฟูริ คูซาโน่ ผู้กำกับดูแลสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้กล่าวว่า “เราวางแผนที่จะให้ Tokyo Aquatics Center เป็นสระว่ายน้ำระดับโลกทั้งตอนแข่ง และหลังแข่งโอลิมปิก” ตามแผนการหลังโอลิมปิกสระนี้จะถูกเตรียมไว้ใช้ต้อนรับผู้คนกว่า 1,000,000 คนที่จะมาใช้งานในหนึ่งปี โดยสนามจะถูกใช้จัดการแข่งขันในทุกระดับไล่ตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงระดับนานาชาติ ในส่วนนี้จะมีคนราว 850,000 คน ที่เป็นนักกีฬาที่จะเข้ามาแข่งขันและใช้สระนี้อีก 150,000 คนจะเป็นในส่วนของขาจร ที่เป็นประชาชนทั่วไปที่จะมาใช้เวลาว่างออกกำลังกายที่สระนี้ ก็สามารถมาใช้ประโยชน์ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของเจ้าภาพญี่ปุ่นที่อยากให้ โอลิมปิกครั้งนี้เป็น โอลิมปิกแห่งความยั่งยืน ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนญี่ปุ่นไปตลอดกาล และจะต้องไม่มีอะไรเสียเปล่าแม้แต่น้อย
TAG ที่เกี่ยวข้อง